“สมศักดิ์” แจงยิบวีโต้มติแพทยสภา ยันไร้ใบสั่ง ปัดเอื้อ “ทักษิณ”

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สมศักดิ์” แจงยิบ วีโต้มติแพทยสภา ยกโทษให้หมด แพทย์ไม่มีความผิด อ้างไม่อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ เกรงกระทบแพทย์ทั้งประเทศ ยันไม่มีใบสั่ง-ไม่ได้เอื้อ “ทักษิณ” ขึ้นศาล 13 มิ.ย. ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน บอกทำการเมืองมา 43 ปีแล้ว ไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ มั่นใจไม่ใช่การเปิดศึกแพทย์ เพราะถ้าอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าเป็นการปกป้อง


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลหลังวีโต้มติแพทยสภา ว่า หลังจากการพิจารณาในรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาลงโทษ 3 แพทย์ พบว่า คณะกรรมการจริยธรรมรับเรื่องรองเรียนพบว่ามีความผิด จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาถึง 4 เดือน ก่อนจะความเห็นว่านายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่1 ไม่มีความผิด ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่2 มีความผิด ลงโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีความผิดให้ลงภาคทัณฑ์ ส่วนพลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ คนปัจจุบัน ในฐานะผู้ออกใบความเห็นแพทย์ ไม่มีความผิด แต่เมื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการกลั่นกรองจริยธรรมกลับมีการพิจารณาปรับเพิ่มโทษแพทย์ 3 คน โดยใช้พิจารณาไม่ถึง 1 วัน ก่อนจะส่งความเห็นมาให้คณะกรรมการแพทยสภา ที่ใช้เวลาพิจารณา 7 วัน ก่อนมีมติเห็นตามคณะกรรมการกลั่นกรองจริยธรรม

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การพิจารณาวีโต้ในครั้งนี้ ได้ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเท่านั้น เพราะเคยส่งหนังสือขอข้อมูลจากคณะกรรมการกลั่นกรองจริยธรรม ถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้รับข้อมูลแต่อย่างใด โดยความเห็นที่วีโต้กลับไปนั้น คือ เห็นด้วยกับมติแพทยสภา ที่ไม่ลงโทษ นายแพทย์วัฒน์ชัย ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ ที่อนุญาตให้ใช้ใบส่งตัวเพื่อประกอบในการส่งผู้ป่วย เห็นว่าไม่มีผลต่อการส่งตัวเพราะมีผลตรวจของผู้ต้องขังในเวลากลางวันและเก็บผลไว้ ซึ่งแพทย์รายดังกล่าวไม่มีอำนาจในการส่งตัวผู้ต้องขังนอกเรือนจำ เพราะเป็นอำนาจของผู้บัญชาการเรือนจำ จึงยกประโยชน์ให้ผู้ถูกร้อง ส่วนพลตำรวจโท โสภณรัชต์ จากการย้อนฟังคำสัมภาษณ์พบว่าไม่เคยพูดว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤต พูดเพียงว่าอาการหนักน่าเป็นห่วงและเป็นการสัมภาษณ์ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน อีกทั้งเป็นแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจที่ได้รับรายงานข้อมูลมาเท่านั้น จึงยกประโยชน์ให้ผู้ถูกร้อง ขณะที่พลตำรวจโท ทวีศิลป์ มีการเขียนคำสั่งแพทย์ควรให้รักษาในโรงพยาบาลโดยไม่ได้ระบุว่าที่ไหน ซึ่งการเขียนคำสั่งถือดุลยพินิจของแพทย์แต่ละคน ซึ่งผู้ถูกร้องทราบว่าผู้ป่วยมีโรค 14 โรค และรู้ถึงความซับซ้อนในการรักษา ต่างจากความเห็นของราชวิทยาลัยที่รู้เพียงบางโรคเท่านั้น การเขียนคำสั่งแพทย์จึงไม่อาจเหมือนกันทั้งหมด และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเห็นว่าไม่มีความผิด ตนจึงเห็นตามความเห็นดังกล่าว โดยส่งหนังสือความเห็นส่งให้แพทยสภาได้พิจารณาทบทวน


“การดำเนินการครั้งนี้ยึดข้อมูลอันเดียวกัน แต่มาตรฐานการลงโทษถ้าหากว่าเรายอมให้ปล่อยไป โดยการสร้างมาตรฐานใหม่ ผมเห็นว่าแนวทางของลงโทษแพทย์ทั่วประเทศต้องเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติใหม่ อัตราโทษที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะทำให้เดือดร้อนกันไปหมด ผมไม่สามารถมีความเห็นเป็นอย่างอื่นได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าแนวทางต่างๆ เหล่านี้ถูกเปลี่ยนให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่อยากให้มีมาตรฐานใหม่ และการดำเนินการที่เห็นอยู่หากเป็นไปตามธรรมชาติแล้ว ไม่มีอะไรที่ออกมาโวยวายหรืออย่างไร ไม่อยากให้มีความเคลื่อนไหว เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติของแพทยสภา ที่ผ่านมาไม่เคยยับยั้งเลย เพราะไม่มีผู้ใดมาร้องเรียนหรือขอความเป็นธรรม แต่ครั้งนี้มีผู้มาร้องเรียนก็ควรที่จะพิจารณา ”

ส่วนที่มีการตั้งคำถามถึงความไม่เป็นธรรมชาติถึงการทำหนังสือวีโต้ เพราะแพทย์ที่ถูกร้อง 4 คน 1 คนถูกยกคำร้อง 1คนเสียงข้างมากให้ตักเตือน อีก 1 คน เสียงเอกฉันท์ให้พักใช้ใบอนุญาต และอีก 1 คน เสียงข้างมากให้ยกคำร้อง แต่กลับเลือกวีโต้เฉพาะมติที่ลงโทษแพทย์ 3 คนเท่านั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราดูแค่แนวทางแต่ไม่ได้ดูระเบียบกฎหมายราชทัณฑ์ ซึ่งไม่มีอำนาจส่งตัว แต่อนุโลมให้ใช้ข้อมูลเพื่อการส่งตัว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป็นข้อมูลราชการใช้ตามระเบียบราชทัณฑ์

พร้อมกันนี้นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากมติแพทยสภา วันที่ 12 มิถุนายน ลงโทษแพทย์ ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของตน เพราะมีนักกฎหมายหลายคนช่วยกันดูแล้วมีข้อมูลแบบก้ำกึ่งๆ และอนุกรรมการเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ลงโทษไปแล้ว ยังจับเขามาลงโทษจะโหดร้ายไปหรือเปล่า ถ้าเป็นตนทำไม่ได้หรอกก็จะยกผลประโยชน์ให้


ส่วนที่มีการปลุกกระดมแพทย์ออกมาปลดท่านออกจาก รมว.สาธารณสุข นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไรเพราะตนอยู่กับการเมืองมานาน 43 ปีแล้ว ใช้เวลากับการเมืองนานพอสมควร ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ไม่เป็นไร ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หมายถึงพร้อมที่จะออกจากตำแหน่งใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า เป็นคนที่มีความพร้อม ไม่ตระหนกตกใจเรื่องอะไรทั้งสิ้น เราคิดว่าทำดีที่สุด และตรงไปตรงมา และมีเหตุผล ไม่มีการเอนเอียง เพราะหาเอนเอียงไปจะนอนหนาวสะท้าน แต่ถ้าแบบนี้จะทำให้รู้สึกสบายเพราะไม่ได้ไปทำอะไรที่เสียหาย พร้อมปกป้องงานนี้เพื่อไม่ให้มาตรฐานการลงโทษคนมีสติปัญญามันสมองล้ำเลิศ ดังนั้นควรควรใช้ความรู้ความสามารถเพื่อทำประโยชน์ให้สูงสุด

ส่วนที่หลายคนมองว่าการวีโต้ เป็นการเปิดศึกกับแพทยสภานั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่จริง แพทย์ถ้ายังอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าตนออกมาปกป้อง เรื่องอัตราโทษที่เกิดขึ้นไม่ใช่การเพิ่มโทษ อย่างในอดีตที่มีการกระทำผิดในลักษณะนี้ก็มีการยกโทษให้ แต่วันนี้กลับมาโดนพักใบอนุญาต หากทำให้เขาตกงาน ครอบครัวพี่น้องเขาจะเป็นอย่างไร ตนมาเพื่อทำให้ทิศทางการลงโทษและอัตราโทษยังคงเหมือนเดิม ยืนยันว่าทำถูกต้อง เชื่อว่าไม่มีผลอะไรตามมา อย่าไปคิดมาก

นายสมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีใบสั่ง การวีโต้ถ้าไม่มีข้อมูลทำไม่ได้ และไม่มีข้อมูลใหม่ จะสั่งตนได้อย่างไร ทั้งนี้ ไม่ได้คุยอะไรกับนายทักษิณในเรื่องนี้ มีแค่ไลน์หลุด ไม่มีการเอื้อนายทักษิณที่จะขึ้นศาลในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวถามถึง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่ง จะเข้าร่วมประชุมวันที่ 12 มิ.ย.หรือไม่ นพ.โอภาส ยิ้ม แล้วไม่ได้ตอบคำถามอะไร.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

แบ่งงานรองนายกฯ ใหม่ หลัง ภท. ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – นายกฯ ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” กำกับดูแล “มหาดไทย” ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” กำกับงานส่วนไหนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มิ.ย.68 โดยรายละเอียดในคำสั่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบันฑิตยสภา) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ […]

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ยันการเมืองไม่กระทบการทหาร

นครพนม 21 มิ.ย.-พล.ท.บุญสิน แม่ทัพภาคที่ 2 เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงสงบ ความตึงเครียดส่วนใหญ่เป็นการเมืองภายใน ระบุไม่กระทบการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ ภายหลังเป็นประธานในพิธีถวายพระพุทธรูป และประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดสว่างสุวรรณาราม จ.นครพนม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ว่า ยังคงสงบ ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการขยับกำลังทหารที่น่าเป็นห่วง ฝ่ายกัมพูชายังอยู่ในเขตแดนของตนไม่มีการรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย ความตึงเครียดส่วนใหญ่เกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทยมากกว่า ซึ่งทางกองทัพจะยังคงมุ่งเน้นการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ การเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพในการดูแลรักษาชายแดน ส่วนที่มีกลุ่มชาวกัมพูชาร้องเพลงที่ปราสาทตาควายนั้น กองทัพไทยได้ประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางทหารโดยตรง ส่วนข่าวความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแม่ทัพนั้น เป็นเพียงความเข้าใจผิดและได้มีการชี้แจงและขอโทษกันแล้ว ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งไปรษณีย์ไทย ช่วยชาวสวนกระจายผลไม้กว่า 3 พันตัน

ทำเนียบ 21 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งไปรษณีย์ไทย ช่วยชาวสวนกระจายผลไม้กว่า 3 พันตัน ส่งฟรีทั่วประเทศ ลดต้นทุน แก้ปัญหาผลไม้ตกค้างจากสถานการณ์ชายแดน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน โดยเฉพาะกรณีประเทศกัมพูชาชะลอการนำเข้าผลไม้จากไทย ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาตกต่ำและผลผลิตตกค้าง รัฐบาลได้ร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นำระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วประเทศ เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรในการขนส่งผลไม้ โดยไม่คิดค่าจัดส่งทั่วประเทศ นายอนุกูล กล่าวต่อว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยกระจายผลผลิตผลไม้สำคัญของไทย เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ลองกอง เงาะ และมะม่วง ให้ได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ตัน ผ่านช่องทางจำหน่ายออนไลน์ ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคดิจิทัล โดยเกษตรกรสามารถจำหน่ายผลไม้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ทั้งนี้ กรมการค้าภายในยังได้จัดเตรียมบรรจุภัณฑ์เพื่อสนับสนุนการจัดส่ง โดยจัดทำกล่อง DIT ขนาด 10 กิโลกรัม จำนวน 188,000 กล่อง และตะกร้าขนาด 5 กิโลกรัม […]