รัฐสภา 20 ส.ค.-รฟท. ซัดกลางวงประชุม กมธ.การปกครอง “อธิบดีกรมที่ดิน” ชิงใช้อำนาจไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดง ชี้ ไม่รอผลสำรวจแบบแปลงที่ ร.ว.9 บอกรออีกไม่กี่วันใช้เป็นพยานหลักฐานแนวเขตอยู่จุดใด ลั่นแผนที่ทางรถไฟเกิดก่อน กม.เวนคืน
วันนี้ (20 ส.ค.) คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการพิจารณาแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินเขากระโดง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นประเด็นพิพาทระหว่างกรมที่ดิน และการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. โดยมี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม ซึ่งได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, อธิบดีกรมที่ดิน, อธิบดีกรมธนารักษ์ และผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ทั้งหมดได้มอบหมายผู้แทนชี้แจงแทน
นายเจนกิจ เชฏฐวาณิชย์ รองอธิบดีกรมที่ดิน ย้ำว่า การได้มาของที่ดินการรถไฟ ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดวางทางรถไฟ พ.ศ.2464 และจะมีพระราชกฤษฎีกา กำกับ 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางคร่าว ๆ และให้สำรวจให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และเมื่อได้แนวเขตที่ชัดเจนแล้ว และมีพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดินฯพ.ศ. 2464 ซึ่งทั้ง 2 ฉบับจะต้องมีแผนที่แนบที่ท้ายในราชกิจจานุเบกษา แต่จากการตรวจสอบกลับไม่ปรากฏแผนที่แนบท้าย จึงไม่ทราบว่าบริเวณที่ที่เป็นปัญหา อยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อหรือไม่
ด้าน นายเศรษฐสีห์ เหล็งบุญ ผู้ว่าคดีการรถไฟ (ทนายความ) ชี้แจงว่า การออกพระราชกิจจานุเบกษา จะออกเฉพาะข้อความในตัวกฎหมาย แต่ตัวแผนที่จะยังไม่มีมีการแนบมา เป็นเหตุทำให้อธิบดีกรมที่ดินสงสัยว่า แผนที่ที่การรถไฟใช้อ้างต่อศาลมาโดยตลอดและศาลเชื่อเป็นเอกสารแนบท้ายกฎหมายใช่หรือไม่ แต่อธิบดีกรมที่ดินมองว่าไม่ได้อยู่ในส่วนหนึ่งของราชกิจจานุเบกษาจึงทำให้ไม่สนิทใจในการรับฟังซึ่งถือเป็นเรื่องของมุมมอง และต้องมองในบริบทว่าในอดีตเทคโนโลยียังไม่ดีเท่าปัจจุบัน
ขณะที่ผู้แทนการรถไฟ ชี้แจงเพิ่มว่า เราดำเนินการสำรวจเพื่อทำแผนที่แสดงเขตว่ามีระยะเท่าไหร่ ยาวเท่าไหร่ ถึง กม.ไหน โดยให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกา ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ดังนั้นรูปแบบจึงต่างกันจากที่เราเข้าใจในการระบุว่าแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา อันนั้นเราคุยกันหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ที่เรามีพระราชบัญญัติเวนคืนที่ดิน ซึ่งกำหนดรูปแบบการเวนคืน ที่ต้องมีพระราชกฤษฎีกา มีแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ซึ่งเกิดขึ้นในยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ผู้ว่าคดีการรถไฟ ยังระบุว่า การประกาศจะสร้างทางรถไฟ ได้มีทีมที่ไปสำรวจเส้นทาง เพื่อจัดทำแผนที่ที่จะทำทางว่า มีระยะกว้างยาวเท่าใด ซึ่งแผนที่ต้องทำเสร็จก่อนที่จะออกกฎหมายอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับการปลูกบ้าน หากไม่มีแบบบ้าน ก็จะไม่ออกมาเป็นไปตามที่ต้องการแน่นอน ดังนั้น แผนที่จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย แม้จะไม่มีปรากฏตามในราชกิจจานุเบกษา จึงมีหลักฐานยืนยัน ไม่ใช่อยู่ดี ๆ แผนที่ลอยมา และย้ำว่าแผนที่เกิดก่อนกฎหมายด้วยซ้ำ
ที่ประชุมได้สอบถามถึงประเด็นหลังจากที่ศาลยุติธรรม มีคำพิพากษาให้ที่ดินเป็นของการรถไฟแล้วนั้น ผู้แทนการรถไฟฯ ชี้แจงว่า กรมที่ดิน ได้อ้างว่า ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งในคดีที่คำพิพากษาศาลฎีกา ระบุ ให้ที่ดินเป็นของการรถไฟนั้น การรถไฟฯ ไม่ได้มีเอกสารแผนที่แนบท้ายให้กรมที่ดินในการออกกฎหมาย แต่การรถไฟให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ แต่กรมที่ดิน ไม่ใช่คู่ความ จึงให้การรถไฟฯ ไปใช้สิทธิ์ผ่านศาล แต่ศาลปกครองกลางได้มีคำวินิจฉัยไปแล้วจึงมีผลผูกพันธ์หน่วยงานรัฐ ฉะนั้น เมื่อศาลตัดสินเป็นที่ดินการรถไฟแล้วจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมาย เพื่อตรวจสอบแนวเขตการรถไฟ
จากนั้น รองอธิบดีกรมที่ดิน ระบุว่า หลังศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้กรมที่ดิน มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อให้ร่วมกับการรถไฟฯ ตรวจสอบแนวที่ดินบริเวณเขากระโดง เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของการรถไฟฯ ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งผลการดำเนินการดังกล่าว อธิบดีกรมที่ดิน มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลางแล้ว เพื่อสำรวจแนวที่ดินของ รฟท.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ รฟท.
ขณะที่ ผู้แทน รฟท.ชี้แจงว่า ระหว่างที่เราจัดทำแบบ ร.ว.9 (รูปแผนที่กระดาษบางที่จำลองรูปแปลงที่ดิน) และจัดทำข้อโต้แย้งกับที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ทางอธิบดีกรมที่ดินมีหนังสือ ขอให้การรถไฟส่งเอกสารหลักฐานถึง 3 ครั้ง ทางการรถไฟก็ส่งเอกสารตอบให้ทั้ง 3 ครั้ง ซึ่งเป็นแผนที่แสดงแนวเขตที่ดินที่เราใช้ในศาล และมีเอกสารโต้ตอบกันอยู่ โดยระหว่างที่จัดทำแบบ ร.ว.9 ร่วมกันอยู่ อธิบดีกรมที่ดินชิงมีมติก่อนว่าไม่เพิกถอนเนื่องจากไม่มีเอกสารหลักฐานว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของการรถไฟหลังจากนั้นมีหนังสือแจ้งมาที่การรถไฟและการรถไฟมีการอุทธรณ์คำสั่ง ท้ายที่สุดมีการวินิจฉัยว่าการอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้นจึงเป็นเหตุให้การรถไฟนำคดีนี้ไปฟ้องเพื่อเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินที่ศาลปกครอง เนื่องจากอธิบดีกรมที่ดินชิงใช้อำนาจก่อนที่แบบ ร.ว.9 จะเสร็จโดยอธิบดีกรมที่ดินมีมติเพิกถอนก่อน ถ้ารออีกไม่กี่วัน ท่านสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้ว่าแนวเขตอยู่ในจุดใด.-316.-สำนักข่าวไทย