“สส.กฤษฎิ์” แจงจุดแตกหัก “ประชาชน”

รัฐสภา 13 พ.ค.- “สส.กฤษฎิ์” แจงจุดแตกหัก “ประชาชน” เน้นสร้างกระแสพรรค ไม่สร้างคน โอดสู้คนเดียวมาตลอด ไร้แกนนำช่วยหาเสียง มี “ธนาธร” ไปแค่ 30 นาที ลั่นไม่ลาออก เพราะกลัวเปลืองงบเลือกตั้งใหม่ ด้าน “ด้อมส้ม” สาปแช่ง ป่วนตลอดการแถลงข่าว

นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี แถลงชี้แจงกรณีที่ทำหนังสือถึงพรรคประชาชนขอให้ขับตนออก โดยระบุว่าก่อนตัดสินใจตนเข้าโรงพยาบาลไปสองรอบ ตนเป็นตัวแทนของที่น้องชาวศรีราชากว่าจะถึงวันนี้ ตนรวบรวมความกล้าหาญและมีความลำบากใจอย่างยิ่งในการที่จะต้องมาขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน แต่ตนเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อยากที่จะต้องไปทำงานร่วมกับพรรคอื่น แล้วยังสังกัดอยู่ในพรรคประชาชน แต่วันนี้ที่ทำงานกับพรรคไม่ได้ เพราะอุดมการณ์ต่างกันแนวทางการทำงานต่างกัน ตนกล้าที่จะออกมาพูดและบอกพี่น้องประชาชนว่าตนขอให้พรรคขับตนออกและได้ยื่นหนังสือให้กับพรรคตั้งแต่เดินเมษายน แต่มาแถลงหลังจากวันที่ 11 พ.ค. เพราะตนสนับสนุนทีมที่เลือกตั้งเทศบาล จึงไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับพรรค โดยสาเหตุที่ตัดสินใจเพราะพรรคมีเป้าหมายในการสร้างพรรค ไม่ได้สร้างคน การทำงานเน้นสร้างกระแสและสร้างความนิยมให้กับพรรค โดยไม่ได้มุ่งเน้นประโยชน์กับประชาชน ทำให้ตนไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องได้ ที่ผ่านมาพยายามผลักดันเรื่องในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ไม่เคยได้รับการสนับสนุน อีกทั้งยังมีเรื่องไม่ให้เกียรติไม่เคารพ พูดจาลับหลังในทางไม่ดี รวมถึงในสถานะทางการเพศและยังมีการปล่อยข่าวอยู่เรื่อยเรื่อยว่าตนเป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรคไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรค หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ประชาชน ต้องโทรมาหาทุกครั้งว่าตนเป็นอย่างนั้นหรือไม่ เป็นงูเห่าหรือไม่ แต่เวลาก็พิสูจนว่าที่ผ่านมาตนไม่ได้เป็นเช่นนั้น


“กฤษฎิ์ เสียใจนะ กับการที่ต้องมายุติบทบาทในวันนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าว มีแฟ้มคลับของพรรคประชาชน หรือด้อมส้ม ได้ตามเข้ามา ตะโกนว่า ถ้าออกไป แน่จริงต้องลาออกไปสังกัดพรรคที่คุณเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ให้คุณมาชุบตัวเพื่อเป็น สส แล้วคุณมาเป็นงูเห่า พร้อมตะโกนด่าจน นส.กฤษฎิ์ ต้องบอกว่า ขอให้อยู่ในความสงบและขอให้ตนพูดให้จบก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน ดอมส้มก็ตอบโต้ว่า ไม่มีอะไรจะคุย ทำให้ นส.กฤษฎิ์ กล่าวตอบว่า ถ้าไม่มีอะไรคุยก็อย่าส่งเสียง


นส.กฤษฎิ์ กล่าวต่อว่าเป้าหมายในการทำงานของตน เมื่อเข้ามาตั้งแต่วันแรกเป็นอย่างไร ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เข้าไปดูในเพจได้ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พฤติกรรมของตนไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังไงประเด็นที่ว่าทำไมไม่ลาออก ขอชี้แจงว่าหากลาออกในวันนี้ จะทำให้เราสิ้นเปลืองงบประมาณหรือไม่ เราต้องเลือกตั้งใหม่หรือไม่ เพื่อความสะใจหรือเพราะให้ตนดูเท่ในการลาออก การลาออกทำให้ตนดูเท่ห์มากเลย แต่ไร้สาระ ตนจึงไม่ลาออก เพราะต้องการทำงานในหน้าที่ สส.ตามที่ประชาชนคาดหวัง ไว้กับตน ประชาชนในพื้นที่ของตนไม่ได้มีปัญหา คนที่ติดตามการทำงานและไปช่วยเหลือ ไม่ได้มีปัญหาลองไปสอบถามดูได้

สำหรับประเด็นที่แตกหักในวันนี้นั้น นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ประเด็นปัญหาในพื้นที่ เมื่อเสนอไปก็ไม่ได้รับการตอบรับจากพรรค และเมื่อขอเป็นตัวแทนราษฎร แสดงความซาบซึ้งน้ำพระทัยในหลวง แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค บนเกาะสีชัง และขอให้กระทรวงมหาดไทย ทำงบประมาณระหว่างท่อประปาต่อน้ำไปยังเกาะสีชัง เพื่อไปลงยังอ่างเก็บน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสร้างไว้ แต่พอหารือจบ ก็มี สส. มาต่อว่าตน ว่าเหมาะสมแล้วหรือที่ผู้เช่นนี้ ซึ่งตนขอยืนยันว่าเหมาะสมสำหรับตนเพราะตนเป็น สส.ในพื้นที่นี้ สิ่งที่ทำไปยืนยันว่าเหมาะสม และหลังจากนั้นการทำงานของตนได้รับผลกระทบตลอดมา ทางพรรคมีการต่อว่า เพื่อนๆ ส่วนมากจะไม่พอใจกับการที่ตนหารือในวันนั้น และนอกจากนี้เพื่อนๆ ไม่กล้าคุยกับตน เพราะเกรงว่าจะวางตัวไม่เหมาะสม กลัวพรรคไม่ส่งลงสมัคร และยังมีหลายเรื่องปลีกย่อยมากมาย ที่ยังไม่อยากอธิบาย

ส่วนที่ในเพจพูดมาว่าตนเป็น สส. ที่จะเข้ามากอบโกย นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ขอถามก่อนว่าตนกอบโกยอะไร และตั้งแต่เลือกตั้งมา ขอให้ไปถาม ว่าในชลบุรี มีใครทุ่มกำลังทรัพย์อย่างตนที่ซื้อที่ตั้งสำนักงานเพื่อให้ประชาชนเข้ามาร้องเรียนได้สะดวก ทำกิจกรรมให้กับเด็กๆ ช่วงปิดเทอม เรื่องงบประมาณของตัวเองไม่เคยเบิกเงินพรรค ตนเข้ามาเป็น สส.ก็หวังว่าพรรีจะเปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วผลักดันอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นวันนี้ความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงทำหนังสือถึงพรรค ซึ่งหลังจากนั้นพรรคได้เรียก ตนไปคุยว่าจะแก้ไขอย่างโน้นอย่างนี้อย่างนั้นแต่ตนบอกว่า การแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไร เพราะตนเรียกร้องมาก่อนหน้านั้น แล้วเลยเวลาที่คุณจะแก้แล้ว วันนี้ตนเรียกร้องให้พรรค ขับตนออก เพื่อเห็นแก่ประโยชน์มวลชนเพื่อทำประโยชน์ให้กับชาวศรีราชา อย่างที่ตนตั้งใจว่าอย่างแท้จริง


ส่วนเหตุผลที่เลือกไปพรรคกล้าธรรม นั้น นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า หากติดตามเพจตนในการทำงานตนจะประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคน แต่ตนได้รับการตอบรับจาก รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด 2 ครั้ง ซึ่งประชาชนที่บางพระ ชลบุรีมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญ การเปิดอ่างเก็บน้ำเป็นเรื่องสำคัญในการสัญจรไปมาระหว่างพี่น้องสองฝั่ง ดังนั้นการที่เราจะเลือกพรรคไหน เราต้องเลือกพรรคที่สนับสนุนให้เราแก้ไขปัญหากับพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อพูดมาถึงตอนนี้ ชาวบ้านที่มาฟังการแถลงข่าวได้ตะโกนถามว่า เพราะเงินใช่หรือไม่ แล้วทำไมไม่ลาออกไป ให้ประชาชนตัดสินใจ ถามประชาชนแล้วหรือยัง

นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่าวันนี้แค่แถลงว่ามีจุดยืนแน่นอนว่าวันนี้ยุติบทบาทกับพรรค แล้ว ขอให้พรรีขับออก ส่วนประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรนั้น ตนมองว่าประชาชนชาวศรีราชา เข้าใจตนและขอให้ทำงานต่อไป อาสาเข้ามารับใช้ประชาชนในเวลาที่พร้อม และสส.หลายคนในพรรคไม่ได้พร้อมที่จะมาทำงานด้วยสถานะต่าง ๆ แต่ตนคิดว่าอยู่ในสถานะที่พร้อมจะมาทำงานเพื่อประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างนี้ด้อมส้ม ได้ตะโกนถามว่าไม่สงสาร คนที่ไปเช็ดครองเท้าให้บ้างหรือ นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า รู้ไหมว่าทำไมวันนั้นตนถึงร้องไห้ เชื่อหรือไม่ว่าในการหาเสียงเลือกตั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปช่วยตนหาเสียง เพียงครึ่งชั่วโมง นอกนั้นตนเดินทุกบ้าน จนไปเจอพี่ที่เขาขัดรองเท้าให้ตน พี่เขาบอกว่าทำความสะอาดบ้าง ไปเดินพบปะชาวบ้านจะได้ไม่ดูแย่ ถามว่าทำไมร้องไห้ เพราะตนซาบซึ้ง และตนสู้มาคนเดียว เวลาที่ตนหาเสียง จนต่อสู้มาคนเดียว ไม่มีแกนนำคนไหนลงมาหาตนเลย

วันนั้นมีความตื้นตันใจที่พี่เขายังมีความห่วงใย ดังนั้น หลังจากนี้ จนได้ติดต่อไปยังพรรคกล้าธรรม ขอใบสมัครเพื่อเข้าทำงานร่วมกับพรรคกล้าทำต่อไปหลังจากที่พรรคขับตนออก และย้ำว่าตนมีอุดมการณ์ยึดมั่นเสมอว่าจะไม่เป็น “งูเห่า” ตอนที่พรรคถูกยุบ ก็มีคนไปล่อยข่าวว่าเป็นงูเห่า ขอยืนยันว่าไม่เป็นงูเห่าแน่นอน วันที่เลือกตั้งเทศบาลเหมือนตนยังทำสติ๊กเกอร์อีก 5 หมื่นใบ

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงตัดสินใจ เลือกไปสังกัดพรรคกล้าธรรม ไม่ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เสนอ

เมื่อถามว่าถามประชาชนในพื้นที่หรือไม่ นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่าก่อนนั้นตน ไม่ได้ตั้งใจว่าจะออกจากพรรค แต่เป็นเหตุที่ตัดสินใจด่วนกระทันหัน ซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ดังนั้นตนไม่ได้สำรวจหรือสอบถามประชาชนมาก่อนเลย แต่อยากจะให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่า มีเหตุที่ตนจะต้องออกและหลังจากนี้

เมื่อถามว่าการที่ตัดสินใจในครั้งนี้ ต้องการจบชีวิตทางการเมือง โดยไม่ไปลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าหรือไม่
นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า เรื่องจบชีวิตทางการเมือง ตอนแรกตั้งใจจะลาออก แต่พอฟังดูจากสถานการณ์หลายอย่างแล้ว การที่ลาออกทำให้เสียงบประมาณในการเลือกตั้ง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า ต่อไปจะยุบสภาหรือไม่ เราจะลาออกเพื่อให้เลือกตั้งใหม่ให้เสียงงบประมาณทําไม และตนยังยืนยันว่าจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนสมัยหน้า เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าช่วงหนึ่ง ด้อมส้ม ได้ยืนประจันหน้ากับสส.กฤษฎิ์ ที่ยืนอยู่บนโพเดียม ว่า ประชาชนเลือกคุณมา ที่จริงถ้าคุณจะขายตัวเป็นงูเห่า เงิน 55 ล้าน มันไม่น่าใช่ของคุณ มันต้องนำมาให้ประชาชน ที่เขาลำบาก เลือกคุณเข้ามา ซึ่งสส.กฤษฎิ์ ตอบกลับว่า ตอนนี้ ตนมีอยู่บาทเดียวในตัว

ทำให้เกิดความชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภา ต้องเข้ามาควบคุม และขอความร่วมมือให้ ด้อมส้ม อยู่ในความสงบ โดยด้อมส้ม ก็ได้ตระโกน แทรก ตลอดการแถลงข่าวของ สส.กฤษฎิ์ เป็นระยะ

ช่วงท้าย การแถลงข่าว สส.กฤษฎิ์ ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มด้อมส้ม โดยการหลบเดินออกทางประตูข้างห้องแถลงเชื่อมขึ้นไปยังบนอาคารรัฐสภา ทันที ทำให้ ด้อมส้ม โมโห และวิ่งไปดักบริเวณทางออกอีกทาง แต่ไม่พบตัวสส.กฤษฎิ์ จึงจุดติดเครื่องด่าทำงาน “ หนีทำไม หน้าด้าน ขายตัว เสียงบประมาณภาษีประชาชน ไสหัวออกไป ลาออกไป ประชาชนแค้น วางแผนไปกับธรรมนัสมานานแล้ว พูดอะไร ชงธรรมนัสตลอด ขอฝากไปถึงผู้กองธรรมนัส คุณคิดดีแล้วหรอ คุณจะรับ สส.ที่ไม่ซื่อไม่ตรง เขาหักหลังประชาชนได้ เขาก็หักหลังคุณได้

ด้อมส้มรายหนึ่ง ถึงขั้น ยกมือพนมสาปแช่ง ใครที่นำเงินซื้อ สส. ขอให้มีอันเป็นไป สส.คนไหนที่รับจ้างได้สินบน ขอให้ชิบหาย ฟ้าผ่าตายจาก ประชาชนสู้แทบตาย แต่พอส่งมึงขึ้นสภา แล้วมาทำแบบนี้ เลว ชั่ว สารเลว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“กัญจนา” เชื่อ “วราวุธ’” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “หนูนา กัญจนา” ชี้พรรคชาติไทยพัฒนาแม้เป็นพรรคเล็ก แต่ศักดิ์ศรีรักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งใหญ่เสมอ เชื่อ “วราวุธ” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีคลิปเสียงสนทนาสองผู้นำไทย-กัมพูชา ว่า “ณ วันนี้ ดิฉันไม่ได้นิยามตัวเองเป็นนักการเมืองแล้ว ถอยออกมามานานแล้ว แต่ที่ดิฉันเป็นเสมอคือ เป็นคนไทยที่รักแผ่นดินเกิด “จุดยืนของดิฉันมั่นคงมาตลอดเหมือนพ่อ คือยึดมั่นต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเชื่อว่าน้องชายดิฉัน (นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ก็เช่นกัน” น.ส.กัญจนา ยังระบุอีกว่า “แม้ที่ผ่านมา เขาอาจจะพูดอะไรพลาดบ้าง นั่นก็เป็นบทเรียนในชีวิตให้เขาต้องจดจำ วันนี้ดิฉันแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แม้พรรคชาติไทยพัฒนาในวันนี้ จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่ศักดิ์ศรี และความรักบ้านเกิดเมืองนอนต้องยิ่งใหญ่เสมอ” “ดิฉันเชื่อว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ” -สำนักข่าวไทย

นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัว

19 มิ.ย.- นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี กลางดึก หลัง “ภูมิใจไทย” ประกาศถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ความเคลื่อนไหวช่วงกลางดึกในเวลา 21.08 น. ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะยื่นใบลาออกมีผลวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบทำประเทศเสียเกียรติภูมิ นั้น พบว่าสตอรี่อินสตราแกรมของ นายกรัฐมนตรี ยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านการรีโพสต์สตอรี่ ที่มีคนโพสต์และแท็ก โดยเป็นภาพระหว่างสื่อมวลชนตามสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นโพสต์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมใส่เพลง “ทำด้วยหัวใจ” โดยไม่มีการใส่แคปชั่น หรือระบุข้อความใดใดในภาพ รวมถึงคลิปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ด้วย -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย