“​ภูมิธรรม” เผย “อันวาร์” เสนอเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิง ไทยพร้อมรับหลักการ

ก.มหาดไทย 25 ก.ค-“​ภูมิธรรม” เผย “อันวาร์” เสนอเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิง ไทยพร้อมรับหลักการ แต่กัมพูชา ต้องแสดงความชัดเจน ที่ผ่านมายั่วยุ และเริ่มก่อน สื่อทั่วโลกก็ชี้ชัดเขมรเริ่มก่อน ประณาม “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” ต้องรับผิดชอบการกระทำที่เข้าข่ายอาชญากรสงคราม เผยเรียก รมว.กต. กลับไทยมาช่วยแก้ปัญหาชายแดน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าได้มีการพูดคุยกับตน และ ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา


โดยระบุว่า เมื่อวาน นายอันวาร์ ได้โทรศัพท์มาหาตน และได้พูดคุยกันจริงตามที่เป็นข่าว ขณะเดียวกัน นายอันวาร์ก็ได้โพสต์ข้อความและความเห็นต่างๆ ในฐานะประธานอาเซียน โดยพยายามที่จะเป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหา เราจึงได้คุยกันในหลักการ และเห็นว่าควรจะหาทางยุติการปะทะและการเผชิญหน้ากัน ซึ่งโดยหลักการเราไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่การที่จะให้หยุดยิงเมื่อไหร่ ต้องให้มีความชัดเจนจากทางกัมพูชา เพราะไทยได้พยายามทำการเจรจามาตลอดแต่ไม่เกิดผล และ สิ่งที่เกิดขึ้นก็เกิดการยิงเข้ามาในเขตแดนไทย ได้มีการตกลงกันไว้แล้วว่าห้ามนำอาวุธขึ้นไปยังปราสาทตาเมือนธม แต่กัมพูชานำกำลังขึ้นมาพร้อมอาวุธ เพราะฉะนั้นสถานการณ์ตอนนี้ เป็นสถานการณ์ที่เราต้องการความชัดเจน และความจริงใจในการทำ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือกันยั่วยุของทหารกัมพูชา ที่ไม่มีวินัยเท่าไร จึงส่งผลให้เกิดผลกระทบมาโดยตลอด รัฐบาลและกองทัพจึงพยายามใช้ความอดทนอดกลั้นในการแก้ไขปัญหา หากนายอันวาร์เสนอมาก็ต้องไปเคลียร์ให้ชัดเจน จนเรามั่นใจว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นจะไม่เกิดซ้ำซากอีก ถ้าชัดเจนเมื่อไรก็ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้เราให้ทหารเราตรึงกำลังไว้ เนื่องจากนายอันวาร์ได้โทรมาหาตนตอน เมื่อวานนี้ เวลา 18.00 น. แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเรารับไม่ได้ เพราะทางกัมพูชาได้เปิดแนวรบ 4 แนวใหญ่ ในเขตกองทัพภาคที่2 ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพราะฉะนั้นเจตนาที่เกิดขึ้นเริ่มต้นจากการยิงเข้ามา และสิ่งที่สำคัญที่ต้องประณาม สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีกัมพูชาก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย เพราะยิงโดยไม่ได้มีเป้าหมายทางทหาร แต่มีเป้าหมายทางพลเรือน จะเห็นได้ว่ามีลูกหนึ่งลงที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ที่ห่างจากตัวถังน้ำมันใหญ่ 40 เมตรเท่านั้น หากขยับมาแล้วโดนบริเวณถังน้ำมันจะเกิดระเบิดรุนแรง ไฟก็จะลุกท่วมในพื้นที่ของพลเรือน ซึ่งตรงนี้ผิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง และที่สำคัญโรงพยาบาลพนมดงรักได้ยิงเข้ามากลางโรงพยาบาล ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 20 กว่าคน และมีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายคน

พร้อมย้ำว่าในสิ่งที่เจรจากับการปฏิบัติขณะนี้ขัดแย้งกัน โดยกัมพูชาได้มีการรุกราน แต่ไปประกาศว่าไทยเป็นผู้รุกราน แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ดูข่าวจากสื่อมวลชนต่างประเทศกว่า 70 แห่ง ก็มีการนำเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกัน ยืนยันว่า กัมพูชาเป็นผู้ทำร้ายเราก่อน ซึ่งมีตัวอย่างข่าวอยู่เกือบทุกฉบับ ส่วนข้อมูลของทางฝั่งกัมพูชาก็มีปัญหา เพราะเป็นการพูดฝ่ายเดียว มีเจตจำนงที่จะรุกราน และละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ เนื่องจากมีการรุกรานและทำร้ายเป้าหมายที่เป็นพลเรือน ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ค่อนข้างมากและชัดเจน


ขณะที่ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ไปร่วมประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 ที่สหรัฐฯ ได้รายงานความคืบหน้ามาแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขณะนี้อยู่ที่นครนิวยอร์ก ตนจึงได้เรียกกลับมาด่วน เพื่อให้กลับมารับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบกับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติแล้ว รวมถึงเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ซึ่งคิดว่าในรายละเอียดต่างๆ ที่ให้ไปมีการอธิบายหลักฐานให้เข้าใจอยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ก็ได้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติวาระพิเศษ ซึ่งถือเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย ที่ประชุมจึงได้รับรองสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่มีเหตุยิงปะทะกัน จนกระทั่งยกระดับทางการทูตอย่างรุนแรงที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากัมพูชาจะพูดอะไร ตนยังไม่เคยเห็นท่าทีของกัมพูชาที่รู้สึกว่าได้ก่อกรรมกระทำผิดรู้สึกว่าตัวเองผิดกฎระเบียบต่างๆ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ต้องรับผิดชอบ

สำหรับการเรียกนายมาริษ กลับมาจะไม่ส่งผลถึงการเจรจากับ UNSC ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายมาริษ ได้พูดคุยโดยตรงอยู่ที่นู่น แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับจากที่ประชุมเมื่อวานนี้ และตอนที่ตนเองคุยกับนายอันวาร์ กระทรวงการต่างประเทศ ก็ร่วมอยู่ด้วย และได้สั่งการแล้วว่าให้ดำเนินการทางการในการยื่นหนังสือซึ่งคิดว่าวันนี้ก็คงจะได้ดำเนินการ


ส่วนแสดงว่าที่สหรัฐอเมริกาให้ทูต UN ของไทยดำเนินการใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า กว่าจะส่งหรือเลื่อนไปนั้นก็ลำบาก ซึ่งก็ยังไม่เห็นเหตุการณ์ แต่นายมาริษ ก็ได้นำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยอย่างเป็นทางการแล้ว

ส่วนแบบนี้เรียกว่าเป็นอาชญากรทางสงครามหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็อยู่ที่ผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง ซึ่งดูแล้วตามมาตราต่างๆ ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระหว่างประเทศก็เข้าข่ายกันสร้างอาชญากรรมระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่านายอันวาร์ พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่าอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาก่อนที่จะโทรมาหาตน ตนจึงแจ้งไปว่าหลักการโอเค แต่วิธีการที่จะจัดการ วันเวลาสถานที่ ต้องรอให้ทางฝั่งกัมพูชาแสดงให้เห็นชัดเจนเพราะไทยยึดหลักสันติวิธีมา และพยายามที่จะขอเจรจามาโดยตลอด แต่กัมพูชาไม่เคยจะสนใจ ไม่เคยเจรจา ปล่อยให้ทางการไทย ยื่นเงื่อนไขไปอย่างเดียว แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจ แล้ววันนี้ก็เห็นภาพแล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายฮุนเซน นั่งอยู่ โดยใช้แผนที่ 1 ต่อ 50,000 ซึ่งเป็นแผนที่ละเอียดที่ไทยใช้มาตลอด ทั้งที่กัมพูชาพยายามพูดว่า ให้ยึดตามแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ดังนั้นสิ่งที่ “ฮุนเซน” พูดมา ตั้งแต่ต้น ตนจึงอยากให้สาธารณะชนดูว่า สิ่งที่ สมเด็จฮุนเซน พูด ได้พูดอะไรที่เป็นความเป็นจริงหรือมีอะไรที่พลิกผันบ้าง เช่นการนำคลิปเสียงไปเปิดแล้วโพสต์ใน Facebook ส่วนตัวของตัวเอง แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นบอกว่ามีการ เอาไปให้คนอื่นและให้คนอื่นไปเผยแพร่ ตนไม่เชื่อถือ ลักษณะผู้นำอย่างไร สมเด็จฮุนเซน เชื่อถือได้หรือ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันฟ้องอยู่แล้วว่า “ถ้าคุณยึดมั่นในหลักการ ต้องยิงเข้าสู่เป้าหมายทางทหาร แต่กลับยิงจรวดที่มีลำกล้อง ติดกล้องจำนวนมากยิงเข้าใส่เลยเป้าหมายทางทหาร รูปธรรมชัดเจนว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลและเซเว่น ซึ่งอยู่ในเขตเมืองและเป็นที่อยู่ของพลเรือน ดังนั้นฮุน จะพูดอะไรก็พูดไป แต่ความเชื่อถือนั้นไม่มี” พร้อมย้ำว่า จากการติดตามสื่อต่างประเทศกว่า 70 แห่ง ก็ประณาม และได้รายงานว่ากัมพูชาเป็นคนเริ่มก่อน

นายภูมิธรรม​ ยังกล่าวถึงการอนุมัติเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบเหตุพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย​ – กัมพูชา​ อย่างไร​ ว่า​ ไม่ติดปัญหาอะไร ซึ่งขณะนี้มีการพิจารณาแล้ว ในพื้นที่สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการขยายวงเงิน จาก 20 ล้านบาท​ เป็น 50 ล้านบาท​ ส่วนพื้นที่ที่ประสบเหตุรุนแรงจะได้​ 100 ล้านบาท​ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา​ นายพีร​ะ​พันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พลังงานก็เป็นประธานการประชุม​คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณ​ภัย​ สำนักนายก​รัฐมนตรี​ ซึ่งเท่าที่ทราบเบื้องต้นแต่ยังไม่ได้มีมติออกมา​ จะขยายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น​ 1 ล้านบาท​ ส่วนผู้บาดเจ็บจะเยียวยาในเกณฑ์​ที่ลดหลั่นกันไปตามลำดับ​

นาย​ภูมิธรรม​ ยังกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ นางสาวธีรรัตน์​ สำเร็จวานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดที่มีการอพยพกว่า 100,000 คน และให้พันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ​ เพื่อจะไม่ได้เป็นข้อกล่าวหาว่าเราลงพื้นที่เลือกตั้งซ่อม​ และกลายเป็นการหาเสียง​ พร้อมมอบหมายให้นายสรวงศ์​ เทียนทอง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์​ พร้อมมอบหมายให้นางสาวจิราพร​ สินธุ​ไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์​ เพื่อเยี่ยมและให้กำลีงใจผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต​ พร้อมกับ ได้สั่งงานไปที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้นำรถบรรทุก​น้ำและอาหารพระราชทาน​ เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด

เมื่อถามว่ากรณีของงบประมาณท้องถิ่น จะต้องทำการยกเว้น​ เพื่อขอใช้งบฯ ในเหตุการณ์ดังกล่าวได้หรือไม่​ นาภูมิธรรม​กล่าวว่า​ ขณะนี้อยู่ในระหว่างพูดคุยของรัฐบาลและสำนักงบประมาณ​ ซึ่งแม้ว่าเราจะอยากให้งบฯท้องถิ่นโดยตรง​ แม้พิสูจน์​ว่างบฯ มีการกระจุกตัวหลายส่วน​ แต่จากที่คุยกับสำนักงบฯประมาณย้ำว่าหากสามารถแปลงงบประมาณมาได้​ ก็อยากดำเนินการ​ แต่หากไม่สามารถทำได้ก็ต้องมีการพูดคุยกัน และให้สำนักงบประมาณ​ดูแลไปตามความเหมาะสม​ แต่ตนขอดูในรายละเอียด​อีกครั้งก่อน​.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย