เตือนขายหรือรับประทานเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ระวังโทษหนัก

ทำเนียบ 14 เม.ย.- “อนุกูล” เตือนร้านค้า-ผู้บริโภค ขายหรือรับประทานเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ระวังมีโทษสูงคุกถึง 5 ปี ปรับถึง 5 แสนบาท


นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนในช่วงสงกรานต์ มักจะรับประทานอาหารประจำถิ่น โดยอาจจะมีการนำเนื้อสัตว์ป่าหายาก มาทำเป็นอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองช่วงเทศกาล ทั้งนี้ การบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์ป่ามีผลทางอ้อมทำให้เกิดการล่าสัตว์ป่ามาขาย เพื่อนำมาประกอบอาหารในร้านค้า ซึ่งจะเป็นการทำให้สัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองบางชนิดใกล้สูญพันธุ์ เพราะค่านิยมในการบริโภคอาหารสัตว์ป่าที่ผิด ๆ ซึ่งการกระทำดังกว่า ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ การค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ดังกล่าว มีความผิดตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หากฝ่าฝืนกระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครองหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ


สำหรับผู้ที่มีรสนิยมบริโภคอาหารสัตว์ป่า ผู้สั่งอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อหรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองก็มีความผิดตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐานมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว โดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ

ทั้งนี้ นิยามของ “ซากสัตว์ป่า” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 4 “ซากสัตว์ป่า” หมายความว่า ร่างกาย หรือส่วนของร่างของสัตว์ป่าที่ตายแล้ว หรือเนื้อของสัตว์ป่า ไม่ว่าจะได้ปิ้ง ต้ม รม ย่าง ตากแห้ง หมัก ดอง หรือทำอย่างอื่น ฯลฯ และไม่ว่าจะชำแหละ แยกออก หรืออยู่ในร่างของสัตว์ป่านั้น เพราะฉะนั้นการนำไปประกอบอาหาร ถึงแม้จะนำเนื้อ หรือซากสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครองไป ผัด ปิ้ง ต้ม ยำ ย่าง อื่นๆ แล้วก็ตาม ในทางกฎหมายก็ถือว่า เป็นเนื้อ หรือซากสัตว์ป่า

“รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชน ร่วมใจกันรณรงค์ ‘ไม่กินเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย’ เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความเชื่อผิด ๆ ต่อการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า หากพบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุกูล กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ