ศบ.ทก. ขออย่าแสดงความเห็นยั่วยุ หวั่นโจมตีกันเอง

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- ศบ.ทก. ย้ำ คำสั่งกองทัพภาคไม่ได้ปิดด่าน แค่จำกัดเวลาและตรวจเข้ม ระบุ เป็นการยกระดับมาตรการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ชี้กัมพูชาตัดสินใจระงับนำเข้าน้ำมันเอง​ ยันจุดยืนไทยชัด​ ไม่ต้องการดึงประชาชน 2 ประเทศ​รับภาระปัญหาระหว่างรัฐ​ ขออย่าแสดงความเห็นยั่วยุ หวั่นโจมตีกันเอง ย้ำไทยยึดกลไกทวิภาคี


นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. ด้านความมั่นคง แถลงภายหลังการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวัน อังคารที่ 24 มิถุนายน 2568

นายนิกรเดช กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (23 มิ.ย.) กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด มีคำสั่งยกระดับการควบคุมการผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งเป็นไปตามคำสั่ง และแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นมาตรการที่หน่วยทหารในพื้นที่พิจารณาอย่างรอบคอบ จากการประเมินภาพรวมสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ และเพื่อเป็นการดูแลรักษาปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ตนเองขอย้ำอีกครั้งว่า มาตรการการยกระดับการควบคุมดังกล่าว ไม่ใช่การปิดด่านอย่างที่มีรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อน ซึ่งขณะนี้ทุกจุดผ่านแดน ยังคงเปิดจุดทำการ ไม่ว่าจะเป็นจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่านแดนชั่วคราว หรือจุดผ่อนปรนทางการค้า แต่มีการจำกัดการผ่านแดนที่เข้มข้นขึ้น ทั้งนี้ เป็นการบังคับใช้มาตรการขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 จากทั้งหมด 4 ขั้น


“ฝ่ายไทยยังคงอนุญาตการผ่านแดนให้บุคคลที่มีความจำเป็น ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม เช่น ผู้ที่ต้องการรับการรักษาพยาบาล นักเรียน รวมถึงการดำเนินการที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น การซื้อผักผลไม้ และเครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน พร้อมยกตัวอย่างการรับผู้ป่วยชาวกัมพูชา ในจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดจันทบุรี ในช่วง 1 – 2 วันที่ผ่านมา”

นายนิกรเดช ยืนยันว่า รัฐบาลไทยยังไม่มีการห้ามการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังกัมพูชา ในขณะที่รัฐบาลกัมพูชา เป็นฝ่ายที่ตัดสินใจระงับการนำเข้าน้ำมันจากไทย สำหรับฝ่ายไทยมีจุดยืนที่ชัดเจน เราต้องคำนึงถึงประชาชนทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา ไม่ให้ผู้รับภาระจากปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการกัน

นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.) นายกฯ แถลงการยกระดับการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ คือการระงับการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสินค้าที่อาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ พร้อมย้ำว่า มาตรการล่าสุดของฝ่ายไทย เป็นมาตรการที่ดำเนินควบคู่ไปกับการดำเนินการของ ศบ.ทก. ที่มีจุดมุ่งหมายโดยตรง ต่อธุรกิจเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นหลัก และไม่ได้มีเป้าหมายไปยังประชาชนทั่วไป แต่เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในชายแดน ของทั้งสองประเทศ


นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ตามที่มีการแสดงความเห็นเชิงลบในบัญชีโซเชียลมีเดียของฝ่ายกัมพูชานั้น การแสดงความเห็นเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่จะกระทำได้ อย่างไรก็ดี ขอความร่วมมือประชาชนชาวไทย ไม่แสดงความเห็นที่เป็นการยั่วยุ หรือรุนแรงสุดโต่ง เพื่อไม่สร้างความตึงเครียดเพิ่มเติม และเป็นช่องทางให้ประชาชนทั้งสองประเทศโจมตีซึ่งกันและกัน

“รัฐบาลยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาตามกลไกทวิภาคี ซึ่งการแสดงความเห็นที่สร้างสรรค์ในช่องทางต่าง ๆ ของประชาชน จะช่วยส่งเสริมบรรยากาศในการหาทางออกร่วมกันของทั้งสองฝ่าย” นายนิกรเดช ระบุ

ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวถึงประเด็นความมั่นคงมี 3 เรื่อง คือ

  • 1.เน้นย้ำว่าการดำเนินการของกองทัพ โดยคำสั่งของกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตามข้อสั่งการของรัฐบาลที่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ โดยยังอนุญาตให้ผ่านเข้า – ออก แต่บุคคลที่มีความจำเป็น เช่น การส่งออกผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในกรณีเร่งด่วน และการศึกษาของนักเรียน และการดำเนินการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยอาศัยตามหลักมนุษยธรรม
  • 2.มาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบตามพื้นที่แนวชายแดน รัฐบาลใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว เช่น กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัด จะประชุมร่วมกับหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้มีข้อสั่งการให้แรงงานจังหวัด ช่วยเหลือจัดหางานทดแทนสำหรับพี่น้องประชาชน ที่ไม่สามารถเดินทางเข้าแดดได้ ด้านกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ในการหาช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรในพื้นที่ด้วย
  • 3.ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจในทุกรูปแบบไปให้กับกองกำลัง กำลังพล ผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน กองทัพได้จัดเตรียมสถานที่ตามพื้นที่แต่ละหน่วย โดยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ของกองทัพภาคที่ 1 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 และศูนย์ประชาสัมพันธ์ของหน่วยนาวิกโยธินในพื้นที่ และสามารถติดต่อข่าวสารต่าง ๆ ในศูนย์เฉพาะกิจชายแดนไทยกัมพูชา หรือทีมไทยแลนด์ โดยเฉพาะรายละเอียดในการส่งกำลังใจไปให้กับกำลังพลตามแนวชายแดน .-316 -สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย