ชัวร์ก่อนแชร์ : สารก่อมะเร็งในข้าวสาร จริงหรือ ?

6 พฤษภาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, กลาง ณัฐนที

บนสังคมออนไลน์แชร์ “ข้าวที่ไม่มีมอดเพราะใช้สารเคมีอบ เป็นสารก่อมะเร็งและทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ หากไม่พบมอดในข้าวสารควรซาวข้าวมากกว่า 2 ครั้ง” ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญที่สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันว่า “จริงเพียงบางส่วน”

บทสรุป : จริงบางส่วน และ ไม่ควรแชร์ต่อ
• มีการใช้สารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนรมข้าวเพื่อกำจัดมอดจริง แต่สารดังกล่าวไม่ใช่สารก่อมะเร็ง และมีการควบคุมปริมาณไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สามารถกำจัดสารดังกล่าวได้ด้วยการซาวข้าวและหุงต้มผ่านความร้อน
• มีโอกาสที่โบรไมด์ไอออนจะแย่งจับไอโอดีนในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำจริง เป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการใช้ไอโอดีน แต่สำหรับบุคคลทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นกังวล

สืบหาต้นตอ ข้อมูลที่ถูกแชร์
มีการแชร์ภาพอินโฟกราฟิกคำเตือนเรื่องสารก่อมะเร็งในข้าวสาร ซึ่ง มีใจความสำคัญว่า ข้าวสารที่ไม่มีมอดเพราะใช้สารเมทิลโบรไมด์ (methyl bromide) และโบรไมด์ไอออน (bromide ion) อบข้าว ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและอาจทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ หากไม่พบมอดในข้าวสารควรซาวข้าวมากกว่า 2 ครั้ง ชุดข้อความนี้ถูกแชร์บน Facebook มาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการบันทึกภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อในแอปพลิเคชัน Line ทำให้มีผู้ส่งเรื่องเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์


FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบกับ รองศาสตราจารย์ ดร.ชนิพรรณ  บุตรยี่ อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันว่า มีการใช้สารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนรมข้าวเพื่อกำจัดมอดจริง แต่หน่วยงาน IARC ขององค์การอนามัยโลก จัดให้เมทิลโบรไมด์เป็นสารที่ไม่ก่อมะเร็งในมนุษย์ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังมีประกาศควบคุมปริมาณการใช้สารดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคด้วย

สาเหตุที่ต้องใช้สารเมทิลโบรไมด์รมข้าวสาร
รศ.ดร.ชนิพรรณ อธิบายว่า หลังจากการเก็บเกี่ยวและสีข้าวแล้ว ข้าวสารปริมาณมากจะถูกเก็บรวมกันในโรง ซึ่งอาจทำให้เกิดมอดหรือแมลงต่าง ๆ จึงมีการใช้สารเมทิลโบรไมด์ซึ่งเป็นของเหลวผสมกับน้ำในสัดส่วนที่มีการควบคุมจากกระทรวงสาธารณสุขไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แล้วฉีดพ่นให้เป็นไอหรือละอองจากที่สูงเพื่อกำจัดจุดตั้งต้นของการเกิดมอดและแมลงต่าง ๆ การใช้สารเคมีบางชนิดไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงเสมอไป คล้ายกับการใช้ยาฆ่าแมลงในผักผลไม้ มีวัตถุประสงค์ในการใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ภายใต้การกำหนดปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้น หากผู้บริโภคไม่พบมอดในข้าวสารก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสารตกค้างหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด

ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากสารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออน ไม่ใช่ “ผู้บริโภค” แต่เป็น “เกษตรกรผู้ใช้สารรมข้าว”
หน่วยงาน IARC ของ องค์การอนามัยโลก จัดให้สารเมทิลโบรไมด์ (Methyl Bromide) อยู่ใน Group 3 ซึ่งหมายถึง ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นสารที่ก่อมะเร็งในมนุษย์ แต่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพหากตกค้างในปริมาณที่สูงเกินค่าที่กำหนด โดยเมทิลโบรไมด์จะส่งผลกระทบต่อระบบการหายใจมากกว่าระบบทางเดินอาหาร ผู้ที่ต้องระมัดระวังจึงไม่ใช่ผู้รับประทาน แต่เป็นผู้ใช้สารรมข้าว เนื่องจากเมทิลโบรไมด์ไม่มีกลิ่นที่ชัดเจนทำให้ผู้ที่ได้รับสารอาจไม่รู้สึกตัวและรับสารนี้ไปเป็นปริมาณมาก ซึ่งจะส่งผลเสีย 2 รูปแบบคือ เกิดพิษเฉียบพลันเกี่ยวกับระบบหายใจ (มีอาการหายใจติดขัดภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนภายใน 2-3 วัน) และเกิดพิษเรื้อรัง (ได้รับสารอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจนส่งผลกระทบต่อระบบสมองและประสาท) อย่างไรก็ตาม สารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนไม่เกี่ยวข้องกับการก่อมะเร็ง

กำจัดสารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนได้อย่างไร ?
แม้อาจมีความเสี่ยงต่ำสำหรับผู้บริโภค แต่ถ้าหากประสงค์จะกำจัดสารดังกล่าว ก็มีแนวทางที่ทำได้ ในกระบวนการหุงข้าวมีประมาณ 2 ขั้นตอนที่สามารถกำจัดสารสารเมทิลโบรไมด์ได้ ขั้นตอนแรกคือการซาวข้าว มีงานวิจัยยืนยันว่า การซาวข้าว 1 ครั้งสามารถกำจัดสารเมทิลโบรไมด์ที่ตกค้างได้ 50% แนะนำให้ซาวข้าวประมาณ 2 ครั้งโดยไม่นำน้ำซาวข้าวนั้นกลับมาใช้ประกอบอาหารอีก ขั้นตอนที่สอง คือการหุงต้มผ่านความร้อน สารดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นไอระเหยจึงไม่ควรกักเก็บไอระเหยนั้นไว้

กฎหมายไทยกำหนดปริมาณสูงสุดที่จะพบการตกค้างของสารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนในข้าวสาร
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 387 เรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้าง ได้กำหนดปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด (Maximum Residue Limit; MRL) หรือ ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่มีได้ในข้าวสารไว้ดังนี้

1. เมทิลโบรไมด์ (methyl bromide) ณ จุดรมหลังจากระบายแก๊สออก ให้ข้าวสารสัมผัสกับอากาศไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง = 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ณ จุดจําหน่าย = 0.01 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
2. โบรไมด์ไอออน (bromide ion) จากการใช้เมทิลโบรไมด์และรวมถึง จากแหล่งอื่น ๆ แต่ไม่รวม โบรมีนที่ยึดด้วย พันธะโคเวเลนซ์ (covalently bound bromine) = 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ซึ่งค่าปริมาณดังกล่าว เป็นค่าที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้วว่าไม่กระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค ข้าวสารที่มีปริมาณเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนตกค้างสูงเกินค่านี้จะถือว่าผิดกฏหมาย

โบรไมด์ไอออน กับ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ จริงหรือ ?
ในประกาศที่แชร์กันระบุว่า โบรไมด์ไอออนจะแย่งจับไอโอดีนในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำนั้นมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ตัวที่จะจับกับไอโอดีนไม่ใช่โบรไมด์ไอออนอย่างเดียว สารที่อยู่ในธรรมชาติบางชนิด เช่น ผักกะหล่ำปลีถ้าไม่ผ่านความร้อนจะมีตัวที่ไปจับไอโอดีนเหมือนกัน ตรงนี้เป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการใช้ไอโอดีนมากกว่า เช่น ผู้ที่เป็นไฮโปไทรอยด์ และไฮเปอร์ไทรอยด์ แต่สำหรับบุคคลทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นกังวลแต่อย่างใด

เรื่องที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับข้าวสารไม่ใช่เมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออน แต่เป็นเรื่องของโลหะหนัก เพราะโลหะหนักไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการซาวข้าว จึงต้องเลือกซื้อจากแหล่งที่มั่นใจว่าไม่มีการตกค้าง 

บทสรุป : จริงบางส่วน และ ไม่ควรแชร์ต่อ
รศ.ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ ยืนยันว่า มีการใช้สารเมทิลโบรไมด์และโบรไมด์ไอออนรมข้าวเพื่อกำจัดมอดจริง แต่ใช้ในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สามารถกำจัดสารดังกล่าวได้ด้วยการซาวข้าวและหุงต้มผ่านความร้อน ที่สำคัญคือหน่วยงาน IARC ขององค์การอนามัยโลก จัดให้เมทิลโบรไมด์เป็นสารที่ไม่ก่อมะเร็งในมนุษย์ จึงไม่ควรแชร์คำเตือนเรื่องสารก่อมะเร็งในข้าวสารต่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม

ข้อมูลอ้างอิง :
https://monographs.iarc.who.int/list-of-classifications
http://food.fda.moph.go.th/law/data/announ_moph/P387.PDF
http://www.chemtrack.org/Chem-Detail.asp?ID=06050
https://www.facebook.com/100006098883332/posts/2825798970966705/

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]