“สส.กฤษฎิ์” แจงจุดแตกหัก “ประชาชน”

รัฐสภา 13 พ.ค.- “สส.กฤษฎิ์” แจงจุดแตกหัก “ประชาชน” เน้นสร้างกระแสพรรค ไม่สร้างคน โอดสู้คนเดียวมาตลอด ไร้แกนนำช่วยหาเสียง มี “ธนาธร” ไปแค่ 30 นาที ลั่นไม่ลาออก เพราะกลัวเปลืองงบเลือกตั้งใหม่ ด้าน “ด้อมส้ม” สาปแช่ง ป่วนตลอดการแถลงข่าว

นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี แถลงชี้แจงกรณีที่ทำหนังสือถึงพรรคประชาชนขอให้ขับตนออก โดยระบุว่าก่อนตัดสินใจตนเข้าโรงพยาบาลไปสองรอบ ตนเป็นตัวแทนของที่น้องชาวศรีราชากว่าจะถึงวันนี้ ตนรวบรวมความกล้าหาญและมีความลำบากใจอย่างยิ่งในการที่จะต้องมาขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน แต่ตนเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อยากที่จะต้องไปทำงานร่วมกับพรรคอื่น แล้วยังสังกัดอยู่ในพรรคประชาชน แต่วันนี้ที่ทำงานกับพรรคไม่ได้ เพราะอุดมการณ์ต่างกันแนวทางการทำงานต่างกัน ตนกล้าที่จะออกมาพูดและบอกพี่น้องประชาชนว่าตนขอให้พรรคขับตนออกและได้ยื่นหนังสือให้กับพรรคตั้งแต่เดินเมษายน แต่มาแถลงหลังจากวันที่ 11 พ.ค. เพราะตนสนับสนุนทีมที่เลือกตั้งเทศบาล จึงไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับพรรค โดยสาเหตุที่ตัดสินใจเพราะพรรคมีเป้าหมายในการสร้างพรรค ไม่ได้สร้างคน การทำงานเน้นสร้างกระแสและสร้างความนิยมให้กับพรรค โดยไม่ได้มุ่งเน้นประโยชน์กับประชาชน ทำให้ตนไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องได้ ที่ผ่านมาพยายามผลักดันเรื่องในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ไม่เคยได้รับการสนับสนุน อีกทั้งยังมีเรื่องไม่ให้เกียรติไม่เคารพ พูดจาลับหลังในทางไม่ดี รวมถึงในสถานะทางการเพศและยังมีการปล่อยข่าวอยู่เรื่อยเรื่อยว่าตนเป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรคไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรค หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ประชาชน ต้องโทรมาหาทุกครั้งว่าตนเป็นอย่างนั้นหรือไม่ เป็นงูเห่าหรือไม่ แต่เวลาก็พิสูจนว่าที่ผ่านมาตนไม่ได้เป็นเช่นนั้น


“กฤษฎิ์ เสียใจนะ กับการที่ต้องมายุติบทบาทในวันนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าว มีแฟ้มคลับของพรรคประชาชน หรือด้อมส้ม ได้ตามเข้ามา ตะโกนว่า ถ้าออกไป แน่จริงต้องลาออกไปสังกัดพรรคที่คุณเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ให้คุณมาชุบตัวเพื่อเป็น สส แล้วคุณมาเป็นงูเห่า พร้อมตะโกนด่าจน นส.กฤษฎิ์ ต้องบอกว่า ขอให้อยู่ในความสงบและขอให้ตนพูดให้จบก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน ดอมส้มก็ตอบโต้ว่า ไม่มีอะไรจะคุย ทำให้ นส.กฤษฎิ์ กล่าวตอบว่า ถ้าไม่มีอะไรคุยก็อย่าส่งเสียง


นส.กฤษฎิ์ กล่าวต่อว่าเป้าหมายในการทำงานของตน เมื่อเข้ามาตั้งแต่วันแรกเป็นอย่างไร ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เข้าไปดูในเพจได้ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พฤติกรรมของตนไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังไงประเด็นที่ว่าทำไมไม่ลาออก ขอชี้แจงว่าหากลาออกในวันนี้ จะทำให้เราสิ้นเปลืองงบประมาณหรือไม่ เราต้องเลือกตั้งใหม่หรือไม่ เพื่อความสะใจหรือเพราะให้ตนดูเท่ในการลาออก การลาออกทำให้ตนดูเท่ห์มากเลย แต่ไร้สาระ ตนจึงไม่ลาออก เพราะต้องการทำงานในหน้าที่ สส.ตามที่ประชาชนคาดหวัง ไว้กับตน ประชาชนในพื้นที่ของตนไม่ได้มีปัญหา คนที่ติดตามการทำงานและไปช่วยเหลือ ไม่ได้มีปัญหาลองไปสอบถามดูได้

สำหรับประเด็นที่แตกหักในวันนี้นั้น นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ประเด็นปัญหาในพื้นที่ เมื่อเสนอไปก็ไม่ได้รับการตอบรับจากพรรค และเมื่อขอเป็นตัวแทนราษฎร แสดงความซาบซึ้งน้ำพระทัยในหลวง แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค บนเกาะสีชัง และขอให้กระทรวงมหาดไทย ทำงบประมาณระหว่างท่อประปาต่อน้ำไปยังเกาะสีชัง เพื่อไปลงยังอ่างเก็บน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสร้างไว้ แต่พอหารือจบ ก็มี สส. มาต่อว่าตน ว่าเหมาะสมแล้วหรือที่ผู้เช่นนี้ ซึ่งตนขอยืนยันว่าเหมาะสมสำหรับตนเพราะตนเป็น สส.ในพื้นที่นี้ สิ่งที่ทำไปยืนยันว่าเหมาะสม และหลังจากนั้นการทำงานของตนได้รับผลกระทบตลอดมา ทางพรรคมีการต่อว่า เพื่อนๆ ส่วนมากจะไม่พอใจกับการที่ตนหารือในวันนั้น และนอกจากนี้เพื่อนๆ ไม่กล้าคุยกับตน เพราะเกรงว่าจะวางตัวไม่เหมาะสม กลัวพรรคไม่ส่งลงสมัคร และยังมีหลายเรื่องปลีกย่อยมากมาย ที่ยังไม่อยากอธิบาย

ส่วนที่ในเพจพูดมาว่าตนเป็น สส. ที่จะเข้ามากอบโกย นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ขอถามก่อนว่าตนกอบโกยอะไร และตั้งแต่เลือกตั้งมา ขอให้ไปถาม ว่าในชลบุรี มีใครทุ่มกำลังทรัพย์อย่างตนที่ซื้อที่ตั้งสำนักงานเพื่อให้ประชาชนเข้ามาร้องเรียนได้สะดวก ทำกิจกรรมให้กับเด็กๆ ช่วงปิดเทอม เรื่องงบประมาณของตัวเองไม่เคยเบิกเงินพรรค ตนเข้ามาเป็น สส.ก็หวังว่าพรรีจะเปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วผลักดันอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นวันนี้ความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงทำหนังสือถึงพรรค ซึ่งหลังจากนั้นพรรคได้เรียก ตนไปคุยว่าจะแก้ไขอย่างโน้นอย่างนี้อย่างนั้นแต่ตนบอกว่า การแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไร เพราะตนเรียกร้องมาก่อนหน้านั้น แล้วเลยเวลาที่คุณจะแก้แล้ว วันนี้ตนเรียกร้องให้พรรค ขับตนออก เพื่อเห็นแก่ประโยชน์มวลชนเพื่อทำประโยชน์ให้กับชาวศรีราชา อย่างที่ตนตั้งใจว่าอย่างแท้จริง


ส่วนเหตุผลที่เลือกไปพรรคกล้าธรรม นั้น นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า หากติดตามเพจตนในการทำงานตนจะประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคน แต่ตนได้รับการตอบรับจาก รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด 2 ครั้ง ซึ่งประชาชนที่บางพระ ชลบุรีมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญ การเปิดอ่างเก็บน้ำเป็นเรื่องสำคัญในการสัญจรไปมาระหว่างพี่น้องสองฝั่ง ดังนั้นการที่เราจะเลือกพรรคไหน เราต้องเลือกพรรคที่สนับสนุนให้เราแก้ไขปัญหากับพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อพูดมาถึงตอนนี้ ชาวบ้านที่มาฟังการแถลงข่าวได้ตะโกนถามว่า เพราะเงินใช่หรือไม่ แล้วทำไมไม่ลาออกไป ให้ประชาชนตัดสินใจ ถามประชาชนแล้วหรือยัง

นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่าวันนี้แค่แถลงว่ามีจุดยืนแน่นอนว่าวันนี้ยุติบทบาทกับพรรค แล้ว ขอให้พรรีขับออก ส่วนประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรนั้น ตนมองว่าประชาชนชาวศรีราชา เข้าใจตนและขอให้ทำงานต่อไป อาสาเข้ามารับใช้ประชาชนในเวลาที่พร้อม และสส.หลายคนในพรรคไม่ได้พร้อมที่จะมาทำงานด้วยสถานะต่าง ๆ แต่ตนคิดว่าอยู่ในสถานะที่พร้อมจะมาทำงานเพื่อประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างนี้ด้อมส้ม ได้ตะโกนถามว่าไม่สงสาร คนที่ไปเช็ดครองเท้าให้บ้างหรือ นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า รู้ไหมว่าทำไมวันนั้นตนถึงร้องไห้ เชื่อหรือไม่ว่าในการหาเสียงเลือกตั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปช่วยตนหาเสียง เพียงครึ่งชั่วโมง นอกนั้นตนเดินทุกบ้าน จนไปเจอพี่ที่เขาขัดรองเท้าให้ตน พี่เขาบอกว่าทำความสะอาดบ้าง ไปเดินพบปะชาวบ้านจะได้ไม่ดูแย่ ถามว่าทำไมร้องไห้ เพราะตนซาบซึ้ง และตนสู้มาคนเดียว เวลาที่ตนหาเสียง จนต่อสู้มาคนเดียว ไม่มีแกนนำคนไหนลงมาหาตนเลย

วันนั้นมีความตื้นตันใจที่พี่เขายังมีความห่วงใย ดังนั้น หลังจากนี้ จนได้ติดต่อไปยังพรรคกล้าธรรม ขอใบสมัครเพื่อเข้าทำงานร่วมกับพรรคกล้าทำต่อไปหลังจากที่พรรคขับตนออก และย้ำว่าตนมีอุดมการณ์ยึดมั่นเสมอว่าจะไม่เป็น “งูเห่า” ตอนที่พรรคถูกยุบ ก็มีคนไปล่อยข่าวว่าเป็นงูเห่า ขอยืนยันว่าไม่เป็นงูเห่าแน่นอน วันที่เลือกตั้งเทศบาลเหมือนตนยังทำสติ๊กเกอร์อีก 5 หมื่นใบ

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงตัดสินใจ เลือกไปสังกัดพรรคกล้าธรรม ไม่ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เสนอ

เมื่อถามว่าถามประชาชนในพื้นที่หรือไม่ นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่าก่อนนั้นตน ไม่ได้ตั้งใจว่าจะออกจากพรรค แต่เป็นเหตุที่ตัดสินใจด่วนกระทันหัน ซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ดังนั้นตนไม่ได้สำรวจหรือสอบถามประชาชนมาก่อนเลย แต่อยากจะให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่า มีเหตุที่ตนจะต้องออกและหลังจากนี้

เมื่อถามว่าการที่ตัดสินใจในครั้งนี้ ต้องการจบชีวิตทางการเมือง โดยไม่ไปลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าหรือไม่
นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า เรื่องจบชีวิตทางการเมือง ตอนแรกตั้งใจจะลาออก แต่พอฟังดูจากสถานการณ์หลายอย่างแล้ว การที่ลาออกทำให้เสียงบประมาณในการเลือกตั้ง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า ต่อไปจะยุบสภาหรือไม่ เราจะลาออกเพื่อให้เลือกตั้งใหม่ให้เสียงงบประมาณทําไม และตนยังยืนยันว่าจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนสมัยหน้า เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าช่วงหนึ่ง ด้อมส้ม ได้ยืนประจันหน้ากับสส.กฤษฎิ์ ที่ยืนอยู่บนโพเดียม ว่า ประชาชนเลือกคุณมา ที่จริงถ้าคุณจะขายตัวเป็นงูเห่า เงิน 55 ล้าน มันไม่น่าใช่ของคุณ มันต้องนำมาให้ประชาชน ที่เขาลำบาก เลือกคุณเข้ามา ซึ่งสส.กฤษฎิ์ ตอบกลับว่า ตอนนี้ ตนมีอยู่บาทเดียวในตัว

ทำให้เกิดความชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภา ต้องเข้ามาควบคุม และขอความร่วมมือให้ ด้อมส้ม อยู่ในความสงบ โดยด้อมส้ม ก็ได้ตระโกน แทรก ตลอดการแถลงข่าวของ สส.กฤษฎิ์ เป็นระยะ

ช่วงท้าย การแถลงข่าว สส.กฤษฎิ์ ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มด้อมส้ม โดยการหลบเดินออกทางประตูข้างห้องแถลงเชื่อมขึ้นไปยังบนอาคารรัฐสภา ทันที ทำให้ ด้อมส้ม โมโห และวิ่งไปดักบริเวณทางออกอีกทาง แต่ไม่พบตัวสส.กฤษฎิ์ จึงจุดติดเครื่องด่าทำงาน “ หนีทำไม หน้าด้าน ขายตัว เสียงบประมาณภาษีประชาชน ไสหัวออกไป ลาออกไป ประชาชนแค้น วางแผนไปกับธรรมนัสมานานแล้ว พูดอะไร ชงธรรมนัสตลอด ขอฝากไปถึงผู้กองธรรมนัส คุณคิดดีแล้วหรอ คุณจะรับ สส.ที่ไม่ซื่อไม่ตรง เขาหักหลังประชาชนได้ เขาก็หักหลังคุณได้

ด้อมส้มรายหนึ่ง ถึงขั้น ยกมือพนมสาปแช่ง ใครที่นำเงินซื้อ สส. ขอให้มีอันเป็นไป สส.คนไหนที่รับจ้างได้สินบน ขอให้ชิบหาย ฟ้าผ่าตายจาก ประชาชนสู้แทบตาย แต่พอส่งมึงขึ้นสภา แล้วมาทำแบบนี้ เลว ชั่ว สารเลว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]