“พิพัฒน์” จ้างงานเร่งด่วน ระดมช่างไฟฟ้าซ่อมในอาคาร สร้างเชียงรายโมเดล

6 พ.ย. – “พิพัฒน์” จ้างงานเร่งด่วน ระดมช่างไฟฟ้าซ่อมในอาคารกว่า 100 หลัง สร้างเชียงรายโมเดล ช่วยฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดให้ประกอบอาชีพได้


วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน KICK OFF กิจกรรมการให้บริการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือนผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นการช่วยเหลือฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เรือเอก สาโรจน์ คมคาย รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายดำรงศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จิตอาสาช่างบริการซ่อมระบบไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือนและพี่น้องประชาชนชาวแม่สาย ร่วมให้การต้อนรับ ณ บ้านเกาะทราย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย


นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้มีแผนฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะแรก การมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านเรือนและสถานประกอบการ ร้านค้าต่าง ๆ เพื่อรับทราบความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการ เฟสที่ 2 ช่วงหลังน้ำลดได้ดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ เพื่อระดมช่วยกันชำระล้างทำความสะอาด เคลียร์ดินโคลนเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าสู่บ้านเรือนที่พักอาศัยได้ ขณะเดียวกันเพื่อให้ร้านค้าสถานประกอบการดำเนินกิจการ และประชาชนประกอบอาชีพได้ตามปกติ และเฟสที่ 3 ในวันนี้ได้ มีการ KICK OFF และปล่อยขบวนทีมช่างไปให้บริการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้แก่ประชาชนแล้วกว่า 100 หลังคาเรือน เพื่อเป็นการช่วยเหลือฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัย เพื่อจัดทำเป็นแผนเชียงรายโมเดล ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดอื่นต่อไป

ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำหรับที่จังหวัดเชียงราย นอกเหนือจากการบริการซ่อมระบบไฟฟ้าให้ผู้ประสบภัยแล้ว กระทรวงแรงงาน ยังได้นำโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ กิจกรรมจ้างงานเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัยจำนวน 400 คน เมื่อวันที่ 9 -13 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อระดมช่วยกันชำระล้างทำความสะอาด เคลียร์ดินโคลน ภายในระยะเวลา 5 วัน ให้ประชาชนสามารถกลับเข้าสู่บ้านเรือนที่พักอาศัยได้ ขณะเดียวกันเพื่อให้ร้านค้าสถานประกอบการดำเนินกิจการ และประชาชนประกอบอาชีพได้ตามปกติ ในวันนี้ท่านรัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน จึงได้มาตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าว จ้างแรงงานทำความสะอาด ฟื้นฟูพื้นที่อีกกว่า 100 หลังคาเรือน

ด้านนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมการออกหน่วยให้บริการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ให้บริการระหว่างวันที่ 5 – 6 พฤศจิกายน 2567 โดยได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้าจากบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และความร่วมมือทีมช่างจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และจิตอาสาที่มีจุดมุ่งหมายในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยกว่า 170 คน ได้แก่ สพร.1 สมุทรปราการ สพร.8 นครสวรรค์ สพร.9 พิษณุโลก สพร.10 ลําปาง สพร.19 เชียงใหม่ สพร.43 ตาก สนพ.แม่ฮ่องสอน พะเยา สุโขทัย น่าน แพร่ ลําพูน พิจิตร กําแพงเพชร เพชรบูรณ์ อํานาจเจริญ สถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สําหรับอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ ทีมช่างจิตอาสา จำนวน 29 คน ทีมช่างจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย จำนวน 13 คน วิทยาลัยการอาชีพเวียงเชียงรุ้ง จำนวน 7 คน ช่างไฟฟ้าเทศบาลตําบลเวียงชัย จังหวัดเชียงราย จำนวน 2 คน และทีมช่างไฟฟ้าบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จํากัด (มหาชน) จำนวน 20 คน


นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์ จำนวน 100 คัน การฝึกอบรม หลักสูตรการประกอบอาหารจานด่วน และประกอบอาหาร เมนูข้าวผัดสับปะรด สูตรพิเศษจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่มีเครื่องปรุง ประกอบอาหารเฉพาะ นำไปประกอบอาชีพต่อได้ รสชาติเป็นมาตรฐาน เพื่อจะได้นำความรู้ไปประกอบอาชีพ เพื่อหารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวหลังพ้นวิกฤติ.-111-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ