fbpx

ล่าระทึก! คนร้ายใช้มีดฟันแขนชาวต่างชาติ

ฉะเชิงเทรา 5 ส.ค. – ตำรวจไล่ล่าสกัดจับคนร้ายก่อเหตุใช้มีดฟันแขนชาวต่างชาติ คาดไม่พอใจถูกถ่ายคลิปขณะลักทรัพย์ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ แต่ยังให้การปฏิเสธ อ้างขับรถหนีตำรวจ เพราะในรถมีอุปกรณ์เสพยา


เมื่อเวลา 21.40 น. วานนี้ (4 ส.ค.64) ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำกำลังไล่ล่าจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ก่อนจะใช้อาวุธมีดทำร้ายชาวต่างชาติ บริเวณหน้าห้องเช่า พื้นที่ ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถเก๋งมุ่งหน้าเข้าไปในซอยถนนวัดบางสาย เชื่อมพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว ทางตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงวิทยุแจ้งขอกำลังตำรวจ สภ.บางน้ำเปรี้ยว ช่วยสกัดจับอีกแรง แต่เมื่อคนร้ายเห็นรถเจ้าหน้าที่อยู่ด้านหน้า จึงตัดสินใจขับรถชน จนรถของคนร้ายหมุนขวางถนน ก่อนจะเปิดประตูรถวิ่งหนีลงไปในบ่อน้ำข้างทาง แต่ก็ถูกตำรวจควบคุมตัวได้ในที่สุด

ทราบชื่อคนร้าย คือ นายมนัส จุ้ยเกิด อายุ 38 ปี จากการตรวจสอบภายในรถ พบมีดซามูไร ยาวประมาณ 1 เมตร 1 เล่ม มีดทำครัว 1 เล่ม รวมถึงอุปกรณ์การเสพยาเสพติด


สอบถามนายมนัส ยังอยู่ในอาการมึนงง พูดวกไปวนมา โดยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายชาวต่างชาติ แต่กำลังจะเข้าไปเติมน้ำมันรถ ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมจอดรถ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่า เพราะในรถมีอุปกรณ์การเสพยา จึงตัดสินใจขับรถหนี

ด้านนายเลนนอน อายุ 52 ปี ชาวสกอตแลนด์ ผู้บาดเจ็บ เผยว่า เมื่อ 2 วันก่อน มีเหตุลักทรัพย์ทุบตู้น้ำมันหยอดเหรียญ บริเวณหน้าห้องเช่า เมื่อเจ้าของห้องพักเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู ตนเองจำรถยนต์คันที่ก่อเหตุคันนี้ได้ กระทั่งช่วงหัวค่ำ ตนเองเห็นรถยนต์คันดังกล่าวกลับมาจอดบริเวณหน้าตู้เติมน้ำมัน และใช้ไม้พยายามทุบตู้ ตนจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย เมื่อนายมนัส เห็นตนเองกำลังใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพขณะก่อเหตุ จึงวิ่งเข้ามาแย่งโทรศัพท์มือถือของตนเขวี้ยงลงไปในน้ำ ก่อนจะใช้มีดฟันมาที่แขนของตน ตนจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนายมนัสจะขับรถหนีไป จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด

เบื้องต้นตำรวจควบคุมตัวนายมนัส ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บางน้ำเปรี้ยว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากนายมนัส ขับรถยนต์ชนรถตำรวจ และทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว