กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – ผู้เสียหายร้องสายไหมต้องรอด สามีต่างชาติซื้อบ้านพร้อมที่ดินในหัวหิน ผ่อนหมดโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ ติดต่อโครงการพบนำไปขายฝากกับนายทุนตั้งแต่ปี 64 และปิดโครงการไปแล้วถาวร
นางสาววิภาณี ภรรยา ภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกัน ร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมที่ต้องรอด หลังสามีนำเงินเก็บ 15 ล้านบาท ซื้อบ้านพร้อมที่ดิน กับโครงการก่อสร้างบ้านดัง ในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2566 จำนวน 2 แปลง เนื้อที่แปลงละ 200 ตารางวา รวม 1 ไร่เศษ ผ่อนจ่ายเดือนละ 1 ล้านบาท
ผ่อนหมดในเดือนพฤษภาคม 2567 หลังผ่อนหมดได้ติดต่อโครงการเพื่อขอทำการโอนบ้านหลังดังกล่าว แต่ปรากฏว่าทางโครงการบ่ายเบี่ยง ระบุไม่สามารถโอนบ้านให้ได้ เนื่องจากติดปัญหาบางประการ จึงตัดสินใจนำสำเนาโฉนดที่ทางโครงการให้ไว้กับสามีไปตรวจสอบกับที่ดิน อำเภอหัวหิน คำตอบที่ได้ทำเอาสามีช็อก ที่ดินแปลงดังกล่าว ถูกทางโครงการนำไปขายฝากกับนายทุนเอกชนรายหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2564 ก่อนนำมาขายให้กับสามีของตนอีก ที่สำคัญทำโครงการยังขาดผ่อนชำระกับนายทุน จนโฉนดตกเป็นของนายทุนตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2567 แต่ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม สามีของตนยังผ่อนชำระกับโครงการตามปกติ
เมื่อต้นและสามีไปติดตามที่โครงการ ทางโครงการจึงขอชดใช้เงินคืนให้กับสามี โดยไร้ดอกเบี้ย โดยจ่ายเช็คล่วงหน้าจำนวน 3 ฉบับ ปรากฏว่า เช็ค 2 ฉบับแรก เป็นเช็คเด้ง ส่วนอีก 1 ฉบับ ใกล้ครบกำหนดซึ่งคาดว่าน่าจะเด้งอีกเช่นกัน เมื่อติดต่อโครงการไปพบว่าโครงการดังกล่าวปิดตัวไปแล้วถาวร จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.หัวหิน ตาม พ.ร.บ.เช็ค ฐานจ่ายเช็คที่ไม่มีอยู่จริง พร้อมร้องขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด ช่วยประสานหน่วยงานของรัฐ เข้าทำการตรวจสอบโครงการดังกล่าว ว่า โครงการดังกล่าวมีพฤติกรรมฉ่อฉลหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าโครงการนี้ มีบ้านในโครงการรวม 34 หลัง ผู้ซื้อเกือบ 100% เป็นชาวต่างชาติ
ด้านนายเอกภพ ระบุว่าจากพฤติการณ์ของโครงการมีลักษณะหลอกลวงตั้งแต่เริ่มต้น และทำผิดต่อผู้เสียหายซ้ำซาก ทั้งที่ผู้เสียหาย ไม่มีเจตนาจะดำเนินคดีอาญากับเจ้าของโครงการเลย ดังนั้นควรนำเงินมาชดใช้ให้ผู้เสียหาย ซึ่งหลังจากนี้ตนจะประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการตรวจสอบ โครงการดังกล่าวว่า มีผู้เสียหายรายอื่น ๆ อีกหรือไม่.-414-สำนักข่าวไทย