ปักกิ่ง 30 พ.ค. – นักเล่นร่มร่อนชาวจีนรอดตายปาฏิหารย์ หลังถูกดูดเข้าไปในเมฆสูงกว่า 8.5 กิโลเมตร เหนือท้องฟ้าในประเทศจีน ทั่วทั้งใบหน้าและร่างกายถูกน้ำแข็งเกาะจนชา
เผิง ยู่เจียง นักร่มร่อน หรือพาราไกลดิ้ง ชาวจีน วัย 55 ปี บอกเล่าประสบการณ์อันน่าระทึกใจผ่านทางสื่อจีนว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เขาได้ทดสอบอุปกรณ์ตามปกติที่สถานฝึก สูงจากระดับน้ำทะเลราว 3,000 เมตร เหนือภูเขาชี่เหลียน ในมณฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยเขาเพิ่งซื้อสายรัดร่มร่อนมือสองมา และอยากลองใช้ดู จึงได้เขย่าร่มชูชีพบนพื้น แต่ปรากฎว่าตอนนั้นลมแรงจนพัดตัวเขาขึ้นไปในอากาศ แม้จะพยายามลงจอดแต่ก็ไม่เป็นผล ลมแรงพัดตัวเขาเข้าไปในกลุ่มเมฆคิวมูโลนิมบัสอย่างรวดเร็ว จนเข้าไปติดอยู่ในเมฆ สูงจากพื้นดิน 8,598 เมตรโดยปราศจากออกซิเจน
เผิงบอกอีกว่า ตอนที่ติดอยู่ในกลุ่มเมฆ มันน่ากลัวมาก ทุกอย่างรอบตัวเป็นสีขาว หากไม่มีเข็มทิศก็ไม่รู้เลยว่ากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน เขาคิดว่าตอนนั้นตัวเองน่าจะกำลังบินตรงอยู่ แต่ในความเป็นจริง คือตัวเขากำลังบินหมุนวน ก่อนที่สุดท้ายจะสามารถออกจากกลุ่มก้อนเมฆไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือได้สำเร็จ ตลอดระยะเวลาที่ติดอยู่บนกลุ่มเมฆ เผิงต้องทนกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ไม่มีออกซิเจน ถูกผลึกน้ำแข็งเกาะอยู่บนใบหน้า ร่างกาย มือชาและแทบแข็ง โชคดที่ยังสามารถควบคุมเครื่องร่อนได้โดยใช้เข็มทิศและการสื่อสารทางวิทยุกับเพื่อนร่วมทีม
เจ้าตัวบอกว่า หลังจากที่รอดชีวิตมาได้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ยังรู้สึกกลัว และยังไม่บินร่มร่อนไปอีกสักพักแน่นอน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า นายเผิง เผชิญกับปรากฏการณ์ที่หายากและอันตรายที่เรียกว่า ‘เมฆดูด’ เป็นภาวะที่กระแสลมพัดขึ้นสูงทำให้เครื่องร่อนบินขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ภายในเมฆดังกล่าว อุณหภูมิอาจลดลงถึง – 40 องศาเซลเซียส และระดับออกซิเจนต่ำมาก
สื่อจีนรายงานว่า นายเผิงถูกสั่งพักการบินเป็นเวลา 6 เดือน เนื่องจากออกบินในน่านฟ้าที่ไม่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า.-815.-สำนักข่าวไทย