กรุงเทพฯ 3 ก.พ. -หวั่นสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้า ลุกลามเป็นสงครามการค้า ส่งผลหุ้นไทยรูดหนัก ตามหุ้นเอเชีย เงินบาทอ่อนค่า ทองไทยทำนิวไฮ บิตคอยน์ร่วง
หุ้นไทยเปิดตลาดเช้านี้ร่วงตามตลาดหุ้นเอเชีย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจจะนำไปสู่การทำสงครามการค้าทั่วโลก โดยสหรัฐเรียกเก็บภาษีจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และจีนในอัตรา 10% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 ก.พ. ตามเวลาสหรัฐฯ
ทั้งนี้ SET เช้านี้ลดลงแรงถึง 40 จุด และเมื่อเวลา 10.19 น. เคลื่อนไหวที่ 1,283 จุด ลดลง 30.98 จุดหรือ ลดลง 2.36% ขณะนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ,CISA ผอ.อาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ วิเคราะห์ว่า ผลพวงนโยบาย ทรัมป์ กดดันตลาด เป็นการบ่งชี้ว่าอาจจะเกิดสงครามการค้า ส่งผลเกิดการขายสินทรัยพ์เสี่ยง กดดันหุ้นไทยลลดลงตาม เงินดอลลาร์แข็งค่า เงินบาทอ่อนค่า อาจะทำให้ฟันด์โฟลว์ ไหลออกอีก หลังจากเมื่อวันศุกร์ หลุดแนวต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 เดือน หุ้นไทยทิศทางผันผวนขาลง หากจะปรับพอร์ตก็ต้องหาจังหวะลงทุนในหุ้นต่างประเทศมากขึ้น เช่น สหรัฐ แต่ด้วยหุ้นมีราคาสูงแล้ว ก็อาจเลือกเป็นรายกลุ่มที่เหมาะสม
“ หุ้นไทยตกลงเป็น DOWN SIDE ต่อจากปัจจัยสงครามการค้าโลก แต่ด้วยที่ลงมาแยอะแล้ว ก็จะลงได้แบบจำกัด หากจะเลือกลงในหุ้นก็แนะนำหุ้นปันผลที่เหมาะสม” นายอภิชาติ กล่าว
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย รางานเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.03-34.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.17 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 33.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาทพลิกอ่อนค่ากลับมาเคลื่อนไหวในฝั่งที่อ่อนค่ากว่าแนว 34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับ Sentiment ที่อ่อนแอของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้ากับแคนาดา เม็กซิโก และจีน ประกอบกับมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.90-34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ประเด็นตึงเครียดของมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าสำคัญ อัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของยูโรโซน ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ม.ค. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน และอังกฤษ รวมถึงดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตเดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ
ด้านราคาทองคำไทย เปิดตลาดเช้า ขึ้น 150 บาท/บาททองคำ ทำราคานิวไฮ โดยราคาทองแท่งขายออกบาทละ 44,750 บาท ส่วนทองรูปพรรณ ขาย ออก 45,250 บาท ปัจจัยสำคัญจากเงินบาทอ่อนค่า แม้ราคาทองคำโลกลดลงก็ตาม โดยอิงราคาทองตลาดจรเอเชียที่ 2,775.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ในขณะที่ เมื่อวันศุกร์ (31 ม.ค) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 10.20 ดอลลาร์ หรือ -0.36% ปิดที่ 2,835.00 ดอลลาร์/ออนซ์ แรงขายทำกำไร หลังราคาทองได้พุ่งทะลุระดับ 2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก จากปัจจัยบวก การแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ด้าน ราคาบิตคอยน์ร่วงหลุดจากระดับ 100,000 ดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าทั่วโลกได้ส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเวลา 08.35 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 2,895 ดอลลาร์ หรือ -2.96% แตะที่ระดับ 94,872 ดอลลาร์
คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทเปปเปอร์สโตน (Pepperstone) กล่าวว่า นักลงทุนมองว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทเอกชน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาบิตคอยน์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนบางส่วนผิดหวังที่ ปธน.ทรัมป์ ไม่ได้ออกมาตรการผลักดันอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี หรือผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทฯ ในทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง. -511- สำนักข่าวไทย