รัฐสภา 3 ก.ค.-กมธ.กาสิโน สว. ส่งการบ้านล่วงหน้า 12 ประเด็น เรียก “ผู้แทนรัฐบาล” เข้าแจง 17 ก.ค.นี้ ดักทาง หากมีความจริงใจต้องมา แม้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ “หมอวี” แนะควรถอนร่างไปศึกษาให้รอบด้านก่อน ชี้หากพรรคการเมืองต้องการทำ ควรบอกประชาชนตั้งแต่ตอนหาเสียง
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรหรือ Entertainment Complex วุฒิสภา เห็นว่ารัฐบาลอาจจะมีเจตนาจำกัดการเข้าถึงข้อมูลหรือไม่ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมาธิการจึงมีมติเชิญนายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนรัฐบาลเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม และชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย ในวันที่ 17 ก.ค. 2568
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ปัจจุบันตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาจจะต้องมอบหมายให้คนอื่นปฏิบัติหน้าที่แทน แต่หากรัฐบาลมีความจริงใจที่จะแสดงออกถึงความโปร่งใส และพร้อมมีความร่วมมือกับกระบวนการตรวจสอบของ รัฐสภาก็ขอให้นายกรัฐมนตรีมาตอบ ข้อชี้แจง ใน 12 ประเด็น ดังนี้ 1.รัฐมีการประเมินเป็นไปได้หรือไม่ว่ากิจการกาสิโนที่มีพื้นที่ไม่เกินร้อยละ 10 ของสถานบันเทิงครบวงจร จะสามารถสร้างรายได้สูงถึงร้อยละ 90 ของรายได้รวมทั้งหมดของโครงการตามที่มีการกล่าวมาหรือไม่ 2.รัฐบาลมีการอนุญาตจัดตั้งบทกาสิโนภายในสถานบันเทิงครบวงจรจำนวน 5 แห่ง จริงหรือไม่ 3.การใช้ประโยชน์ที่ดินท่าเรือคลองเตย จะเป็นการใช้ประโยชน์ที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ 4.จากข้อมูลและสมมติฐานรายได้จากผู้เล่นชาวไทย ที่รัฐบาลศึกษาและเอกชนศึกษาสวนทางกันจึงอยากทราบข้อเท็จจริง
5.การกำกับดูแลและป้องกันผลกระทบ รัฐบาลจะมีแนวทางสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณะได้อย่างไรว่าผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจะไม่เกิดผลกระทบทับซ้อนและมีการดำเนินงานอย่างโปร่งใส 6.รัฐบาลมีมาตรการดูแลเจ้าหน้าที่พิเศษ อย่างไรในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมเกี่ยวกับการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำบ่อนกาสิโน 7.รัฐบาลมีแนวทางในการกำกับดูแลตรวจสอบและป้องกันความเสียหาย การใช้อำนาจเกินขอบเขตของคณะกรรมการนโยบาย การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร
8.ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม รัฐบาลมีมาตรการใดในการป้องกันไม่ให้ธุรกิจกาสิโนกลายเป็นปัจจัยซ้ำเติมสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอาจจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียเวลาและโอกาสในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการของประเทศ 9.รัฐบาลมีมาตรการตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนและรอบด้านของข้อมูลคนเท็จจริงที่ใช้ในการตัดสินใจอย่างไร ซึ่งอาจจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือและความชอบธรรมในการผลักดันนโยบาย 10.รัฐบาลมีเหตุผลอย่างไรที่เลือกดำเนินการ ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและผลกระทบทางสังคมภายหลังการกำหนดพื้นที่และจัดหาเอกชนมาลงทุน 11.รัฐบาลมีแนวทางใดเป็นหลักประกันว่าการเลือกพื้นที่ตั้งโครงการจะไม่ละเลยมิติทางสังคมและผลกระทบเชิงลบต่อชุมชน
12.การตรวจสอบความโปร่งใสและกฎหมาย พบว่าในอดีตมีการ ศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการจัดตั้งบ่อนกาสิโนหรือมีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า รัฐบาลมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวที่อาจขาดความเป็นกลางขาดความเชื่อมโยงของบุคคลหรือกลุ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนต่างชาติหรือไม่ อีกทั้งรัฐบาลได้พิจารณาถึงความเหมาะสมในการปรับปรุงชื่อร่างพระราชบัญญัติ เพื่อให้มีความตรงไปตรงมาโปร่งใสและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนหรือไม่
ดังนั้น คณะกรรมการขอย้ำว่า รัฐบาลควรดำเนินการด้วยความโปร่งใสรอบคอบและเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้การกำหนดนโยบายสำคัญครั้งนี้สอดคล้องและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนต่อไป
นพ.วีระพันธ์ กล่าวถึงการเสนอให้มีการถอนร่างฉบับนี้ออกจากการพิจารณา ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อน ว่า กรรมาธิการมีการศึกษาที่เป็นกลางและพยายามศึกษาถึงผลกระทบความเป็นไปได้ข้อดีข้อเสีย และขณะนี้กรรมาธิการยังไม่ได้มีมติ ในเรื่องการให้ถอยร่างหรือถอนร่างดังกล่าวออกไปก่อน แต่ส่วนตัว เห็นว่าอาจจะมีการนำร่างดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ซึ่งตนหวังว่าจะเข้าใจผิด ถ้านำร่างดังกล่าวเข้ามาพิจารณาจริง การศึกษายังไม่ครบรอบด้าน อยากให้มีการชะลอไว้ก่อน ถอยไว้ก่อนถ้าถอนได้ก็ดี เพราะที่มาของเรื่องเหล่านี้มาเร็วไปหน่อย ตอนหาเสียงของพรรคการเมืองก็ไม่ได้มีเรื่องนี้ ถ้าเป็นไปได้โปร่งใสที่สุด คือต้องเริ่มตั้งแต่ตอนหาเสียง ประกาศนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองให้ชัดว่า เราต้องการกาสิโน ภาพประชาชนตัดสินใจเลือกเข้ามาจะไร้ข้อกังขา ส่วนจะมาทำประชามติหรือศึกษา ต่อไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นโยบายคาสิโนเข้ามา โดยที่ไม่มีนโยบายหาเสียงมาก่อน และตอนที่แถลงนโยบายก็ไม่ได้มีการพูดถึงกาสิโน พูดถึงแค่ Entertainment Complexเท่านั้น ฉะนั้นคาสิโนจึงมาทีหลังจะมาทำประชามติตอนนี้ ตนมองว่ากระบวนการมันผิดเพี้ยนไป ฉะนั้นถ้าถอนได้ก็ดีเพราะเรื่องนี้มาเร็วเกินไป
“จริงๆปัญหาของประเทศเรามันเยอะ เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ปัญหาปัญหาภายในภายนอกก็เยอะมากพอแล้วถ้าจะดันเข้ามาช่วงนี้คงจะไม่เหมาะสม ไม่เหมาะเลยอย่างยิ่งถ้าถอยได้ถอยไปก่อนถ้าถอนได้จะโอเคมากเริ่มต้นกระบวนการใหม่ดีกว่าถามจากประชาชนดีกว่า” นพ.วีระพันธ์ กล่าว
ขณะที่นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กล่าวเพิ่มเติมว่าตนต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรถอนวาระเรื่องนี้ออกจากวาระโดยเร็วและไม่ควรกลับเข้ามาอีกแล้วเพราะมีความเสี่ยงที่จะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 3 ในเรื่องหลักนิติธรรม เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับพ.ร.บ.ฉบับนี้รวมถึงมาตรา 58 รัฐควรจะให้มีการจัดทำความคิดเห็นจากประชาชนก่อนวันนี้เรายังไม่ทราบว่าเรา จะจัดกาสิโนที่จังหวัดไหนเมืองไหน เพราะฉะนั้นส่งผลกระทบต่อประชาชน พื้นที่นั้นถือเป็นการตีเช็กเปล่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงมาตรา 63 , 64 และ 65 ที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชัน การที่บอกว่าเอาการพนันใต้ดินขึ้นมาบนดินแล้ว มาเก็บภาษีการพนันจะทำให้หายไป ความเห็นส่วนตัวไม่มีวันหายแต่เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเล่นการพนันมากขึ้นจากใต้ดินขึ้นมาบนดิน
ส่วนมาตรา 75 รัฐต้องพัฒนาด้านวัตถุและจิตใจไม่ใช่เน้นแต่เรื่องเงินอย่างเดียว ต้องคำนึงถึงประชาชนและเยาวชนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นซึ่งขอเรียกร้อง อย่าบรรจุเข้าในวาระการประชุมตั้งแต่วาระหนึ่ง หากยังไม่ยอมตนในฐานะสมาชิกวุฒิสภา จะรวบรวมรายชื่อ เพื่อจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย.-312.-สำนักข่าวไทย