ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลสั่งทุกส่วนราชการเร่งให้ความช่วยประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ก.เกษตรฯ ตั้ง War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตรอย่างใกล้ชิด ส่วน ศธ.สั่งปิดโรงเรียน เร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะกันระหว่างกำลังความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลได้บูรณาความร่วมมือ สั่งการให้ทุกภาคส่วนราชการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยยึดหลักความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก พร้อมเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์
นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้ง “War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา” เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และวิเคราะห์ผลกระทบด้านการเกษตรในพื้นที่จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด ทั้งติดตามสถานการณ์พื้นที่เกษตรในแนวชายแดนแบบเรียลไทม์ และประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการผลิตพืช สินค้าเกษตร และปศุสัตว์ รวมถึง วางแผนเผชิญเหตุและเสนอแนวทาง ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานในพื้นที่ และสื่อสารสถานการณ์แก่เกษตรกรและประชาชนให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว โดยจะใช้ระบบ ข้อมูลเชิงพื้นที่ (GIS-Based Dashboard) เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะในจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรหลักที่อยู่ในรัศมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการตั้ง “ศูนย์ย่อยประสานงานจังหวัด” ในระดับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด เพื่อทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลภาคสนาม จากตำบล อำเภอ และประสานมาตรการเร่งด่วนในพื้นที่
ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ และมีคำสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในบริเวณที่เกิดเหตุการปะทะ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับให้โรงเรียนในเขตชายแดนจัดเตรียมแผนรับมืออย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการเตรียมหลุมหลบภัย หรือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน รวมถึงสั่งการให้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อรองรับนักเรียนและครอบครัวที่อาจต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ นักเรียนที่เสียชีวิต กระทรวงศึกษาธิการ จะเข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนักเรียนที่ได้รับผลกระทบด้านร่างกายและจิตใจ จะเร่งประสานการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
“รัฐบาลขอให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดน มั่นใจว่ารัฐบาลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมทุกมาตรการรองรับเพื่อบรรเทาผลกระทบ พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือในทุกด้าน สำหรับข้อร้องเรียนด้านการเกษตรหรือแจ้งข้อมูลพื้นที่เสี่ยง สามารถติดต่อ สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน ส่วนกระทรวงศึกษาธิการจะประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และจะพิจารณาเปิดเรียนตามปกติเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของนักเรียนในระยะยาว” นายอนุกูล กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย