บก.น.4 27 ม.ค. – ผบก.น.4 แถลงผลการกวาดล้างจับกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุวุ่นวาย ตรวจยึดอาวุธปืน-มีด จำนวนมาก มีทั้งสั่งออนไลน์และผลิตเอง
พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 แถลงผลระดมกวาดล้าง อาชญากรรมประจำเดือนมกราคม 2568 ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2568 โดยมีการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 จุด ตรวจยึดของกลางอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 11 กระบอก อาวุธปืนปากกา จำนวน 8 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวน 13 นัด และอาวุธมีดจำนวน 35 เล่ม จากวัยรุ่นในกลุ่มที่ก่อความวุ่นวายและมีการใช้อาวุธต่างๆ ก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยสามารถจับผู้กระทำความผิดได้ 25 คน
พ.ต.อ.สิทธิชัย เปิดเผยว่า เป้าหมายที่เข้าตรวจค้นส่วนใหญ่เป็นการขยายผลมาจากเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และกลุ่มเสี่ยงตามข้อมูลการสืบสวน จึงได้ขอหมายจับและหมายค้นในช่วง 20-26 มกราคม ที่ผ่านมา โดยทั้ง 9 เป้าหมายที่เข้าตรวจค้น พบของกลางที่ใช้กระทำความผิด ซึ่งถือว่าเป็นผลการดำเนินการได้ตามเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ ซึ่งทั้ง 25 คน ที่ถูกจับมาดำเนินคดี มีเยาวชนจำนวน 3 คน ส่วนที่เหลือมีทั้งยังเป็นนักเรียนนักศึกษา และไม่ได้ศึกษาอยู่ในสถาบันต่าง ๆ ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผล ทั้งในเรื่องของอาวุธปืน และตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของกลุ่มผู้ต้องหาว่าเคยมีประวัติของอาชญากรรมคดีอื่นๆ หรือไม่ เช่นเดียวกับอาวุธที่ตรวจยึดได้ก็ต้องนำไปตรวจสอบเช่นเดียวกันว่าเคยนำไปก่อเหตุหรือไม่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้ต้องหาบางรายเคยมีประวัติคดีทำร้ายร่างกายหรือยาเสพติด อีกทั้งจะต้องตรวจสอบไปยังบรรดาผู้ปกครองของกลุ่มผู้ต้องหาว่า ได้ปล่อยปละละเลยหน้าที่ในการดูแลบุตรหลานและป้องกันไม่ให้ไปก่ออาชญากรรมหรือไม่ เพื่อดูว่าจะต้องรับผิดด้วยหรือไม่
สำหรับเรื่องของอาวุธปืนนั้น จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่มีทั้งการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์และการผลิตเอง เรื่องนี้จะต้องขยายผลตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่ว่า กลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้มีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังหรือไม่ จากการสอบสวนยังไม่พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้มีอิทธิพลหรือนายทุนอยู่เบื้องหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแก๊งเยาวชนที่รวมตัวกันเองเพื่อสร้างความวุ่นวาย
พ.ต.อ.สิทธิชัย เปิดเผยว่า ส่วนการทะเลาะวิวาทระหว่างนักเรียนต่างสถาบันในพื้นที่ จากสถิติย้อนหลัง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถือว่าปี 2567 มีสถิติลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้เน้นย้ำให้ตำรวจในสังกัดทุกพื้นที่ใช้โมเดลของกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในการร่วมมือกับทางสถาบันการศึกษา และทางครอบครัวของนักศึกษา เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท แต่ก็ยอมรับว่ามีบางส่วนที่ยังคงมีค่านิยมที่ผิดๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องระดมกำลังการปราบปรามโดยกำชับทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด. -419- สำนักข่าวไทย