กรุงเทพฯ 24 มิ.ย. – คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ ธปท. สัมภาษณ์ 6 ผู้สมัครวันนี้ คาดจะสรุปเสนอ 2-3 รายชื่อต่อ รมว.คลัง ส่วน กนง. พรุ่งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดคงดอกเบี้ย เพื่อเหลือกระสุนไว้รองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจครึ่งหลังของปี
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ว่า คุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ คนใหม่ ก็ขึ้นอยู่กับกรรมการคัดเลือกซึ่งรู้โจทย์อยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร และผู้ที่มาสมัครก็มีคุณสมบัติอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนตัวก็ขอให้ผู้ว่า คนใหม่ทำงานกับ กระทรวงการคลังได้อย่างราบรื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนที่ทำงานกับ รมว.คลัง ราบรื่นจะใช่นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินหรือไม่ นายพิชัย ถามกลับว่า เป็นเรื่องที่กรรมการคัดเลือกจะเสนอมา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นภายในเดือนนี้ จากนั้นตนก็จะนำเสนอให้ ครม.ได้ ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้สมัครผู้ว่าการ ธปท.ทั้ง 6 คน ที่ผ่านคุณสมบัติในรอบแรก จะต้องเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีเวลาคนละ 30 นาที
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในครั้งที่แล้วทั้ง 6 คน จะเข้าแสดงวิสัยทัศน์ในวันนี้ โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะเร่งพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด วันนี้จะสรุปรายชื่อ ให้ได้ 2-3 รายชื่อ และนำเสนอให้ รมว.คลัง พิจารณาทันที โดยตามหลักเกณฑ์จะเสนอชื่อไม่น้อยกว่า 2 รายชื่อ แต่ไม่เกิน 3 รายชื่อ ในขณะที่วันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) จะมีการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% ต่อ แต่มีโอกาสจะลดดอกเบี้ยลงอีก ในช่วงที่เหลือของปี
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch Center) ประเมินว่าในการประชุม กนง.พรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) กนง.มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% หลังปรับลดมาแล้ว 0.50% ในปีนี้ เนื่องจาก กนง.คงรอประเมินผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสหรัฐฯ และติดตามสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและทิศทางเงินเฟ้อของไทย ส่งผลให้ กนง.มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ เพื่อรักษาพื้นที่ทางนโยบายการเงิน (monetary policy space) สำหรับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในจังหวะที่เหมาะสมและก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดในระยะข้างหน้า และ กนง.อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ นอกจากนี้ ธปท. มีการใช้นโยบายทางการเงินอื่นๆ โดยเฉพาะ ‘มาตรการคุณสู้เราช่วย’ ซึ่ง ธปท. มองว่าอาจช่วยบรรเทาปัญหาหนี้ได้อย่างตรงจุด
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย ประเมิน กนง. อาจมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% เพื่อรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งนโยบายการค้าของสหรัฐฯ สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และความวุ่นวายของการเมืองไทยให้แน่ชัดก่อน ผู้เล่นในตลาดอาจยังคงมุมมองเดิมว่า กนง. มีโอกาสเดินหน้าลดดอกเบี้ยจนถึงระดับ 1.25% ได้ ภายใน 12 เดือนข้างหน้า
ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB Thai) มองว่า กนง.น่าจะลดดอกเบี้ยรอบวันที่ 25 มิถุนายนนี้ เหลือ 1.50% ไม่ต้องรอเก็บ Policy Space ท่ามกลางปัจจัยต่างๆ เช่น เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงขยายตัวต่ำกว่าคาด ปัจจัยการเมืองมาแทรกยิ่งน่าห่วงแรงส่งการคลังมีปัญหา เงินเฟ้อต่ำลากยาว และสินเชื่อหดตัวต่อเนื่อง เป็นต้น โดยบ้างบอกว่าลดดอกเบี้ยไปก็ไม่ช่วย สู้เก็บกระสุนไว้ดีกว่า อันนี้ผมเห็นต่าง ลดดอกเบี้ยช่วยลดภาระคนมีหนี้เดิม และสร้างแรงจูงใจคนกู้ใหม่ ๆ.-511-สำนักข่าวไทย