รัฐสภา 31 พ.ค.-“พิเชษฐ์” พร้อมให้ตรวจสอบ หลัง ปชน. จ่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ผิด ม.144 ยันไม่มีโยกงบใช้ลงพื้นที่ งง 2 สส. เบี้ยวนัดเดินตรวจใช้งบสภา บอก 8,000 ล้านบาท แค่เล็กๆ เมื่อเทียบกับระดับกระทรวง
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง กล่าวถึง การนัดหมายสื่อและ สส.พรรคประชาชน เพื่อเดินทัวร์รัฐสภาชี้แจงการของบประมาณในการปรับปรุง อาคารรัฐสภาแต่ละจุด ว่าหลังจากที่ตนได้มีการเชิญนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. พรรคประชาชน แต่นายพริษฐ์ บอกว่าไม่ว่าง ติดอภิปราย แต่นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน ซึ่งรับปากไว้ว่าจะมา แต่ล่าสุดแจ้งว่าไม่มาแล้ว จึงต้องยกเลิกภารกิจเดินชมอาคารรัฐสภา
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะตอบข้อซักถาม หากทั้งสองคนพร้อม จะยื่นตามช่องทางใดก็ยื่นไป อยากให้มาแต่อยากให้มาดูว่าสภาทำไมต้องใช้งบประมาณ ไม่ต้องเอาการเมืองมายุ่ง ตนยินดีให้ตรวจสอบทุกประเด็น ”รออยู่นะครับ ให้ท่านทั้งสองมาเดินดู งบประมาณของรัฐสภา“
ส่วนการที่ 2 ส.ส. พรรคประชาชนไม่มาตามนัดสะท้อนอะไรหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่าตนไม่ทราบ คนเราต้องขึ้นอยู่กับความจริง งบประมาณสภากว่าจะผ่านขึ้นมาอยู่ในงบประมาณปี 69 ถูกตัดหลายขั้นตอน สุทธิออกมาเท่านี้ เราต้องดูแลสภาให้ดูดีสมเกียรติ สมกับเป็นสถาบันนิติบัญญัติของประเทศ ตนยืนยันรับทุกเรื่องที่ร้องเรียนมา นี่คืองบเล็กๆ 8,000 ล้านบาทของสภา
เมื่อถามว่า มีการกล่าวหาว่ามีรองประธานสภาฯ ตั้งงบเอง ตัดเอง และโยกงบเอง นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ก็ต้องไปคุยในรายละเอียด จะไปร้องเรียนที่ไหน ก็สอบสวนสืบสวนกันไป ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้ตนไม่ทราบว่าเขาร้องเรียนในจุดไหน แต่งบทุกอันมีเหตุผลทั้งหมด และการบริหารของเจ้าหน้าที่ทำด้วยความรอบคอบและตระหนักถึงความจำเป็น
เมื่อถามว่า ทำไม 8,000 ล้านบาท ถึงใช้ว่าเป็นงบเล็กๆ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า หน่วยงานของนิติบัญญัติเป็นเสาหลักของประเทศเสาหนึ่ง เราได้งบประมาณ 8,000 กว่าล้านบาท เทียบกับกระทรวง ทบวง กรม อื่นๆ มันน้อยมาก สำหรับการเผยแพร่ประชาธิปไตย สำหรับสถาบันที่ประชาชนเลือกมา ตนคิดว่ามันควรจะพร้อมกว่านี้ เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชน งบต่างๆเพื่อความมั่นคง เพื่ออนาคตของฝ่ายนิติบัญญัติ
ทั้งนี้ หากในชั้นกรรมาธิการงบประมาณ เรียกไปชี้แจงกรณีดังกล่าวจะไปหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอชี้แจง เพราะสภาไม่เหมือนกระทรวง ทบวง กรม ไม่มีรัฐมนตรี แล้วใครจะมาชี้แจงแทน เพราะเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงาน ไม่สามารถที่จะมาตอบโต้ได้ ถ้าตนไม่ชี้แจงสภาก็เสียหาย วงสภาก็เสียหาย คุณกล่าวหาแค่ฝ่ายเดียว ซึ่งคุณก็ไม่เข้าใจ ออกสื่อไปทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติเสียหาย ซึ่งตนในฐานะที่เป็นผู้บริหารตรงนี้ ก็พยายามที่จะทำความเข้าใจกับสมาชิกเท่าที่จะทำได้
“ถ้าไม่พูดสภาเสียหาย แล้วจะไปต่อที่ไหนจะลงไปอยู่ข้างล่างก็ในฐานะสมาชิก มันไม่มีที่จะพูดคุย ไม่เป็นไรจะไปยื่นที่ไหนก็ไป ผมพร้อมจะไปตอบทุกที่” นายพิเชษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนจะยื่นตามมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีอาจมีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่ายไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม นายพิเชษฐ์ กล่าวว่ายินดี ยื่นก็ต้องไปชี้แจงไม่มีปัญหา และที่กล่าวหาว่า ตนโยกงบฯ ไปลงพื้นที่ตนเองนั้น ขอยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้ พร้อมยืนยันอีกว่า ไม่มีความหนักใจ
ส่วนจะมีความบานปลายไปถึงการตรวจสอบพฤติกรรมของตนเองนั้น ก็ยินดีให้ตรวจสอบ เพราะห้ามไม่ได้
ขณะที่การยื่นครั้งนี้จะเป็นเกมการเมืองเพื่อเอาคืนหรือไม่นั้น นายพิเชษฐ์ ระบุว่า หากทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ด้วยความบริสุทธิ์ใจตนไม่ห่วง และไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพราะทำเพื่อส่วนรวม ความก้าวหน้า และความมั่นคง ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา และยินดีให้ตรวจสอบทุกจุด ซึ่งงบประมาณของสภาฯ ที่ได้รับการจัดสรรแค่ 8,000 ล้านบาท และหากคณะกรรมาธิการงบประมาณ เห็นว่าราคาสูงเกินไป หรือไม่เหมาะสม ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการที่จะปรับลด ซึ่งตนมีหน้าที่ดูแล และบริหารรัฐสภา ย้ำว่า ไม่ห่วง มีความบริสุทธิ์ใจ ทำเพื่อประชาชน หากจะยื่นตรวจสอบอะไรก็สามารถทำได้.-315.-สำนักข่าวไทย