กทม. 13 พ.ค.-โฆษกพรรคกล้าธรรม ชู “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ฝีมือครบเครื่อง ถือเป็น “ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง” ด้วยสไตล์ ใจถึง พึ่งได้ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ยึดผลลัพธ์สำเร็จเป็นที่ตั้ง
นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 ในฐานะโฆษกพรรคกล้าธรรม เปิดเผยมุมมองต่อสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ในสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำในภาคการเกษตร การลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย และราคาพืชผลที่ผันผวน รัฐบาลจำเป็นต้องมี “ผู้จัดการตัวจริง” ที่ไม่ใช่เพียงนั่งโต๊ะบริหาร แต่ต้องสามารถจัดการปัญหาหน้างานได้จริง ซึ่งบุคคลที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในภารกิจนี้คือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม โดยมีเหตุปัจจัยคือ ร้อยเอกธรรมนัส มีความสามารถเฉพาะตัวและบุคลิกผู้นำภาคสนามที่อ่านสถานการณ์เป็น ลงมือเร็ว และกล้าตัดสินใจ ทางการเมือง (political views) อีกทั้งยังมีคุณลักษณะเฉพาะตัวที่หาได้ยากในแวดวงการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน ได้แก่ ความเป็นสายลุย กล้าเดินเข้าไปในปัญหาไม่ลังเลที่จะลงพื้นที่ที่เสี่ยงหรือซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ชายแดน หรือชุมชนที่มีปัญหาเรื้อรัง
นายอัครแสนคีรี ยังระบุว่าร้อยเอกธรรมนัส ยังอ่านเกมไว ตัดสินใจเร็ว ด้วยประสบการณ์ทั้งทางทหารและการเมือง ทำให้เข้าใจโครงสร้างอำนาจในระบบราชการ และรู้วิธีขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างรวดเร็ว และสร้างความสัมพันธ์ในทุกระดับ ทั้งจากชาวบ้าน เกษตรกร ผู้นำท้องถิ่น ไปจนถึงข้าราชการระดับสูง ทำให้เชื่อมโยงเครือข่ายเหล่านี้เข้ากับนโยบายได้จริง และด้วยสไตล์ พูดจริง ทำจริง เป็นบุคคลที่มีคำพูดหนักแน่น และยึดมั่นในความรับผิดชอบ “เมื่อให้คำมั่นแล้ว ต้องเห็นผลในภาคปฏิบัติ” ประกอบกับบุคลิกที่ตรงไปตรงมา ใจถึง พึ่งได้ ติดดิน สไตล์ลูกชาวนาเมืองพะเยา และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและเจ้าหน้าที่ภาคสนามอย่างกว้างขวาง
นายอัครแสนคีรี กล่าวอีกว่า ร้อยเอกธรรมนัส มีสไตล์การทำงาน จากบนโต๊ะสู่การเปลี่ยนแปลงบนดิน คือแทนที่จะนั่งรับรายงานในห้องประชุม แต่ยึดหลักการ “บริหารเชิงปฏิบัติ” ที่เน้นลงพื้นที่ รับฟังปัญหาจากปากเกษตรกร และตรวจสอบสถานการณ์จริงด้วยตนเอง โดยยกตัวอย่างสำคัญในช่วงที่ผ่านมาคือ, การลงพื้นที่ตรวจสวนทุเรียนที่ภาคตะวันออกภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดข่าวราคาตกต่ำ, สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรลงพื้นที่ช่วยเกษตรกรทันที โดยไม่รอผ่านขั้นตอนตามปกติ,จัดการการลักลอบนำเข้ายางพารา และสินค้าเกษตรเถื่อนตามแนวบริเวณชายแดนนะต้องเอาให้มันรู้เรื่องมันทำไม่ได้ และการจัดการปัญหามวลชน ที่ล้อมทำเนียบรัฐบาล คือผู้จัดการตัวจริง แก้ปัญหาได้จริง ติดตามปัญหาทุกสถานการณ์ เป็นต้น
นายอัครแสนคีรีกล่างเพิ่มเติมว่า ร้อยเอกธรรมนัส ถึงลูกถึงคน เข้าถึงชุมชน ศรัทธาในสนามเลือกตั้ง ซึ่งการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องและการสื่อสารอย่างจริงใจ ทำให้เกิด “พลังแห่งศรัทธา” ที่แสดงให้เห็นในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้นำในการวางยุทธศาสตร์ ปราศรัย และสร้างความสัมพันธ์กับประชาชนโดยตรง เห็นผลสำเร็จ คือสร้างปรากฏการณ์ “เก้าอี้ว่างเปลี่ยนขั้ว” ท่ามกลางฐานเสียงพรรคใหญ่ ยืนยันว่าการเมืองที่จริงใจ ยังชนะเหนือกระแสเงินทุนหรือชื่อพรรค และบริหารจัดการสินค้าเกษตร เชิงรุก เชิงรับ และสร้างรายได้มั่นคงซึ่งเป้าหมายใหญ่ของ ร้อยเอกธรรมนัส คือ “ยกระดับรายได้เกษตรกรให้จับต้องได้” โดยใช้เครื่องมือหลายมิติ ทั้ง การสร้างรายได้3เท่าภายใน4 ปี ภายใต้ 9 นโยบาย , ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ขยายผลอย่างต่อเนื่อง, MOU การตลาดล่วงหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับผลผลิต ,เสริมศักยภาพเกษตรกรผ่าน Smart Farmer, ใช้กลไกสหกรณ์และ ธ.ก.ส. ในการประกันราคาและลดหนี้สิน และแก้ปัญหาโดยใช้พื้นที่ตัวตั้ง และประชาชน เป็นศูนย์กลาง โดยไม่ให้มีแท่งไซโลของข้าราชการ
นายอัครแสนคีรี กล่าวว่า ร้อยเอกธรรมนัส ตั้งศูนย์พระยานาคราช ปราบสินค้าเกษตรเถื่อน สร้างความเป็นธรรมในตลาด โดยการจัดตั้ง ศูนย์พระยานาคราช เป็นนโยบายเชิงรุกที่ออกแบบมาเพื่อ “ทลายเครือข่ายสินค้าผิดกฎหมาย” ที่บ่อนทำลายเกษตรกรไทยมานานจุดเด่นสำคัญ คือผสานข้อมูลข่าวกรอง การลาดตระเวนจริง,ทำงานเชิงรุกกับหน่วยความมั่นคง ,มีการแถลงข่าวรายสัปดาห์ เพื่อสร้างความโปร่งใสและแรงกดดันต่อผู้ลักลอบ ซึ่งผลที่ได้รับคือ ราคาสินค้าเกษตรพื้นบ้านฟื้นตัว และเกิดความเชื่อมั่นในระบบตลาดมากขึ้น
“ผมจึงมั่นใจว่า นี่คือผู้จัดการรัฐบาลตัวจริงในสนามจริง ในวันที่ประชาชนต้องการ “ผลลัพธ์” มากกว่า “คำอธิบาย” ซึ่งท่านร้อยเอกธรรมนัส แสดงให้เห็นว่า ท่านคือผู้ที่สามารถเปลี่ยนนโยบายให้เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ด้วยสไตล์ตรงไปตรงมา ความเข้าใจลึกถึงรากของปัญหา และความสามารถในการบริหารสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่อดีตรัฐมนตรีในตำแหน่งที่มีผลงานเชิงประจักษ์ภายใต้ข้อจำกัดของรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา แต่คือ “ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง” ที่ภาคสนาม และเกษตรกร ให้การยอมรับ ในยุคนี้อย่างแท้จริง” โฆษกพรรคกล้าธรรม กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย