ศบ.ทก. ขออย่าแสดงความเห็นยั่วยุ หวั่นโจมตีกันเอง

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- ศบ.ทก. ย้ำ คำสั่งกองทัพภาคไม่ได้ปิดด่าน แค่จำกัดเวลาและตรวจเข้ม ระบุ เป็นการยกระดับมาตรการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ชี้กัมพูชาตัดสินใจระงับนำเข้าน้ำมันเอง​ ยันจุดยืนไทยชัด​ ไม่ต้องการดึงประชาชน 2 ประเทศ​รับภาระปัญหาระหว่างรัฐ​ ขออย่าแสดงความเห็นยั่วยุ หวั่นโจมตีกันเอง ย้ำไทยยึดกลไกทวิภาคี


นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. ด้านความมั่นคง แถลงภายหลังการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวัน อังคารที่ 24 มิถุนายน 2568

นายนิกรเดช กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (23 มิ.ย.) กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด มีคำสั่งยกระดับการควบคุมการผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งเป็นไปตามคำสั่ง และแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นมาตรการที่หน่วยทหารในพื้นที่พิจารณาอย่างรอบคอบ จากการประเมินภาพรวมสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ และเพื่อเป็นการดูแลรักษาปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ตนเองขอย้ำอีกครั้งว่า มาตรการการยกระดับการควบคุมดังกล่าว ไม่ใช่การปิดด่านอย่างที่มีรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อน ซึ่งขณะนี้ทุกจุดผ่านแดน ยังคงเปิดจุดทำการ ไม่ว่าจะเป็นจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่านแดนชั่วคราว หรือจุดผ่อนปรนทางการค้า แต่มีการจำกัดการผ่านแดนที่เข้มข้นขึ้น ทั้งนี้ เป็นการบังคับใช้มาตรการขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 จากทั้งหมด 4 ขั้น


“ฝ่ายไทยยังคงอนุญาตการผ่านแดนให้บุคคลที่มีความจำเป็น ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม เช่น ผู้ที่ต้องการรับการรักษาพยาบาล นักเรียน รวมถึงการดำเนินการที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น การซื้อผักผลไม้ และเครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน พร้อมยกตัวอย่างการรับผู้ป่วยชาวกัมพูชา ในจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดจันทบุรี ในช่วง 1 – 2 วันที่ผ่านมา”

นายนิกรเดช ยืนยันว่า รัฐบาลไทยยังไม่มีการห้ามการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังกัมพูชา ในขณะที่รัฐบาลกัมพูชา เป็นฝ่ายที่ตัดสินใจระงับการนำเข้าน้ำมันจากไทย สำหรับฝ่ายไทยมีจุดยืนที่ชัดเจน เราต้องคำนึงถึงประชาชนทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา ไม่ให้ผู้รับภาระจากปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการกัน

นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.) นายกฯ แถลงการยกระดับการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ คือการระงับการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสินค้าที่อาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ พร้อมย้ำว่า มาตรการล่าสุดของฝ่ายไทย เป็นมาตรการที่ดำเนินควบคู่ไปกับการดำเนินการของ ศบ.ทก. ที่มีจุดมุ่งหมายโดยตรง ต่อธุรกิจเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นหลัก และไม่ได้มีเป้าหมายไปยังประชาชนทั่วไป แต่เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในชายแดน ของทั้งสองประเทศ


นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ตามที่มีการแสดงความเห็นเชิงลบในบัญชีโซเชียลมีเดียของฝ่ายกัมพูชานั้น การแสดงความเห็นเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่จะกระทำได้ อย่างไรก็ดี ขอความร่วมมือประชาชนชาวไทย ไม่แสดงความเห็นที่เป็นการยั่วยุ หรือรุนแรงสุดโต่ง เพื่อไม่สร้างความตึงเครียดเพิ่มเติม และเป็นช่องทางให้ประชาชนทั้งสองประเทศโจมตีซึ่งกันและกัน

“รัฐบาลยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาตามกลไกทวิภาคี ซึ่งการแสดงความเห็นที่สร้างสรรค์ในช่องทางต่าง ๆ ของประชาชน จะช่วยส่งเสริมบรรยากาศในการหาทางออกร่วมกันของทั้งสองฝ่าย” นายนิกรเดช ระบุ

ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวถึงประเด็นความมั่นคงมี 3 เรื่อง คือ

  • 1.เน้นย้ำว่าการดำเนินการของกองทัพ โดยคำสั่งของกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตามข้อสั่งการของรัฐบาลที่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ โดยยังอนุญาตให้ผ่านเข้า – ออก แต่บุคคลที่มีความจำเป็น เช่น การส่งออกผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในกรณีเร่งด่วน และการศึกษาของนักเรียน และการดำเนินการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยอาศัยตามหลักมนุษยธรรม
  • 2.มาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบตามพื้นที่แนวชายแดน รัฐบาลใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว เช่น กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัด จะประชุมร่วมกับหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้มีข้อสั่งการให้แรงงานจังหวัด ช่วยเหลือจัดหางานทดแทนสำหรับพี่น้องประชาชน ที่ไม่สามารถเดินทางเข้าแดดได้ ด้านกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ในการหาช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรในพื้นที่ด้วย
  • 3.ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจในทุกรูปแบบไปให้กับกองกำลัง กำลังพล ผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน กองทัพได้จัดเตรียมสถานที่ตามพื้นที่แต่ละหน่วย โดยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ของกองทัพภาคที่ 1 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 และศูนย์ประชาสัมพันธ์ของหน่วยนาวิกโยธินในพื้นที่ และสามารถติดต่อข่าวสารต่าง ๆ ในศูนย์เฉพาะกิจชายแดนไทยกัมพูชา หรือทีมไทยแลนด์ โดยเฉพาะรายละเอียดในการส่งกำลังใจไปให้กับกำลังพลตามแนวชายแดน .-316 -สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย