ชัวร์ก่อนแชร์ : สารก่อมะเร็งในข้าวสาร จริงหรือ ?

6 พฤษภาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, กลาง ณัฐนที

บนสังคมออนไลน์แชร์ “ข้าวที่ไม่มีมอดเพราะใช้สารเคมีอบ เป็นสารก่อมะเร็งและทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ หากไม่พบมอดในข้าวสารควรซาวข้าวมากกว่า 2 ครั้ง” ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญที่สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันว่า “จริงเพียงบางส่วน”

บทสรุป : จริงบางส่วน และ ไม่ควรแชร์ต่อ
• มีการใช้สารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนรมข้าวเพื่อกำจัดมอดจริง แต่สารดังกล่าวไม่ใช่สารก่อมะเร็ง และมีการควบคุมปริมาณไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สามารถกำจัดสารดังกล่าวได้ด้วยการซาวข้าวและหุงต้มผ่านความร้อน
• มีโอกาสที่โบรไมด์ไอออนจะแย่งจับไอโอดีนในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำจริง เป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการใช้ไอโอดีน แต่สำหรับบุคคลทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นกังวล

สืบหาต้นตอ ข้อมูลที่ถูกแชร์
มีการแชร์ภาพอินโฟกราฟิกคำเตือนเรื่องสารก่อมะเร็งในข้าวสาร ซึ่ง มีใจความสำคัญว่า ข้าวสารที่ไม่มีมอดเพราะใช้สารเมทิลโบรไมด์ (methyl bromide) และโบรไมด์ไอออน (bromide ion) อบข้าว ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและอาจทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ หากไม่พบมอดในข้าวสารควรซาวข้าวมากกว่า 2 ครั้ง ชุดข้อความนี้ถูกแชร์บน Facebook มาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการบันทึกภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อในแอปพลิเคชัน Line ทำให้มีผู้ส่งเรื่องเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์


FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบกับ รองศาสตราจารย์ ดร.ชนิพรรณ  บุตรยี่ อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันว่า มีการใช้สารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนรมข้าวเพื่อกำจัดมอดจริง แต่หน่วยงาน IARC ขององค์การอนามัยโลก จัดให้เมทิลโบรไมด์เป็นสารที่ไม่ก่อมะเร็งในมนุษย์ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังมีประกาศควบคุมปริมาณการใช้สารดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคด้วย

สาเหตุที่ต้องใช้สารเมทิลโบรไมด์รมข้าวสาร
รศ.ดร.ชนิพรรณ อธิบายว่า หลังจากการเก็บเกี่ยวและสีข้าวแล้ว ข้าวสารปริมาณมากจะถูกเก็บรวมกันในโรง ซึ่งอาจทำให้เกิดมอดหรือแมลงต่าง ๆ จึงมีการใช้สารเมทิลโบรไมด์ซึ่งเป็นของเหลวผสมกับน้ำในสัดส่วนที่มีการควบคุมจากกระทรวงสาธารณสุขไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แล้วฉีดพ่นให้เป็นไอหรือละอองจากที่สูงเพื่อกำจัดจุดตั้งต้นของการเกิดมอดและแมลงต่าง ๆ การใช้สารเคมีบางชนิดไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงเสมอไป คล้ายกับการใช้ยาฆ่าแมลงในผักผลไม้ มีวัตถุประสงค์ในการใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ภายใต้การกำหนดปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้น หากผู้บริโภคไม่พบมอดในข้าวสารก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสารตกค้างหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด

ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากสารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออน ไม่ใช่ “ผู้บริโภค” แต่เป็น “เกษตรกรผู้ใช้สารรมข้าว”
หน่วยงาน IARC ของ องค์การอนามัยโลก จัดให้สารเมทิลโบรไมด์ (Methyl Bromide) อยู่ใน Group 3 ซึ่งหมายถึง ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นสารที่ก่อมะเร็งในมนุษย์ แต่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพหากตกค้างในปริมาณที่สูงเกินค่าที่กำหนด โดยเมทิลโบรไมด์จะส่งผลกระทบต่อระบบการหายใจมากกว่าระบบทางเดินอาหาร ผู้ที่ต้องระมัดระวังจึงไม่ใช่ผู้รับประทาน แต่เป็นผู้ใช้สารรมข้าว เนื่องจากเมทิลโบรไมด์ไม่มีกลิ่นที่ชัดเจนทำให้ผู้ที่ได้รับสารอาจไม่รู้สึกตัวและรับสารนี้ไปเป็นปริมาณมาก ซึ่งจะส่งผลเสีย 2 รูปแบบคือ เกิดพิษเฉียบพลันเกี่ยวกับระบบหายใจ (มีอาการหายใจติดขัดภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนภายใน 2-3 วัน) และเกิดพิษเรื้อรัง (ได้รับสารอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจนส่งผลกระทบต่อระบบสมองและประสาท) อย่างไรก็ตาม สารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนไม่เกี่ยวข้องกับการก่อมะเร็ง

กำจัดสารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนได้อย่างไร ?
แม้อาจมีความเสี่ยงต่ำสำหรับผู้บริโภค แต่ถ้าหากประสงค์จะกำจัดสารดังกล่าว ก็มีแนวทางที่ทำได้ ในกระบวนการหุงข้าวมีประมาณ 2 ขั้นตอนที่สามารถกำจัดสารสารเมทิลโบรไมด์ได้ ขั้นตอนแรกคือการซาวข้าว มีงานวิจัยยืนยันว่า การซาวข้าว 1 ครั้งสามารถกำจัดสารเมทิลโบรไมด์ที่ตกค้างได้ 50% แนะนำให้ซาวข้าวประมาณ 2 ครั้งโดยไม่นำน้ำซาวข้าวนั้นกลับมาใช้ประกอบอาหารอีก ขั้นตอนที่สอง คือการหุงต้มผ่านความร้อน สารดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นไอระเหยจึงไม่ควรกักเก็บไอระเหยนั้นไว้

กฎหมายไทยกำหนดปริมาณสูงสุดที่จะพบการตกค้างของสารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนในข้าวสาร
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 387 เรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้าง ได้กำหนดปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด (Maximum Residue Limit; MRL) หรือ ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่มีได้ในข้าวสารไว้ดังนี้

1. เมทิลโบรไมด์ (methyl bromide) ณ จุดรมหลังจากระบายแก๊สออก ให้ข้าวสารสัมผัสกับอากาศไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง = 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ณ จุดจําหน่าย = 0.01 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
2. โบรไมด์ไอออน (bromide ion) จากการใช้เมทิลโบรไมด์และรวมถึง จากแหล่งอื่น ๆ แต่ไม่รวม โบรมีนที่ยึดด้วย พันธะโคเวเลนซ์ (covalently bound bromine) = 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ซึ่งค่าปริมาณดังกล่าว เป็นค่าที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้วว่าไม่กระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค ข้าวสารที่มีปริมาณเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนตกค้างสูงเกินค่านี้จะถือว่าผิดกฏหมาย

โบรไมด์ไอออน กับ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ จริงหรือ ?
ในประกาศที่แชร์กันระบุว่า โบรไมด์ไอออนจะแย่งจับไอโอดีนในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำนั้นมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ตัวที่จะจับกับไอโอดีนไม่ใช่โบรไมด์ไอออนอย่างเดียว สารที่อยู่ในธรรมชาติบางชนิด เช่น ผักกะหล่ำปลีถ้าไม่ผ่านความร้อนจะมีตัวที่ไปจับไอโอดีนเหมือนกัน ตรงนี้เป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการใช้ไอโอดีนมากกว่า เช่น ผู้ที่เป็นไฮโปไทรอยด์ และไฮเปอร์ไทรอยด์ แต่สำหรับบุคคลทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นกังวลแต่อย่างใด

เรื่องที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับข้าวสารไม่ใช่เมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออน แต่เป็นเรื่องของโลหะหนัก เพราะโลหะหนักไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการซาวข้าว จึงต้องเลือกซื้อจากแหล่งที่มั่นใจว่าไม่มีการตกค้าง 

บทสรุป : จริงบางส่วน และ ไม่ควรแชร์ต่อ
รศ.ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ ยืนยันว่า มีการใช้สารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนรมข้าวเพื่อกำจัดมอดจริง แต่ใช้ในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สามารถกำจัดสารดังกล่าวได้ด้วยการซาวข้าวและหุงต้มผ่านความร้อน ที่สำคัญคือหน่วยงาน IARC ขององค์การอนามัยโลก จัดให้เมทิลโบรไมด์เป็นสารที่ไม่ก่อมะเร็งในมนุษย์ จึงไม่ควรแชร์คำเตือนเรื่องสารก่อมะเร็งในข้าวสารต่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม

ข้อมูลอ้างอิง :
https://monographs.iarc.who.int/list-of-classifications
http://food.fda.moph.go.th/law/data/announ_moph/P387.PDF
http://www.chemtrack.org/Chem-Detail.asp?ID=06050
https://www.facebook.com/100006098883332/posts/2825798970966705/

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]