“ณัฐพงษ์” ชี้วันนี้เป็นหมุดหมายแรกของรัฐบาล 4 เดือนนับถอยหลังยุบสภา

รัฐสภา 29 ก.ย.-“ณัฐพงษ์” ชี้วันนี้เป็นหมุดหมายแรกของรัฐบาล 4 เดือนนับถอยหลังยุบสภา ลั่นในฐานะผู้นำฝ่ายค้านจะถ่วงดุลตรวจสอบเต็มที่ ย้ำพรรค ปชน. ไม่ได้โหวต “อนุทิน” มาใช้อำนาจมิชอบแทรกแซงคดีเขากระโดง- ฮั้ว สว. ขอเคารพข้อตกลง MOA -กระบวนการยุติธรรม-ประชาชน ลั่นไทยต้องมี รธน.ฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ มีเสถียรภาพ

การประชุมร่วมรัฐสภา ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ของ รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม


โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดการอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่า นอกจากจะเป็นหมุดหมายแรกที่รัฐบาลจะเข้าทำหน้าที่ภายใต้กรอบระยะเวลา 4 เดือนอย่างเป็นทางการแล้วยัง ถือว่าเป็นหมุดหมายแรกของตนและพรรคประชาชนในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพื่อนับถอยหลังสู่การยุบสภาแล้วมุ่งหน้าสู่การจัดทำประชามติ สู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เบื้องต้นขอให้ประธานรัฐสภานายกรัฐมนตรีและเพื่อนสมาชิกทุกคนลองหวนละลึกถึงวันที่ทุกคนมีสิทธิ์ในการเลือกตั้งเข้าคูหาครั้งแรกในชีวิตว่าประสบการณ์ในชีวิตของท่านนับตั้งแต่วันที่เข้าคูหาเลือกตั้งจนถึงวันนี้ท่านมีประสบการณ์ต่อการเมืองเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างไรบ้าง


โดยขอให้ลองดูที่รุ่นแรกที่อาจจะเกิดในยุค 2500 กว่าๆ ในวัยที่เขามีสิทธิเลือกตั้งในวัยหนุ่มสาว ในยุคที่เรียกว่าโชติช่วงชัชวาล จีดีพีของประเทศนั้นเติบโตเฉลี่ย 9.7% เพราะประเทศได้รับอานิสงส์ จากการเมืองโลกที่มีการทำข้อตกลงคาซ่า จนทำให้เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมากและเราได้รับการขนานนามว่าเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย ใครก็ตามที่เกิดในยุคนี้อาจผ่านการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง และลองหันมาดู เพื่อนสมาชิกในรัฐสภาหลายคนที่เกิดยุคปี 2530 ผ่านช่วงชีวิตวัยรุ่น มากับการปฏิวัติรัฐประหารปี 2549 การปฏิวัติครั้งแรกในชีวิตของตนยังจำความไม่ได้เกิดขึ้นในปี 2534 แต่ที่ตนจำความได้คือ 19 ปีนับตั้งแต่การปฏิวัติปี 2549 ที่ทำให้ชีวิตของตนผ่านการปฏิวัติเพิ่มอีก 2 ครั้ง นายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งถูกปลดออกไปจากตำแหน่งถึง 5 คน พรรคการเมืองที่สำคัญถูกยุบไป 7 พรรค และการเลือกตั้งถูกล้มไปอีก 2 ครั้ง และในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เราต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน

“คำถามคือไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ รุ่นตน หรือคนรุ่นไหนๆ ปู่ย่าตายายครึ่งชีวิตที่ผ่านในยุคสงครามเย็น มีคนไทยรุ่นไหนหรือไม่ ที่พวกเขาเดินเข้าคูหาเลือกตั้งแล้วนับตั้งแต่วันที่เกิด จนถึงวันที่มีสิทธิเลือกตั้ง ชีวิตของพวกเขาประเทศไทยไม่เคยมีการปฏิวัติรัฐประหารเลย ตนจึงขอให้ทุกคนลองถามตัวเองว่าวันแรกที่เดินเข้าคูหาเลือกตั้งชีวิตของท่านมีใครหรือไม่ ที่ไม่เคยมีการปฏิวัติรัฐประหารเลย ไม่ใช่เพียงสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ต้องถามไปยังคนไทย 50 ล้านคน ทั่วประเทศ ที่เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นไหนในประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่เคยมีคนรุ่นไหนเลยที่เดินเข้าคูหาเลือกตั้งแล้วประเทศไทยไม่เคยมีการปฏิวัติรัฐประหาร น่าตกใจ และที่ผ่านมาไม่เคยมีคนไทยสักรุ่นที่เกิดและเติบโตมาในประเทศนี้ที่อยู่ในการเมืองประชาธิปไตยเต็มใบที่มีเสถียรภาพเสียที” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่า อยากให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยการบอกให้เห็นว่าประเทศไทยที่ผ่านมา ไม่เคยมีสักยุคที่ดอกผลการพัฒนาเศรษฐกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดด เกิดจากแรงถีบและแรงส่งของรัฐบาล และการเมืองภายในประเทศ ที่มีความเป็นประชาธิปไตย ไม่ได้เกิดจากแรงฉุดและแรงราบจากอานิสงส์ที่เราได้รับจากการเมืองโลก และลมที่กำลังเปลี่ยนทิศการเมืองโลกขณะนี้ไม่ได้กำลังเข้าข้างประเทศไทยอีกต่อไป คำถามคือด้วยการเมืองแบบที่เป็นอยู่ที่ทำให้เราต้องมาแถลงนโยบายถึง 3 ครั้ง ในรอบ 2 ปี เนื่องจากกลไกของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระถูกนำมาใช้ทำลายล้างกันทางการเมือง มากกว่ามาจับคนโกงลงโทษคนผิด ปัญหาการทุจริตในประเทศไม่เคยเบาบางลงแต่หนักขึ้นทุกวัน ด้วยการเมืองแบบนี้หรือที่จะทำให้การเมืองไทยเดินไปข้างหน้าได้


ตราบใดที่เรายังอยู่ในระบบการเมืองแบบนี้มีใครในประเทศนี้ที่ต้องเจ็บปวดบ้าง เกษตรกรใช่หรือไม่ที่ผลผลิตราคาตกต่ำ ปุ๋ยแพงนี่ท่วมหัว และยังเป็นหนี้นอกระบบที่กู้ไปเลี้ยงครอบครัว ใช่คนไทยทุกคนหรือไม่ที่ต้องทนอยู่กับฝุ่น PM2.5 ต้องตายแบบผ่อนส่งทุกปี กฎหมายอากาศสะอาดยังล่าช้าผ่านสภาออกไปไม่ได้ ปัญหาน้ำท่วมไฟป่ายังไม่เคยมีรัฐบาลยุคใด สมัยใดที่เข้ามาจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนในต่างจังหวัด 64 ปีมาแล้ว ที่เคยอยู่กับคำขวัญที่ว่าน้ำไหลไฟสว่างทางดีมีงานทำ เป็นคำขวัญที่อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 1 ปี 2504 แล้วตอนนี้ลองหันไปดูประชาชนหลายที่ น้ำไม่ไหลไฟไหม้สว่างทางไม่ไม่สะดวกจะไปโรงพยาบาลต้องตื่นตี 5 ไปต่อคิวที่โรงพยาบาลอำเภอ

ส่วนการศึกษาของเด็กไทยคพแนนสอบ PISA อยู่ลำดับที่ 5 ของอาเซียนเป็นรองสิงคโปร์ เวียดนามบรูไน มาเลเซีย เด็กบางคนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ระบบการศึกษาไทยไม่ได้สร้างทักษะที่จำเป็นเพื่อเตรียมตัวให้เขาแข่งขันกับโลกในอนาคตได้ หลายคนหลุดจากระบบการศึกษาทั้งที่เป็นอนาคตของประเทศ

ขณะที่เศรษฐกิจไทย เมื่อเปรียบเทียบกราฟ GDP ของโลกกับไทยและเพื่อนบ้านย้อนหลังไป 19 ปี คือ 2549 ประเทศไทยเดินช้ากว่าโลก และประเทศเพื่อนบ้านรวมไปถึงเวียดนาม เพราะ ในขณะที่โลกเติบโตเฉลี่ย 3%ต่อปี แม้จะเจอกับวิกฤตโควิดปี 2563 โลกยังฟื้นตัวได้เร็ว แต่ประเทศไทยไม่เคยฟื้นตัว ยืนอยู่บนเช่นเดียวกับโลกได้เลย อีกทั้งโครงสร้างเศรษฐกิจไทยปัจจุบันกำลังอ่อนแออุตสาหกรรมกำลังล้าหลังไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วเหมือนประเทศอื่น นี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่เป็นวงจรที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แสดงให้เห็นว่าหากขาดปัจจัยเชิงบวกที่ไทยได้รับอนิสงค์จากการเมืองโลกภายนอกเราไม่เคยเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยลำแข้งของเราเอง

เช่นเดียวกับ ดัชนีการทุจริตลดลงต่ำสุดในรอบ 12 ปีในปี 2567 ทั้งที่เรามีองค์กรอิสระมากมายเป็นเพราะกลไกการตรวจสอบที่มีถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากกว่าการปกป้องเงินภาษีของประชาชน

“รัฐธรรมนูญและระบบการเมืองแบบนี้หรือ ที่จะพาประเทศไทยพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ถึงเวลาแล้วที่เราจำเป็นต้องยกเครื่องยนต์ รถคันนี้ให้เราเดินหน้าได้อย่างเต็มกำลัง“ นายณัฐพงษ์ระบุ

นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า ถ้าเราจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญที่ยึดโยงกับประชาชน เพราะเราต้องการรัฐบาลที่มีความโปร่งใสมีประสิทธิภาพและมีความชอบธรรมยึดโยงกับประชาชน บรรดาคณะรัฐมนตรีถูกแต่งตั้งมาจากผู้ที่ ความสามารถ ไม่ได้มาจากเพียงการจัดสรรโควตา แบ่งผลประโยชน์ทางการเมือง เราต้องการรัฐบาลที่มีความชอบธรรมสะท้อนเจตจำนงของประชาชน กล้าปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อกำหนดอนาคต วางยุทธศาสตร์ชาติที่ปรับเปลี่ยนได้ตามโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้ติดล็อกอยู่กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่คสช. เป็นคนเขียนมา เราต้องการรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพเลือกลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่ถูกจุดมากกว่าการสร้างตึกตัดถนนและขุดคลอง เราต้องการรัฐบาลที่เข้ามายกระดับรายได้ เพิ่มมูลค่าสินค้าไทย ข้าว มัน ยาง คอมพิวเตอร์ ปิโตเคมี เพื่อเพิ่มอุปทานสีเขียวให้เป็นสินค้าแห่งอนาคตที่โลกต้องการ เราต้องการระบบถ่วงดุลตรวจสอบที่เป็นอิสระยึดโยงกับประชาชนเป็นระบบที่ไม่ได้ผลัดกันเกาหลัง ไม่ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธทางการเมือง แต่เป็นระบบที่ใช้การตรวจสอบอำนาจที่ไม่ชอบ และปกป้องเงินภาษีของเราทุกคน

ประเทศไทยที่ติดเครื่องยนต์ใหม่แบบนี้จำเป็นจะต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อทำให้รถยนต์คันนี้พุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง นี่คือเหตุผลที่พักประชาชนมุ่งมั่นที่จะเปิดประตูสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญ และยอมโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยข้อตกลงตามที่ปรากฏใน MOA และการทำหน้าที่ของเรา 4 เดือนต่อจากนี้ทั้งตนและนายกฯ จะเป็นสิ่งที่ประชาชนใช้ตัดสินเราในวันหน้า ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนจะทำหน้าที่ในช่วง 4 เดือนจากนี้ ในสภาวะรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือฝ่ายค้านเสียงข้างมาก คือ

1.การเปิดประตูสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายใน4 เดือน เราต้องผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ให้เสร็จก่อนการยุบสภา โดยที่มาของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญต้อง ยึดโยงกับประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใต้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
2.เราสามารถผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้มากที่สุดภายในช่วงเวลาไม่ถึง1เดือน สภา สามารถผ่านกฎหมายวาระ3 และวาระ1 ได้ 11 ชุด ครอบคลุมเศรษฐกิจการเมืองและคุณภาพชีวิต
3.ช่วง 4 เดือนนี้ รัฐบาลชุดใหม่ สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต ความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึง ปัญหาที่ตกค้างมาจากรัฐบาลชุดก่อนได้หลายเรื่อง
4.ตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านจะยังทำหน้าที่ถ่วงดุลตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพราะพรรคประชาชนไม่ได้ใช้เสียงของพวกเราโหวตให้นายอนุทิน เพื่อให้รัฐบาลใหม่ เอาอำนาจไปใช้โดยไม่ชอบ หรือเพื่อสนับสนุนการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีความเหมาะสมมาเป็นรัฐมนตรี หรืออนุญาตให้รัฐรัฐบาลไปแทรกแซงการดำเนินคดีทั้งเรื่องเขากระโดง หรือฮั้ว ส.ว.หรือการตรวจสอบคดีทุจริตในรัฐบาลที่ผ่านมา ตนและพรรคประชาชนใช้เสียงของพวกเรา เพื่อมุ่งหวังให้ 4 เดือนต่อจากนี้ เป็นโอกาสที่สำคัญในการเปิดประตูสู่อนาคตใหม่ของประเทศ ประเทศ ที่เมื่อทุกท่านหลับตาลงนึกถึงหน้าลูกหลาน พวกเขาจะเป็นลูกหลานไทยรุ่นแรกที่เดินเข้าคูหาเลือกตั้ง และตลอดช่วงชีวิตตั้งแต่เกิดจนถึงมีสิทธิเลือกตั้งพวกเขาอยู่ในระบอบการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยปราศจากการปฏิวัติรัฐประหาร ให้ประเทศพุ่งทะยานไปข้างหน้า ไม่ใช่การใช้เสียงของพวกเราไปปิดประตู และวงจรชีวิตของลูกหลานติดอยู่ในรูปติดอยู่ในระบบการเมืองแบบที่คนในรุ่นนี้กำลังเสื่อมศรัทธา

“สิ่งที่พวกเราอยากเห็นจากนายกรัฐมนตรี จะไม่ใช่แค่ต้องเคารพต่อข้อตกลงของพรรคประชาชน แต่อยากเห็นนายกฯเคารพต่อกระบวนการยุติธรรมและเคารพต่อพี่น้องประชาชนผู้ที่เป็นเจ้าของประเทศ และทรงอำนาจสูงสุดในประเทศนี้”.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]