สภาฯ ถกภาษีทรัมป์ “ณัฐพงษ์” เสนอ 5 ข้อ แนะรัฐบาลทำงานเชิงรุก

รัฐสภา 31 ก.ค.- สภาฯ ถกญัตติด่วนผลกระทบภาษีทรัมป์ “ณัฐพงษ์” เสนอ 5 ข้อ แนะรัฐบาลทำงานเชิงรุก บอกเปิดงบฯ 69 ไร้แผนรับมือผลกระทบจริงจัง มีแต่ทุ่มร้อยล้านจ้างล็อบบี้ยิสต์ ชงปรับแผนใหม่ ถามรัฐบาลเอาอะไรไปแลกดีล

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายระวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย นายสะถิระ เผือกประพันธ์ุ สส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เสนอด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการออกมาตรการและดำเนินนโยบายเพื่อรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อตกลงในการเจรจาอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ระหว่างไทย– สหรัฐอเมริกา
เพื่อส่งคณะรัฐมนตรี ดำเนินการต่อไป


นายณัฐพงษ์ อภิปรายว่า ข่าวที่ได้รับทราบมานั้น คือในการเจรจาวันที่ 1 สิงหาคม อาจจะไม่ได้เกิดผลลัพธ์ในกรณีเลวร้ายที่สุด ซึ่งเราไม่สามารถทราบผลลัพธ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในมุมหนึ่งอาจจะเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานทั่วทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จำเป็นมากกว่าในวันนี้คือสิ่งที่เราต้องรับรู้และรับทราบตรงกันว่ารัฐบาลได้นำอะไรเข้าไปแลกในการเจรจาครั้งนี้บ้าง เพื่อประชาชนรับรู้และรู้ว่าเขาต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไร โดยในวันที่ 1 สิงหาคมจะเป็นจุดเปลี่ยนอีกจุดที่จะเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยที่เราพูดกันมาระยะใหญ่ว่าระเบียบโลกใหม่ได้เกิดแล้ว แต่ที่ผ่านมาคนไทยหลายคนยังไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เพราะผลกระทบยังมาไม่ถึง เราเห็นแต่ข่าวประเทศมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นจีนหรือสหรัฐอเมริกาที่เขาทำสงครามการค้ากัน เขาทะเลาะกัน บางวันก็ดีกัน แต่เขากลับมาเจรจาต่อรองกัน

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เรายังเห็นข่าวเรื่องตัวเลขการเจรจาภาษีที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกำแพงภาษีกับประเทศไทยไว้สูงถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งวันที่ 1 สิงหาคม เราจะได้รับทราบผลลัพธ์ว่าสรุปแล้วทีมไทยแลนด์ไปเจรจาแล้วสุดท้ายได้กลับคืนมาเท่าไหร่ และหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป คลื่นสึนามิที่แต่ก่อนคนไทยยังไม่รู้สึกเพราะรู้สึกว่ายังห่างตัวเรามาก ตอนนี้กำลังจะเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว สิ่งที่ตนอยากสื่อสารกับประชาชนรวมถึง ครม. คือวันนี้เราไม่จำเป็นต้องมาพูดถึงเรื่องตัวเลขแล้ว เนื่องจากผ่านขั้นตอนนั้นไปแล้ว แต่สิ่งที่เราต้องมาถกเถียงกันในสภาฯ วันนี้คือ การชวนให้ทุกฝ่ายกลับมามองอีกหนึ่งขั้นข้างหน้าว่าตกลงแล้วผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คลื่นสึนามิทางเศรษฐกิจลูกใหม่นี้จะถาโถมเข้ามากระทบคนไทยในภาคส่วนใดบ้าง ท่านจะช่วยให้พวกเราลดแรงกระแทก ช่วยชี้ช่องให้อพยพคนหนีจากคลื่นสึนามิได้อย่างไรบ้าง


นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้เราคงไม่ได้มาบอกรัฐบาลว่าเราจะดีลอย่างไร เพราะผ่านขั้นตอนมาหมดแล้ว แต่เราอยากทราบว่ารัฐบาลได้เตรียมทางออกไว้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่จะได้รับผลกระทบหนักคือ อุตสาหกรรมยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และอื่นๆ เนื่องจากอัตราภาษีที่เราได้รับขณะนี้มีอัตราที่สูงกว่า และตนทราบว่าผลการเจรจาในวันที่ 1 สิงหาคม เราจะได้รับการปรับลดอัตราภาษีที่ต่ำกว่า 36 เปอร์เซ็นต์ แต่หากการเจรจาล้มเหลว เกิดฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด นี่จะเป็นคลื่นสึนามิลูกใหญ่ที่จะถาโถมเข้ามาซัดหลายภาคส่วนในเศรษฐกิจของไทย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่รัฐบาลนำไปแลกกับดีลภาษีในครั้งนี้ เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการพูดถึงบุคคลที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วยเช่นกันนั่นคือเกษตรกรทั่วประเทศ

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เรายังไม่ได้รับความชัดเจนว่าตกลงแล้วดีลที่รัฐบาลเอาไปแลกคืออะไรบ้าง อาจต้องบีบให้เกษตรกรไทยต้องแข่งขันกับเกษตรกรต่างประเทศที่เขามีศักยภาพสูงกว่า และท่านนำรายได้ของใครไปแลกกับสหรัฐฯ กลับมาบ้าง วันนี้รัฐบาลหรือใครออกมาบอกเกษตรกรบ้างแล้วหรือไม่ว่าสึมามิลูกใหญ่ลูกนี้จะพาเขาไปในทิศทางใด มีใครออกมาชี้ช่องบอกเขาแล้วหรือไม่ว่าเขาต้องอพยพหนีสึนามินี้อย่างไร ควรมุ่งหน้าอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย การตัดสินใจเรื่องใหญ่เช่นนี้ ไม่ควรเป็นการตัดสินใจจากคนใดคนหนึ่งหรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง แต่ควรเป็นภารกิจร่วมกันที่ทั้งรัฐบาลและภาคประชาชนต้องทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้น และที่ผ่านมาพวกตนเรียกร้องมาโดยตลอดว่ารัฐบาลควรตั้งคณะทำงานหรือภาคีที่มาองค์ประกอบจากทุกภาคส่วนเพื่อที่ก่อนรัฐบาลจะไปเมคดีลนั้นต้องมาหารือกันอย่างรอบด้าน มีใครในห่วงโซ่ที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เราก็ไม่เคยเห็นการดำเนินการเช่นนั้น ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลควรมีการรายงานเป็นสาธารณะเพื่อให้คนได้รับทราบและการใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบอีกด้วย แล้วรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานอย่างไร เรามีข้อมูลของกลุ่มเปราะบางที่พร้อมส่งให้รัฐบาล เหลือแค่การทำงานเชิงลุกของผู้มีอำนาจที่วันนี้อยากได้ยินความชัดเจนจาก ครม.

นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนมีข้อเสนอ 5 ข้อที่อยากส่งต่อให้รัฐบาลในการทำงานเชิงลุกในเวทีระหว่างประเทศ ได้แก่ 1.ไทยต้องเริ่มเปลี่ยนการวางตัวจากรูเทคเกอร์ หรือการที่เราเป็นประเทศที่คอยทำตามคนอื่นที่คนอื่นเขียนให้ไปเป็นรูเชปเปอร์ หรือเข้าไปเป็นผู้ที่ร่วมเขียนกติกากับประเทศอื่นในเวทีภูมิภาค 2.ทำตัวให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในเวทีการค้าระหว่างการค้าให้นักลงทุนที่เขาอยากย้ายฐานการผลิตจากจีน หรือกระจายความเสี่ยงออกจากสหรัฐฯ​ หันมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งการที่เราจะทำเช่นนี้ได้ก็ขจัดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค หรือทำกิโยตินกฎหมาย ทำให้เขาสะดวกที่สุดในการที่จะให้เขามาลงทุนในประเทศ 3.ความกล้าหาญในการเปิดเวทีเจรจากับประเทศมหาอำนาจอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ไปเป็นลูกไล่ของพวกเขา 4.ยกระดับมาตรบานของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเร็วที่สุด และ 5.การที่เรามองไปด้านบน เราต้องมองไปด้านข้างด้วย ไม่ใช่ว่าเราจะหันไปเจรจากับประเทศมหาอำนาจหรือประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเดียว แต่การมองไปข้างๆ คือประเทศที่เป็นโกลบอลด์เซาท์ เราจะทำอย่างไรที่จะกำหนดบทบาทให้เรากลายมาเป็นผู้นำในการทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยกันเอง โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน


“สิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเดินเกมแบบไหน ต้องใช้การเดินบนหลักการทางการทูต เพื่อไม่ให้มองว่าไทยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ผมขอให้รัฐบาลสร้างความตระหนักต่อการสื่อสารกับประชาชน ในการเจรจาที่จะมีผลกระทบต่อประชาชน”นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการรับมือภาษีสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นงบประมาณ 3 ไม่มีกับการรับมือภาษีทรัมป์ คือ 1.ไม่ระบุชัดเจนว่าโครงการหรือแผนงานใดรับมือหรือเยียวยาผู้ได้ร้บผลกระทบจากภาษีทรัมป์อย่างไรบ้าง แต่มีเพียงการตั้งงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อจ้างล็อบบี้ยีสต์ในสหรัฐฯ 2.ไม่มีการเชื่อมโยงโครงการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับมือกับผลกระทบ หรือตามอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบและ 3.ไม่มีตัวชี้วัดหรือเป้าหมายใดๆ ในการเปลี่ยนผ่านห่วงโซ่อุปทาน

“ซึ่งกรณีดังกล่าว สะท้อนภาพที่ประชานบอกว่า ไม่มีการเตรียมรับมือจริงจังและการรับมือล่วงหน้า รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ผมมีข้อเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในระยะสั้นคือ การตั้งกลุ่มภาคี ภาครัฐและเอกชน ที่ติดตามสถานการณ์รวมถึงผลกระทบระยะยาว รวมถึงรัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลการเจรจา ว่าสหรัฐมีข้อเรียกร้องอะไรและไทยให้อะไรบ้าง นอกจากนั้นแล้วต้องวางกรอบการเงินเผื่อเยียวยาแรงงานผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงต้องบังคับใช้กฎหมาย กำกับอย่างเข้มงวด ต่อประเด็นการนำเข้าสินค้าของประเทศอื่น” นายณัฐพงษ์ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย