“กัณวีร์” ยก 4 เหตุผล ไม่เห็นด้วยงบ 69

รัฐสภา 28 พ.ค.- “กัณวีร์” ชี้ 4 เหตุผล ไม่เห็นด้วยงบ 69 รัฐบาลขาดความเป็นมืออาชีพ – ขาดความเป็นผู้นำ – ไม่ทราบความจำเป็นเร่งด่วน – มองไม่ออกถึงความมั่นคงในประเทศและนอกประเทศ ยกตัวอย่างใช้งบชายแดนใต้ละลายแม่น้ำ ไม่สนใจปัญหาเหมืองแร่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในชายแดน


การประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2569 นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายว่า ตนเองขอยกเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ทั้งสิ้น 4 ประการ ได้แก่

1.รัฐบาลชุดนี้ ขาดความเป็นมืออาชีพในการทำร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ซึ่ง ปี 67 ไม่เป็นไร ในสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนเมื่อ ปี 68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่งเข้ามาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่เมื่อปี 69 ที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์มารองรับงบประมาณดังกล่าวแล้วนั้น ตนเองอยากบอกว่าหน้าที่ของพวกท่านที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และเป็นคณะรัฐมนตรีที่กุมบังเหียนของกระทรวงต่าง ๆ เป็นผู้ชี้ต้องบอกว่าปัญหาของประเทศนี้คืออะไร ปัญหาในแต่ละกระทรวงที่รับผิดชอบอยู่คืออะไร ไม่ใช่เป็นการจัดทำงบประมาณแบบเดิม ๆ ตนเองเคยเป็นข้าราชการตั้งแต่ปี 2545 โดย 20 กว่าปีที่ผ่านมายังทำเหมือนเดิม ข้าราชการประจำทำงบประมาณขึ้นมา โดยใช้กรอบตัวเงินในการเป็นตัวตั้ง ทำโครงการขึ้นมาสอดรับกับแผนงาน แผนแม่บท แผนยุทธศาสตร์ต่าง ๆ โดยที่ไม่ยอมนำปัญหาจริง ๆ ที่มองเห็น การเป็นนักการเมือง และเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร กลุ่มกระทรวงต่าง ๆ จัดทำเป็นโครงการแผนงาน แต่กลับทำเป็นเป็นพีระมิดที่กลับหัว ซึ่งผิดกรอบ การจัดทำงบประมาณทำให้ประเทศของเราไม่ก้าวหน้า ไม่สามารถที่จะมองเห็น ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ทำให้เห็นว่าปัญหาของประเทศคืออะไรจึงเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถยอมรับร่าง พ.ร.บ. งบ 69 ได้


2.ขาดความเป็นผู้นำของส่วนราชการ ก็ไม่สามารถบอกได้จริงว่าปัญหาคืออะไร เมื่อข้าราชการคิดกรอบงบประมาณมา ก็ส่งต่อมาให้สภา และฝ่ายค้านก็เสียงน้อยกว่าอยู่แล้ว ก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วพวกท่านจะอยู่ทำไมตรงนั้น เอาข้าราชการประจำหรือปลัดกระทรวง มาอยู่ดีกว่าหรือไม่

3.ไม่ทราบความจำเป็นเร่งด่วนในประเทศของเรา ว่ากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรอยู่ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าปัญหาต่าง ๆ ควรจะนำการจัดทำงบประมาณ ปัญหาที่ต้นทางในการสร้างโครงการแผนงาน และงบประมาณทีหลัง สำหรับตนเอง งบประมาณมาทีหลัง หากมองแบบก้าวหน้า ต้องเอาปัญหามาเป็นตัวตั้ง ไม่ว่างบประมาณจะมากขนาดไหนก็ตาม ใส่เข้าไปก่อน หากเยอะเกินไปก็ตัดออกไปได้ แต่ครั้งนี้คือการเอางบประมาณเป็นตัวตั้งครั้งนี้ 3.78 ล้านล้านบาท

4.ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และความมั่นคงกับภายใน และภายนอกประเทศที่กระทบกับเราก็มองไม่ออก


ทั้ง 4 เหตุผลนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ตนเองไม่สามารถให้ความไว้วางใจในเรื่องเกี่ยวกับการจัดทำงบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2569

นายกัณวีร์ ยังยกตัวอย่างปัญหาที่ควรเป็นตัวตั้งในการจัดทำงบประมาณ ว่า ปัญหาเจาะเหมืองมลพิษชายแดนต้นแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ปัญหาในประเทศเพื่อนบ้านของเราที่มีการจัดทำเหมืองทอง เหมืองแร่แรเอิร์ธ และมีผลกระทบต่อจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย ไล่ลงมาสู่แม่น้ำโขง จึงตั้งคำถามว่ามองไม่ออกว่านี่คือปัญหาจริง ๆ หากมองออกจะรู้ว่าจะจัดทำงบประมาณอย่างไร และจะรู้ว่าแผนการแก้ไขปัญหาส่วนนี้ควรทำอย่างไร

นายกัณวีร์ ยังเปิดเผยภาพการทำเมืองแร่แรเอิร์ธในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ห่างจากชายแดนไทยเพียง 25 กิโลเมตร ซึ่งพี่น้องภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงรายออกมาต่อสู้ว่าท่านทำอะไรกันอยู่ ทำไมถึงไม่แก้ปัญหา

นายกัณวีร์ ระบุว่า เรื่องเหล่านี้อยู่ภายใต้งบประมาณภายใต้ยุทธศาสตร์การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แผนย่อย แม่บทการจัดการมลพิษที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสารเคมี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 68 มีงบประมาณเพิ่มขึ้นกว่า 200 ล้านบาท แต่เมื่อไปดูในรายละเอียด ก็ไปลงที่กระทรวงอุตสาหกรรม และองค์การจัดการน้ำเสีย

นายกัณวีร์ ยังยกตัวอย่างเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทวาย และพะโค ในประเทศเมียนมา ซึ่งติดกับประเทศไทยเพียงแค่ 132 กิโลเมตร ติดจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหากมีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่ดังกล่าว โดยการทำธุรกิจ และสิทธิมนุษยชนในเพื่อนบ้านของเรา จะทำอย่างไร เราก็ไม่สนใจเป็นเรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในเมื่อกระทบต่อประเทศไทย การไม่มีความรับผิดชอบของประเทศเพื่อนบ้านในการจัดทำธุรกิจต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จึงขอให้เราคิดดูว่าหากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกิดขึ้น แล้วไม่สามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ สารกัมมันตภาพรังสีแผ่ขยายมาในประเทศไทยแล้วจะทำอย่างไร

นายกัณวีร์ ยกตัวอย่างงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติกว่า 56 ล้านบาท แต่เมื่อไปดูในรายละเอียดแล้ว จะเห็นว่าเป็นการป้องกันแค่ภายในประเทศแต่ไม่มองออกไปว่าหากมีผลกระทบจริง ๆ จากประเทศเพื่อนบ้าน และมาสู่ประเทศไทย จะป้องกันอย่างไร ได้ดำเนินการในการพูดคุยหรือไม่ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศก็ไม่มีการพูดคุยในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ อีกทั้งกระทรวงกลาโหมก็ไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ ดังนั้น งบประมาณตรงไหนที่จะไปป้องกันว่าไม่ควรทำหรือจะมีการดีลเพื่อพูดคุยว่าไม่ควรเกิดขึ้น

นายกัณวีร์ ชี้ว่า ท่านมองไม่ออกว่านี่คือปัญหาที่จะมีผลกระทบส่งต่อความมั่นคงของประเทศ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งใหม่ เกิดขึ้นมาประมาณ 2 ปีแล้ว มีความพยายามของประเทศเพื่อนบ้านในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่จะอยู่ใกล้ประเทศไทย แต่เราก็ไม่ทำอะไร แล้วพี่น้องในจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก ที่จะมีผลกระทบหากเกิดสารกัมมันตภาพรังสีทะลุออกมาจะทำอย่างไร ขณะนี้พี่น้องประชาชนในชายแดนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เรียบร้อย หากไม่มีแผนงานโครงการต่าง ๆ เกิดขึ้น

ส่วนโครงการ EEC และฟูนันเตโซในประเทศกัมพูชา ที่ประเทศจีนมาลงทุน รู้หรือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนัยของเรื่องนี้ต้องวิเคราะห์ให้ออก หากการทำคลองในฟูนันเตโซสำเร็จ มีการติดต่อจังหวัดแกบ ไปสีหนุวิล เมื่อลงทุนไปตรงนั้นแล้ว หากมีนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเหมือนที่เราทำ EEC เราจะทำอย่างไร เพราะเรามีการลงทุนเรื่องนี้ใน 2 ปีกว่า 15,671 ล้านบาท รู้หรือไม่ว่าหากกัมพูชาสามารถทำท่าเรือน้ำลึกเกิดขึ้น พื้นที่ส่วนนั้นจะเป็นตาข่ายรองรับการเดินเรือเข้ามา แล้ว EEC ของเราจะมีผลกระทบได้สร้างโครงการแผนงานอะไรบ้างแล้วหรือไม่ กระทรวงพาณิชย์ได้พูดคุยแล้วหรือไม่ ว่าจะทำอย่างไร ในการประสานงานกัมพูชา โดยรัฐบาลที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศกัมพูชา มีการพูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ ว่าเรามีโครงการตรงนี้เกิดขึ้นไม่ควรจะมีโครงการต่าง ๆ มารองรับที่เป็นตาข่ายทางด้านเศรษฐกิจที่จะส่งผลต่อ EEC ที่เคยลงทุนเป็นหมื่นล้านมาหลายปีแล้วไม่ได้รับผลกระทบ มีแต่การนำงบประมาณไปลงทุน ไม่ได้ดูความจำเป็นเร่งด่วนว่าคืออะไร หากลงทุนไปแสนล้านบาท แล้วไม่ได้ผลกำไรกลับมาเราจะลงทุนไปเพื่ออะไร

นายกัณวีร์ ยังกล่าวถึงผลกระทบสถานการณ์ในเมียนมาต่อประเทศไทย ว่า ประเทศไทยทราบนานแล้วว่าผลกระทบเกิดขึ้นแน่ ๆ หากเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ทั้งกระบวนการค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ในสมัยรัฐบาลเศรษฐามีการทำเรื่องสิทธิมนุษยชน 5 ล้านบาท ส่วนในรัฐบาลแพทองธาร มีการใช้งบประมาณของเราผ่านศูนย์ประสานงานด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านอาเซียนใช้เงินเท่าไหร่ เราไม่รู้ เพราะเอาเงินทุกอย่างไปสู่งบกลาง ทั้งที่เรารู้ว่าส่วนนี้เป็นการป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นในไทย พี่น้องชายแดนไทยได้รับผลกระทบทั้งนั้น ได้เพียงแค่พูดว่าเราเป็นผู้นำในการสร้างสันติภาพ เราทำทุกอย่าง แต่เราไม่มีงบงบประมาณไม่มีโครงการ จึงตั้งคำถามว่า เอาเงินไปทำอะไรกันหมด ตนเองก็ไม่เข้าใจ ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ต้องมีในการสร้างงบประมาณ ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และส่งผลต่อเรื่องการเข้ามาลงทุนเพราะเขาไม่เชื่อว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้

นายกัณวีร์ กล่าวถึงปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่ปาตานี ซึ่งในวันนี้ก็มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น และยังมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์มากมาย รวมถึงงบประมาณที่ใช้ในพื้นที่ ตลอด 23 ปีที่ผ่านมาใช้เงินเกือบ 600,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมางบบูรณาการ 5,872 ล้านบาท ซึ่งปีนี้งบลดลงเหลือ 1,425 ล้านบาท โดยงบประมาณที่เหลือไปใส่ในงบฟังก์ชันให้กับกระทรวง และหน่วยงานด้านความมั่นคงมากมาย ซึ่งไม่ได้แก้ไข แต่พลิกเอางบประมาณไปใส่อีกส่วนหนึ่ง และจะสะท้อนว่างบบูรณาการลดลง เพราะสถานการณ์ดีขึ้น ตนเองจึงตั้งคำถามว่า สถานการณ์ดีขึ้นอย่างไรบ้าง สันติภาพอยู่ตรงไหน

นายกัณวีร์ ตั้งคำถามว่า เรื่องชายแดนใต้ เป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ที่จะบอกว่า Iron fist คือกำปั้นเหล็ก หรือจะเป็น Velvet Glove ที่จะสามารถใช้ไม้เรียวแก้ไขปัญหา แต่เมื่อมาดูงบประมาณแล้วมันย้อนแย้งกัน

นายกัณวีร์ ยังยกตัวอย่างงบประมาณในจังหวัดชายแดนใต้ตลอด 23 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2547 ถึง 2569 รวมกว่า 600,000 ล้านบาท ดูเหมือนว่า ปี 69 จะงบประมาณลดลง แต่กลับกลายเป็นว่าส่วนต่าง 20,000 ล้านบาท ไปอยู่ในงบฟังก์ชันนโยบายก็ไม่มีการสร้างสันติภาพก็ไม่เกิดปัญหาก็เกิดทุกเมื่อนโยบายไม่ทำจะทำอะไรต่อไปจะเอาเงินไปละลายแม่น้ำตลอดเวลาไม่ได้เงินภาษีพี่น้องประชาชนณปัจจุบันจะทำอย่างไรเราไม่เห็นจริง ๆ

นายกัณวีร์ ระบุว่า อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหาความจริงว่าโรงพยาบาลหนึ่งแห่งในจังหวัดเชียงราย ได้รับการประสานงานจากส่วนกลางต้องการโครงการที่เรียกว่า Digital Imagine and Communication in Medicine (DICOM) หรือ เครื่องมือเก็บมาตรฐานกลางในการจัดเก็บเรียกดูประมวลผลจัดพิมพ์ และแสดงผลภาพถ่ายทางการแพทย์ ในราคาเครื่องละ 50 ล้านบาท ซึ่งต้องให้ท่านตอบว่าจริงหรือไม่ งบประมาณส่วนนี้มีส่วนต่างหรือไม่การจัดทำงบประมาณปี 2569 ที่ทำอย่างขาดประสิทธิภาพ มีงบประมาณแล้วบอกว่าไปหาจัดทำแผนงานโครงการมารองรับใช่หรือไม่

“เหตุผลที่ผมไม่สามารถรองรับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่นำเสนอโดยคณะรัฐมนตรี ที่มีการนำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และคณะ ต่อสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติแห่งนี้ เนื่องจากเหตุผลขาดความเป็นมืออาชีพ ขาดความเป็นผู้นำให้กับส่วนราชการ ไม่สามารถบอกความจำเป็นเร่งด่วนที่เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทำให้ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และภัยความมั่นคงทั้งภายใน และภายนอกประเทศง่อนแง่น อยู่จุดเสี่ยงที่สุดของประเทศ” นายกัณวีร์ กล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้ (22 ก.ย. 68) คาดว่าในช่วงวันที่ […]

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]