ชัวร์ก่อนแชร์: นอนคว่ำ-นอนตะแคง เพิ่มออกซิเจนในปอด ให้ผู้ป่วยโควิด-19 จริงหรือ?

14 กรกฎาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง/เรียบเรียง โดย : ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์/พีรพล อนุตรโสตถิ์


บนสังคมออนไลน์ มีการแชร์คำแนะนำให้ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่ได้เตียงในการรักษา ให้นอนคว่ำ นอนตะแคง นอนหงาย สลับกันไปทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ปอดเกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น และช่วยในการขับเสมหะ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วพบว่า แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม ในกรณีที่พบการอักเสบของปอดทั้ง 2 ข้าง การนอนคว่ำจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในปอดให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น

บทสรุป แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง         


  • ในกรณีที่พบการอักเสบของปอดทั้ง 2 ข้าง การนอนคว่ำจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในปอดให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น
  • สำหรับคนที่ร่างกายปกติ สุขภาพแข็งแรง การนอนคว่ำ ไม่ได้ช่วยเพิ่มประโยชน์แต่อย่างใด

ข้อมูลที่ถูกแชร์

 “สำหรับคนที่ยังไม่ได้เตียง เริ่มเหนื่อยๆ ไม่รู้ระดับอ็อกซิเจนปลายนิ้ว ให้นอนคว่ำ ตะแคง หงาย หัวสูงวนไปนะคะ สลับทุก 2 ชม. หาหมอนมารองตามข้อต่อ เอาให้นอนแล้วสบายตัว ปกติถ้าอ็อกต่ำกว่า 94 จะเริ่มหายใจเร็ว หรือถ้าเดินในบ้านจะเริ่มเหนื่อยๆ ละ….บางคนงง อธิบายง่ายๆว่า ส่วนของปอดที่โดนกดทับจะขยายตัวไม่ดี แลกเปลี่ยนแก๊สไม่ดี ปอดแฟ่บได้ เสมหะค้างอีก ยิ่งเวลาเราป่วย เราจะนอนนาน นอนทั้งวัน การนอนแบบนี้จะทำให้ส่วนที่โดนกดทับได้ออกมาขยับขยายบ้าง สลับๆกัน”
              
นอกจากนี้ยังมีการแชร์ข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมภาพประกอบท่านอนในอิริยาบถต่างๆ เพื่อเพิ่มออกซิเจนในปอด โดยข้อมูลดังกล่าวได้ถูกส่งเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

Fact Check : ตรวจสอบข้อมูล  


     ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบข้อมูลกับ พญ.เปี่ยมลาภ แสงสายัณห์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้คำตอบดังนี้ 

Q: มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นคำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโควิดที่ยังไม่ได้เตียง โดยให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ นอนตะแคง นอนหงาย ยกหัวให้สูง สลับกันไปทุก 2 ชั่วโมง รวมถึงหาหมอนมารองตามข้อต่อเพื่อไม่ให้ปอดถูกกดทับ เป็นคำแนะนำที่ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร 
A: ข้อมูลที่ถูกแชร์ ไม่ใช่การกล่าวอ้างที่ถูกต้องทั้งหมด คำแนะนำที่ถูกต้องคือ การนอนคว่ำจะมีประโยชน์กับคนไข้ที่พบการอักเสบของปอดทั้งสองข้าง ในกรณีที่ไม่ใส่ท่อหรือให้ยาสำหรับการช่วยหายใจ ในกรณีนี้มีคำแนะนำให้นอนคว่ำได้ 2 ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริงก็อาจจะมีทั้งผู้ที่นอนได้และนอนไม่ได้ หากพบอาการปอดอักเสบทั้งสองข้างและมีระดับออกซิเจนตก การนอนคว่ำจะช่วยให้เนื้อปอดมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหัวใจจะถูกสลับตำแหน่งให้อยู่บริเวณด้านล่างของร่างกายแทน เนื้อปอดก็จะมีพื้นที่มากขึ้น มากกว่าการที่เรานอนหงาย และทำให้ออกซิเจนไม่ตก อย่างไรก็ตามไม่ได้แนะนำว่าให้นอนคว่ำแล้วอาการของโรค จะหายไปในทันที แต่วิธีการดังกล่าวเป็นการช่วยประทังให้คนไข้ลดอาการเหนื่อยและภาวะที่มีออกซิเจนต่ำได้ เพราะฉะนั้นการนอนคว่ำจะแนะนำในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะปอดอักเสบแล้ว แต่ไม่แนะนำในผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับเชื้อโควิด-19 ซึ่งยังไม่มีอาการปอดอักเสบหรือออกซิเจนตก

Q : หากภาวะปอดอักเสบข้างเดียว การนอนคว่ำสามารถช่วยเพิ่มออกซิเจนได้หรือไม่
A :
หากเป็นผู้ติดเชื้อด้วยโรคโควิด-19 จะเกิดการอักเสบของปอดทั้งสองข้างเท่าๆ กัน เพราะฉะนั้นการนอนคว่ำจะเป็นกระบวนการที่ดีที่สุด แต่หากบางคนเกิดอาการปอดอักเสบข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งพบได้น้อย แพทย์จะแนะนำให้นอนตะแคงในข้างที่ไม่ได้เกิดการอักเสบของปอด การนอนคว่ำจะเกิดประโยชน์ในกรณีที่ออกซิเจนต่ำ โดยคนปกติจะมีออกซิเจนจะอยู่ที่ 98-100 ถ้าออกซิเจนต่ำกว่านั้น การนอนคว่ำจะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้นและช่วยลดภาวะอาการเหนื่อยหอบได้

Q : การนอนหงาย ช่วยให้ปอดขยายดีขึ้นหรือไม่ 
A:
หากสุขภาพร่างกายดีอยู่แล้ว การนอนคว่ำไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรให้ดีขึ้น เพราะร่างกายเราดี และมีออกซิเจนที่ปกติดีอยู่แล้ว

Q : มีการแชร์ข้อมูลว่า ถ้าออกซิเจนในร่างกายต่ำกว่า 94 เราจะเริ่มหายใจเร็วและมีอาการเหนื่อย จริงหรือไม่ และในผู้ป่วยโควิด-19 ระดับออกซิเจนควรจะอยู่ประมาณเท่าใด
A: ความเหนื่อยขึ้นอยู่กับการรับรู้ของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งความรู้สึกจากการเหนื่อยของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ถ้าถามว่าระดับออกซิเจนที่ 94 จะทำให้ทุกคนเหนื่อยได้หรือไม่ สามารถตอบได้ว่าอาจจะทำให้บางคนมีอาการเหนื่อยมาก บางคนมีอาการเหนื่อยน้อย เพราะการรับรู้ความเหนื่อยของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ถ้าถามว่าต้องมีระดับออกซิเจนเท่าไหร่ถึงจะทำให้รู้สึกเหนื่อยนั้น พบว่าจะเกิดขึ้นในกรณีที่มีออกซิเจนต่ำกว่า 90 สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับค่าออกซิเจนจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนตอบสนองได้ดี ได้ยาดี ออกซิเจนไม่ตกเลยก็มี ซึ่งต้องดูเป็นกรณีๆ ไป 

Q : ท่านอนที่ถูกต้อง และดีสำหรับปอด ควรนอนท่าใด
A : ยังไม่พบว่าการนอนท่าใดแล้วจะทำให้ปอดแข็งแรง และการนอนท่าไหน ไม่ได้มีผลทำให้ปอดแข็งแรง แต่จะมีการพูดเพียงว่าการนอนคว่ำทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น เนื่องจากเนื้อปอดมีการขยายตัวขึ้น และหัวใจตกไปอยู่ด้านล่างของร่างกาย ซึ่งจะทำให้ถุงลมขยายตัวได้เต็มที่ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องออกซิเจนต่ำและเกิดอาการปอดอักเสบทั้งสองข้าง อย่างไรก็ตามหากเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่มีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย และออกซิเจนไม่ต่ำ ยังสามารถนอนท่าที่ถนัดได้ตามปกติ

Q : คำแนะนำในการปฏิบัติตัวช่วงป่วยโควิด-19
A : ผู้ป่วยโควิด-19 ควรดูแลร่างกายให้แข็งแรง ทานอาหารที่เหมาะสม ทั้งนี้หากยังไม่พบอาการเหนื่อย และยังเป็นเหมือนคนปกติ ยังสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ ก็สามารถทำได้ตามขีดจำกัดที่เรามี เพราะจะเป็นตัวช่วยที่ทำภูมิของเราดีขึ้น

Q: สรุปแล้วข้อความที่มีการแชร์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียนี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ และสามารถแชร์ต่อได้หรือไม่
A : ถามว่าแชร์ได้หรือไม่ ก็สามารถบอกได้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่ดีที่สุดคือต้องเข้าใจว่า ทำไมเราถึงต้องทำแบบนี้ และเรามีคุณสมบัติที่จะต้องทำตามหรือไม่ จำเป็นต้องนอนคว่ำหรือเปล่า หากคุณเป็นคนปกติและระดับออกซิเจนก็อยู่ในระดับปกติก็ไม่ได้มีประโยชน์ในการนอนคว่ำหรือทำตามที่โซเชียลมีเดียแชร์ข้อมูลกัน ข้อมูลนี้ไม่ได้เป็นข้อมูลเชิงลบว่าไม่ถูกต้อง แต่การที่เราเปลี่ยนอิริยาบถและขยับร่างกายก็จะช่วยในเรื่องการขับเสมหะได้ ฉะนั้นเรื่องนี้สามารถแชร์ต่อได้ แต่ต้องอธิบายเพิ่มว่าใครที่ทำแล้วได้ประโยชน์ ทำเพื่ออะไร เข้าใจวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามคำแนะนำ ส่วนการขยับร่างกายบ่อยๆ ก็เป็นเรื่องที่มีประโยชน์สำหรับทุกคนอยู่แล้ว 

ข้อมูลอ้างอิง
การสัมภาษณ์พญ.เปี่ยมลาภ แสงสายัณห์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย