ดีเอสไอ 30 พ.ค. – DSI จับแก๊งครูต่างชาติ สร้างเว็บปลอมกว่า 2,000 เว็บ หลอกเหยื่อทั่วโลกกว่า 20 ประเทศ เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ แถลงข่าวปฏิบัติการ Operation Shadow Bay ทลายขบวนการหลอกลวงข้ามชาติ หลอกให้ซื้อสินค้าหรือบริการที่ไม่มีอยู่จริงผ่านเว็บไซต์ปลอม
โดยดีเอสไอ ร่วมกับตำรวจ เข้าตรวจค้นจับกุมขบวนการสแกมเมอร์และกลุ่มเครือข่ายชาวต่างชาติ พร้อมกัน 11 จุด ในพื้นที่ 5 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม กระบี่ กาญจนบุรี และจันทบุรี จับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ จำนวน 9 ราย ได้แก่ นายลีวินุส สัญชาติไนจีเรีย นายเดอริค สัญชาติแคเมอรูน นายกอง สัญชาติแคเมอรูน นางสาวจิตรภัสร์, นายธนิชภพ, นายอนุชาติ, นางสาวจันทรัตน์, นางสาวปณัสยา และนางสาวอรวรรณ สัญชาติไทย ในข้อหากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ เงินดิจิทัล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ วัตถุคล้ายทองแดง 15 ตัน โทรศัพท์ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และสมุดบัญชีธนาคาร
ทั้งนี้ ได้ยึดอายัดทรัพย์สิน และประสานธนาคารพาณิชย์ให้อายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกว่า 500 บัญชี รวมมูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงครั้งนี้ สูงกว่า 2,000 ล้านบาท ส่งผลเสียหายกับความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตานานาชาติ โดยทรัพย์สินที่ยึดอายัดทั้งหมด ดีเอสไอประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เฉลี่ยคืนแก่ผู้เสียหาย
อธิบดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอมีหมายจับขบวนการนี้ 24 หมายจับ เป็นต่างชาติ 7 ราย ทั้งหมด ใช้วีซ่าครูสอนภาษาต่างประเทศ ที่เหลือเป็นคนไทย เบื้องต้นจับกุมได้ 9 ราย และทยอยจับกุมเพิ่มเติม เครือข่ายนี้มีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 59 ซึ่งจะได้ขยายผลให้ถึงเครือข่ายในต่างประเทศ ต่อไป
สำหรับปฏิบัติการนี้ ดีเสไอขยายผลจากเคสหลอกขายถุงมือ หน้ากากอนามัย ช่วงโควิดแพร่ระบาดจนพบว่าแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติกลุ่มนี้ มีระดับแกน กว่า 30 คน เข้ามาในไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวจากนั้นใช้วิธีสมรสกับหญิงไทย เพื่อขอต่อวีซ่า และสมัครงานเป็นครูสอนภาษาต่างประเทศ เปิดบริษัทประกอบธุรกิจบังหน้า เพื่อฟอกเงินและขอวีซ่าอยู่ไทย ขบวนการสแกมเมอร์นี้ส่วนใหญ่เป็นชาวแคเมอรูน ไนจีเรีย และอินเดีย ที่แฝงตัวเป็นครูเปิดบริษัทปลอมกว่า 145 แห่ง พร้อมเปิดบัญชีม้ารับโอนเงินกว่า 500 บัญชี สร้างเว็บไซต์ปลอม หลอกจำหน่ายสินค้าและบริการจำนวนกว่า 2,000 เว็บไซต์ มีเหยื่อทั้งชาวไทยและต่างชาติ 15 ประเทศ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทปลอม 1 บริษัท จะเปิดบัญชีธนาคารควบคู่กัน 5-8 บัญชี และโพสต์ขายสินค้าแตกต่างตามความต้องการของแต่ละพื้นที่.-119-สำนักข่าวไทย