“ประเสริฐ” ไม่กังวล ป.ป.ช. รับไต่สวนแผนใช้งบบริหารจัดการน้ำ

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- “ประเสริฐ” แจงทันทีหลัง ป.ป.ช. รับไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบประมาณน้ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ไม่กังวล พร้อมตรวจสอบ เพราะมีขั้นตอนตรวจสอบโครงการครบ ไม่มี สส.เพื่อไทยเอี่ยว เรื่องนี้ไม่ใช่การเมือง ดิสเครดิตในช่วงปรับ ครม. สกัดนั่ง มท.1


จากกรณีที่ ป.ป.ช. รับไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบประมาณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในปี 2568 โดยปีดังกล่าว มีการอนุมัติโครงการทั้งสิ้น 28,990 โครงการ ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นผู้อนุมัติ เสนอที่ประชุม ครม. รวมงบประมาณ 51,000 ล้านบาท

ในเรื่องนี้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ทุกอย่างมีกระบวนการและข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งโครงการนี้ เริ่มจากหน่วยงานต่างๆ ได้คีย์เข้าระบบไทย วอร์เตอร์ แพลน ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมาไทยกรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำ เมื่อมีโครงการรวมกันแล้ว ก็จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งมีคณะกรรมการเป็น 100 คน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและมาจากภาคประชาชน และข้าราชการในการพิจารณา หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่คณะกรรมการลุ่มน้ำ เมื่อผ่านการกรองแล้วก็เข้าสู่ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กนช. และในฐานะที่ตนเองเป็นประธานก็จะมีการลงนามเพื่อเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ซึ่งตอนนั้นงบประมาณอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท และถูกตัดเหลือประมาณ 7,000 ล้านบาท จากนั้นสำนักงบประมาณก็นำไปกลั่นกรองอีก ว่าโครงการไหนจำเป็นเร่งด่วน ก็ถูกพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยสำนักงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่มี สส.ของพรรคเพื่อไทยเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างไร


ทั้งนี้ตนเองไม่ทราบผู้ร้องด้วย และยังไม่มีหนังสือมาถึงตนเองเพื่อที่จะสอบในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนก็ทราบจากการรายงานข่าว

ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช. รับไต่สวนกรณีนี้ในช่วงที่มีกระแสข่าวการปรับ ครม. โดยคาดว่านายประเสริฐจะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่อยากให้มองเช่นนี้ ยืนยันว่าการพิจารณาแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ถือเป็นการแก้ปัญหาให้กับประชาชน จึงอยากดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพราะขณะนี้อยู่ใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้ว หากไม่ดำเนินการประชาชนก็จะไม่ได้รับประโยชน์ และย้ำว่ายินดีให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และไม่ทราบรายละเอียดในการร้องเรียน จึงไม่ทราบว่าเป็นการดิสเครดิต หรือทำให้เกิดผลทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ทราบจริงๆ และไม่อยากให้มองว่าเป็นการดิสเครดิตสกัดไม่ให้นั่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะเรื่องนี้เป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับพี่น้องประชาชน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ

ทั้งนี้กระบวนการตรวจสอบโครงการมีการแปรญัตติว่าให้เท่านั้นลงในพื้นที่ สส.พรรคเพื่อไทยเท่านั้น นายประเสริฐชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่มีแปรญัตติ หรือให้งบฯ กับ สส. ทั้งสิ้น เนื่องจากผ่านคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งไม่มีองค์ประกอบที่เป็น สส. โครงการทั้งหมดถูกเสนอโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ


ส่วนมีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้ง เชียงลงแต่พื้นที่สส. พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐย้ำว่า เรื่องนี้ไม่จริง ซึ่งหากการงบประมาณดูแล้วได้มีการจัดสรรลงหลายพื้นที่ไม่ใช่เฉพาะ สส.ในพรรคเพื่อไทย เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง ต้องยอมรับว่าถูกปรากฏในภาคอีสาน เป็นหลักและภาคเหนือบางส่วน ซึ่งความจริงแล้วมีการกระจายตัวของโครงการ ไม่ใช่ในพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด หากดูข้อมูลแล้วจะเห็นได้ชัด ทั้งนี้หาก ป.ป.ช.เรียกมาก็พร้อมชี้แจง และยินดีให้ตรวจสอบเพราะเรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นแต่อย่างใด และไม่ทำให้หนักใจใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันไม่มีการฮั๊วกันระหว่างตนกับ สส.เพราะเรื่องนี้ สส.ไม่เกี่ยวข้อง

ส่วนที่ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องกรณีกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพวกเป็นร้อยคน จัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง นั้น นายประเสริฐ บอกว่า ยังไม่เห็น ยังไม่ทราบเรื่อง น่าจะเป็นทางกระทรวงการคลังหรือไม่ ต้องไปสอบถามดู

ส่วนเรื่องนี้จะมีผลให้ ครม. สส. และ สว. หลุดจากตำแหน่งได้ในลักษณะเหมาเจ่ง หรือล้างกระดาน นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ง่าย ถ้าดูตามเหตุผล คิดว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ที่จะทำให้ถึงขั้นที่ สส.ต้องติดบ่วงในเรื่องนี้ และเรื่องนี้ตนฟังจากรายงานข่าว ก็ต้องรอดูความชัดเจนจาก ป.ป.ช. อีกครั้ง

ส่วน 2 คดีนี้ไม่ทำให้ ครม. มีความเสี่ยง มีความผิดใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ครม. ก็อนุมัติไปตามขั้นตอนหรือวิธีการกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ส่วนในรายละเอียดมันมีที่ไปที่มาที่ถูกต้อง เหมือนเรื่องน้ำที่ตนดูแลอยู่ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย