กรุงเทพฯ 24 มิ.ย. – ศาลพิพากษายกฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล หมิ่นประมาท พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 5 ประเด็น ระบุวิพากษ์วิจารณ์ตามข้อเท็จจริง ถึงแม้จะมีถ้อยคำที่ไม่สุภาพบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท ด้านนายสนธิ ย้ำสื่อ 28 มิ.ย.นี้ ขึ้นเวที รวมพลังแผ่นดินปกป้อง อธิปไตยไทย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แน่นอน เผยมีทีเด็ดรออยู่
วันนี้ (24 มิ.ย.) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา คดีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีการช่วยเหลือ “บอส อยู่วิทยา” ต่อมาศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานและพยานแวดล้อม ประกอบคำให้การในชั้นศาลแล้วเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดตามคำฟ้อง จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง
โดยนายสนธิ เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาสั้นๆ พร้อมใบหน้ายิ้มแย้มว่า ในวันนี้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องตนในข้อหาหมิ่นประมาทจากหลายกรณี ซึ่งตนในฐานะผู้ชนะคดีก็รู้สึกพึงพอใจในคำพิพากษา โดยตนเองสู้ด้วยพยานหลักฐานและความจริง เพราะนี่ไม่ใช่คดีแรกในชีวิตของตน ตลอดการทำงานสื่อมวลชนมากว่า 50 ปี ตนมีคดีความมากถึงกว่า 240 คดี ในชีวิต ส่วนในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ที่จะมีการจัดชุมนุมใหญ่เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้น นายสนธิบอกว่า ตนขึ้นเวทีแน่นอนและมองว่าพลาดไม่ได้ ขอให้ทุกคนคอยฟัง เพราะตนมีทีเด็ดที่จะพูดอยู่บนเวที ส่วนทีเด็ดดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิ ผู้ทิ้งท้ายอย่างติดตลกว่า “รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก”
ขณะที่นางสาวอัจฉรา แสงขาว ทนายความของนายสนธิ เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า คดีแรกที่พูดถึงว่า พล.ต.อ.สมยศ ให้การช่วยเหลือคดีบอส อยู่วิทยา คดีนี้แม้ศาลอาญาทุจริตจะยกฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ แต่คดีนี้ยังอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ และอธิบดีศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางก็มีความเห็นแย้ง ประเด็นที่ พล.ต.อ.สมยศ ขึ้นเงินเดือนตัวเอง ก็มีกฤษฎีกาตีความมาแล้ว ว่าไม่เป็นไปตามข้อบังคับและผิดตาม พ.ร.บ.การกีฬา ถึงแม้ พล.ต.อ.สมยศ จะไม่รับเงินเดือน แต่ด้านแต่นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอล และตัวแทนของนางสาวนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลคนปัจจุบัน มาเบิกความว่าการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ เป็นการสมัครใจทำเพื่อชาติ และไม่มีใครขอขึ้นเงินเดือนอยู่แล้ว ประเด็นเรื่องตำรวจไซด์ไลน์ พล.ต.อ.สมยศ เคยออกมายอมรับว่า เคยให้สัมภาษณ์แบบนั้นจริง
เรื่องฮั้วประมูลลิขสิทธิ์ไทยลีก เกิดขึ้นในสมัยที่ พล.ต.อ.สมยศ เป็นนายกสมาคม ซึ่งในเรื่องดังกล่าวขาดการตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทที่มาประมูล จนทำให้เกิดความเสียหาย
ประเด็นลำดับขั้นของไทยลีก สมัย พล.ต.อ.สมยศ ไทยลีกอยู่อันดับที่ 113 ของโลก ส่วนยุคของนางสาวนวลพรรณ อยู่อันดับที่ 96 คำพูดที่บอกว่า “ยุคสมยศเละเทะ” แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพไปบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท และประเด็นยุคที่ พล.ต.อ.สมยศ เป็นนายกสมาคมฯ สมาคมฟุตบอลมีหนี้สิน 300 ล้านบาท แล้วต้องไปกู้เงินจากฟีฟ่า 5,000,000 เหรียญ อีกทั้ง พล.ต.อ.สมยศ เคยกู้ยืมเงินเสี่ยกำพล 300 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวก็เบิกความยอมรับในข้อเท็จจริง ว่า เคยยืมเงินสูงสุดถึง 1 พันล้านบาท โดยไม่มีการทำสัญญา ดังนั้นการที่จำเลยพูดวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการติชมโดยสุจริต พูดในข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่าแม้จะมีคำที่ไม่สุภาพไปบ้างแต่ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท ทำให้ศาลพิพากษายกฟ้อง. -414-สำนักข่าวไทย