จับแล้ว! แก๊งเงินกู้โหด ทำร้ายยายวัย 72 ปี

กทม. 28 ก.ค.-ผบก.น.4 แถลงจับแก๊งเงินกู้โหด ทำร้ายยายวัย 72 ปี ผู้ต้องหาปิดปากเงียบปัดตอบคำถามสื่อ

กรณีเพจสายไหมต้องรอด เข้าให้ความช่วยเหลือคุณยายอายุ 72 ปี ถูกแก๊งทวงหนี้นอกระบบบุกมาทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าและเตะขัดขา โชคดีที่หลานมาช่วยเหลือไว้ได้ทัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 22.30 น. หน้าคอนโดแห่งหนึ่งย่านโชคชัย 4 กรุงเทพฯ


ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูล จนสามารถพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคลทั้ง 4 คน ได้แก่นายโสภณ หรืออ๊อฟ อายุ 27 ปี, นายเคนวิทย์ หรือ เคน อายุ 32 ปี, นายนัฐวุฒิ หรือไอซ์ อายุ 27 ปี และนายศิริศร หรือโบ้ อายุ 25 ปี จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสาน และกดดันไปทางญาติของผู้ต้องหา จนทำให้ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามามอบตัวเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งหมดอ้างว่า เพิ่งจะทำร้ายร่างกายยายเป็นครั้งแรก เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจที่จ่ายหนี้ไม่ตรงตามเวลาที่นัดหมาย


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 6 ข้อกล่าวหากับนายอ๊อฟ และนายเคน คือ ร่วมกันประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้, ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น, ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ

นายอ๊อฟ ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้ โดยอ้างว่า ยายเป็นลูกหนี้ของตัวเอง ส่วนนายเคน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

สำหรับนายเคน มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง เมื่อปี 2561 ในพื้นที่ สน.ฉลองกรุง ปี 2566 ในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย และ สน.ทุ่งสองห้อง


ส่วนนายไอซ์ และนายโบ้ ถูกแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น, ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ โดยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

พล.ต.ต.ธนันท์ธร เปิดเผยว่า ส่วนที่สังคมมองว่าตำรวจทำงานล่าช้า ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะหลังจากที่ยายมาแจ้งความเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ให้ยายไปทำการตรวจร่างกาย เพื่อนำความเห็นจากแพทย์มาประกอบสำนวนในคดี และได้นัดหมายมาสอบปากคำในวันที่ 26 กรกฎาคม แต่ทางผู้เสียหายอาจจะยังไม่ทราบ จึงมองว่าคดีไม่มีความคืบหน้าจนต้องไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด

จากข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้ทราบตัวแล้วว่าเจ้าของเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบที่แท้จริงเป็นใคร โดยบุคคลดังกล่าว เป็นคนที่มีหมายจับของสน.มีนบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังในผัดแรก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หากได้รับการประกันตัวชั่วคราว

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายเคน ถึงข้อเท็จจริงต่างๆ แต่นายเคนบอกเพียงว่า จะไปให้การในชั้นศาลฯเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คนไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน.-419.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]