“สส.กฤษฎิ์” แจงจุดแตกหัก “ประชาชน”

รัฐสภา 13 พ.ค.- “สส.กฤษฎิ์” แจงจุดแตกหัก “ประชาชน” เน้นสร้างกระแสพรรค ไม่สร้างคน โอดสู้คนเดียวมาตลอด ไร้แกนนำช่วยหาเสียง มี “ธนาธร” ไปแค่ 30 นาที ลั่นไม่ลาออก เพราะกลัวเปลืองงบเลือกตั้งใหม่ ด้าน “ด้อมส้ม” สาปแช่ง ป่วนตลอดการแถลงข่าว

นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี แถลงชี้แจงกรณีที่ทำหนังสือถึงพรรคประชาชนขอให้ขับตนออก โดยระบุว่าก่อนตัดสินใจตนเข้าโรงพยาบาลไปสองรอบ ตนเป็นตัวแทนของที่น้องชาวศรีราชากว่าจะถึงวันนี้ ตนรวบรวมความกล้าหาญและมีความลำบากใจอย่างยิ่งในการที่จะต้องมาขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน แต่ตนเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อยากที่จะต้องไปทำงานร่วมกับพรรคอื่น แล้วยังสังกัดอยู่ในพรรคประชาชน แต่วันนี้ที่ทำงานกับพรรคไม่ได้ เพราะอุดมการณ์ต่างกันแนวทางการทำงานต่างกัน ตนกล้าที่จะออกมาพูดและบอกพี่น้องประชาชนว่าตนขอให้พรรคขับตนออกและได้ยื่นหนังสือให้กับพรรคตั้งแต่เดินเมษายน แต่มาแถลงหลังจากวันที่ 11 พ.ค. เพราะตนสนับสนุนทีมที่เลือกตั้งเทศบาล จึงไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับพรรค โดยสาเหตุที่ตัดสินใจเพราะพรรคมีเป้าหมายในการสร้างพรรค ไม่ได้สร้างคน การทำงานเน้นสร้างกระแสและสร้างความนิยมให้กับพรรค โดยไม่ได้มุ่งเน้นประโยชน์กับประชาชน ทำให้ตนไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องได้ ที่ผ่านมาพยายามผลักดันเรื่องในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ไม่เคยได้รับการสนับสนุน อีกทั้งยังมีเรื่องไม่ให้เกียรติไม่เคารพ พูดจาลับหลังในทางไม่ดี รวมถึงในสถานะทางการเพศและยังมีการปล่อยข่าวอยู่เรื่อยเรื่อยว่าตนเป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรคไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรค หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ประชาชน ต้องโทรมาหาทุกครั้งว่าตนเป็นอย่างนั้นหรือไม่ เป็นงูเห่าหรือไม่ แต่เวลาก็พิสูจนว่าที่ผ่านมาตนไม่ได้เป็นเช่นนั้น


“กฤษฎิ์ เสียใจนะ กับการที่ต้องมายุติบทบาทในวันนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าว มีแฟ้มคลับของพรรคประชาชน หรือด้อมส้ม ได้ตามเข้ามา ตะโกนว่า ถ้าออกไป แน่จริงต้องลาออกไปสังกัดพรรคที่คุณเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ให้คุณมาชุบตัวเพื่อเป็น สส แล้วคุณมาเป็นงูเห่า พร้อมตะโกนด่าจน นส.กฤษฎิ์ ต้องบอกว่า ขอให้อยู่ในความสงบและขอให้ตนพูดให้จบก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน ดอมส้มก็ตอบโต้ว่า ไม่มีอะไรจะคุย ทำให้ นส.กฤษฎิ์ กล่าวตอบว่า ถ้าไม่มีอะไรคุยก็อย่าส่งเสียง


นส.กฤษฎิ์ กล่าวต่อว่าเป้าหมายในการทำงานของตน เมื่อเข้ามาตั้งแต่วันแรกเป็นอย่างไร ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เข้าไปดูในเพจได้ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พฤติกรรมของตนไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังไงประเด็นที่ว่าทำไมไม่ลาออก ขอชี้แจงว่าหากลาออกในวันนี้ จะทำให้เราสิ้นเปลืองงบประมาณหรือไม่ เราต้องเลือกตั้งใหม่หรือไม่ เพื่อความสะใจหรือเพราะให้ตนดูเท่ในการลาออก การลาออกทำให้ตนดูเท่ห์มากเลย แต่ไร้สาระ ตนจึงไม่ลาออก เพราะต้องการทำงานในหน้าที่ สส.ตามที่ประชาชนคาดหวัง ไว้กับตน ประชาชนในพื้นที่ของตนไม่ได้มีปัญหา คนที่ติดตามการทำงานและไปช่วยเหลือ ไม่ได้มีปัญหาลองไปสอบถามดูได้

สำหรับประเด็นที่แตกหักในวันนี้นั้น นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ประเด็นปัญหาในพื้นที่ เมื่อเสนอไปก็ไม่ได้รับการตอบรับจากพรรค และเมื่อขอเป็นตัวแทนราษฎร แสดงความซาบซึ้งน้ำพระทัยในหลวง แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค บนเกาะสีชัง และขอให้กระทรวงมหาดไทย ทำงบประมาณระหว่างท่อประปาต่อน้ำไปยังเกาะสีชัง เพื่อไปลงยังอ่างเก็บน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสร้างไว้ แต่พอหารือจบ ก็มี สส. มาต่อว่าตน ว่าเหมาะสมแล้วหรือที่ผู้เช่นนี้ ซึ่งตนขอยืนยันว่าเหมาะสมสำหรับตนเพราะตนเป็น สส.ในพื้นที่นี้ สิ่งที่ทำไปยืนยันว่าเหมาะสม และหลังจากนั้นการทำงานของตนได้รับผลกระทบตลอดมา ทางพรรคมีการต่อว่า เพื่อนๆ ส่วนมากจะไม่พอใจกับการที่ตนหารือในวันนั้น และนอกจากนี้เพื่อนๆ ไม่กล้าคุยกับตน เพราะเกรงว่าจะวางตัวไม่เหมาะสม กลัวพรรคไม่ส่งลงสมัคร และยังมีหลายเรื่องปลีกย่อยมากมาย ที่ยังไม่อยากอธิบาย

ส่วนที่ในเพจพูดมาว่าตนเป็น สส. ที่จะเข้ามากอบโกย นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ขอถามก่อนว่าตนกอบโกยอะไร และตั้งแต่เลือกตั้งมา ขอให้ไปถาม ว่าในชลบุรี มีใครทุ่มกำลังทรัพย์อย่างตนที่ซื้อที่ตั้งสำนักงานเพื่อให้ประชาชนเข้ามาร้องเรียนได้สะดวก ทำกิจกรรมให้กับเด็กๆ ช่วงปิดเทอม เรื่องงบประมาณของตัวเองไม่เคยเบิกเงินพรรค ตนเข้ามาเป็น สส.ก็หวังว่าพรรีจะเปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วผลักดันอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นวันนี้ความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงทำหนังสือถึงพรรค ซึ่งหลังจากนั้นพรรคได้เรียก ตนไปคุยว่าจะแก้ไขอย่างโน้นอย่างนี้อย่างนั้นแต่ตนบอกว่า การแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไร เพราะตนเรียกร้องมาก่อนหน้านั้น แล้วเลยเวลาที่คุณจะแก้แล้ว วันนี้ตนเรียกร้องให้พรรค ขับตนออก เพื่อเห็นแก่ประโยชน์มวลชนเพื่อทำประโยชน์ให้กับชาวศรีราชา อย่างที่ตนตั้งใจว่าอย่างแท้จริง


ส่วนเหตุผลที่เลือกไปพรรคกล้าธรรม นั้น นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า หากติดตามเพจตนในการทำงานตนจะประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคน แต่ตนได้รับการตอบรับจาก รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด 2 ครั้ง ซึ่งประชาชนที่บางพระ ชลบุรีมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญ การเปิดอ่างเก็บน้ำเป็นเรื่องสำคัญในการสัญจรไปมาระหว่างพี่น้องสองฝั่ง ดังนั้นการที่เราจะเลือกพรรคไหน เราต้องเลือกพรรคที่สนับสนุนให้เราแก้ไขปัญหากับพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อพูดมาถึงตอนนี้ ชาวบ้านที่มาฟังการแถลงข่าวได้ตะโกนถามว่า เพราะเงินใช่หรือไม่ แล้วทำไมไม่ลาออกไป ให้ประชาชนตัดสินใจ ถามประชาชนแล้วหรือยัง

นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่าวันนี้แค่แถลงว่ามีจุดยืนแน่นอนว่าวันนี้ยุติบทบาทกับพรรค แล้ว ขอให้พรรีขับออก ส่วนประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรนั้น ตนมองว่าประชาชนชาวศรีราชา เข้าใจตนและขอให้ทำงานต่อไป อาสาเข้ามารับใช้ประชาชนในเวลาที่พร้อม และสส.หลายคนในพรรคไม่ได้พร้อมที่จะมาทำงานด้วยสถานะต่าง ๆ แต่ตนคิดว่าอยู่ในสถานะที่พร้อมจะมาทำงานเพื่อประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างนี้ด้อมส้ม ได้ตะโกนถามว่าไม่สงสาร คนที่ไปเช็ดครองเท้าให้บ้างหรือ นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า รู้ไหมว่าทำไมวันนั้นตนถึงร้องไห้ เชื่อหรือไม่ว่าในการหาเสียงเลือกตั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปช่วยตนหาเสียง เพียงครึ่งชั่วโมง นอกนั้นตนเดินทุกบ้าน จนไปเจอพี่ที่เขาขัดรองเท้าให้ตน พี่เขาบอกว่าทำความสะอาดบ้าง ไปเดินพบปะชาวบ้านจะได้ไม่ดูแย่ ถามว่าทำไมร้องไห้ เพราะตนซาบซึ้ง และตนสู้มาคนเดียว เวลาที่ตนหาเสียง จนต่อสู้มาคนเดียว ไม่มีแกนนำคนไหนลงมาหาตนเลย

วันนั้นมีความตื้นตันใจที่พี่เขายังมีความห่วงใย ดังนั้น หลังจากนี้ จนได้ติดต่อไปยังพรรคกล้าธรรม ขอใบสมัครเพื่อเข้าทำงานร่วมกับพรรคกล้าทำต่อไปหลังจากที่พรรคขับตนออก และย้ำว่าตนมีอุดมการณ์ยึดมั่นเสมอว่าจะไม่เป็น “งูเห่า” ตอนที่พรรคถูกยุบ ก็มีคนไปล่อยข่าวว่าเป็นงูเห่า ขอยืนยันว่าไม่เป็นงูเห่าแน่นอน วันที่เลือกตั้งเทศบาลเหมือนตนยังทำสติ๊กเกอร์อีก 5 หมื่นใบ

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงตัดสินใจ เลือกไปสังกัดพรรคกล้าธรรม ไม่ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เสนอ

เมื่อถามว่าถามประชาชนในพื้นที่หรือไม่ นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่าก่อนนั้นตน ไม่ได้ตั้งใจว่าจะออกจากพรรค แต่เป็นเหตุที่ตัดสินใจด่วนกระทันหัน ซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ดังนั้นตนไม่ได้สำรวจหรือสอบถามประชาชนมาก่อนเลย แต่อยากจะให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่า มีเหตุที่ตนจะต้องออกและหลังจากนี้

เมื่อถามว่าการที่ตัดสินใจในครั้งนี้ ต้องการจบชีวิตทางการเมือง โดยไม่ไปลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าหรือไม่
นส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า เรื่องจบชีวิตทางการเมือง ตอนแรกตั้งใจจะลาออก แต่พอฟังดูจากสถานการณ์หลายอย่างแล้ว การที่ลาออกทำให้เสียงบประมาณในการเลือกตั้ง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า ต่อไปจะยุบสภาหรือไม่ เราจะลาออกเพื่อให้เลือกตั้งใหม่ให้เสียงงบประมาณทําไม และตนยังยืนยันว่าจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนสมัยหน้า เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าช่วงหนึ่ง ด้อมส้ม ได้ยืนประจันหน้ากับสส.กฤษฎิ์ ที่ยืนอยู่บนโพเดียม ว่า ประชาชนเลือกคุณมา ที่จริงถ้าคุณจะขายตัวเป็นงูเห่า เงิน 55 ล้าน มันไม่น่าใช่ของคุณ มันต้องนำมาให้ประชาชน ที่เขาลำบาก เลือกคุณเข้ามา ซึ่งสส.กฤษฎิ์ ตอบกลับว่า ตอนนี้ ตนมีอยู่บาทเดียวในตัว

ทำให้เกิดความชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภา ต้องเข้ามาควบคุม และขอความร่วมมือให้ ด้อมส้ม อยู่ในความสงบ โดยด้อมส้ม ก็ได้ตระโกน แทรก ตลอดการแถลงข่าวของ สส.กฤษฎิ์ เป็นระยะ

ช่วงท้าย การแถลงข่าว สส.กฤษฎิ์ ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มด้อมส้ม โดยการหลบเดินออกทางประตูข้างห้องแถลงเชื่อมขึ้นไปยังบนอาคารรัฐสภา ทันที ทำให้ ด้อมส้ม โมโห และวิ่งไปดักบริเวณทางออกอีกทาง แต่ไม่พบตัวสส.กฤษฎิ์ จึงจุดติดเครื่องด่าทำงาน “ หนีทำไม หน้าด้าน ขายตัว เสียงบประมาณภาษีประชาชน ไสหัวออกไป ลาออกไป ประชาชนแค้น วางแผนไปกับธรรมนัสมานานแล้ว พูดอะไร ชงธรรมนัสตลอด ขอฝากไปถึงผู้กองธรรมนัส คุณคิดดีแล้วหรอ คุณจะรับ สส.ที่ไม่ซื่อไม่ตรง เขาหักหลังประชาชนได้ เขาก็หักหลังคุณได้

ด้อมส้มรายหนึ่ง ถึงขั้น ยกมือพนมสาปแช่ง ใครที่นำเงินซื้อ สส. ขอให้มีอันเป็นไป สส.คนไหนที่รับจ้างได้สินบน ขอให้ชิบหาย ฟ้าผ่าตายจาก ประชาชนสู้แทบตาย แต่พอส่งมึงขึ้นสภา แล้วมาทำแบบนี้ เลว ชั่ว สารเลว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย