รัฐสภา 30 พ.ย.- “ธนาธร” ไม่สน “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่พรรคไหน ตั้งเป้านำประชาธิปไตยกลับมาให้ได้ ปัดแสดงความเห็น 2 ป.แยกกันเดิน รับสูตรหาร 100 ทำ “ก้าวไกล” เสียเปรียบ แต่เชื่อประชาชนเห็นความตั้งใจ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าว 2 ป. แยกทางเดิน โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี จะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบชัดเจน แต่ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์จะอยู่หรือไม่ ระบอบประยุทธ์ก็ยังอยู่กับเรา เพราะแทรกอยู่ในคำสั่งประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) องค์กรอิสระต่างๆ และอยู่ในรูปแบบของรัฐธรรมนูญ จึงคิดว่าจะต้องนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศไทยให้ได้ ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์จะอยู่พรรคไหน เป็นหัวหน้าพรรคใดก็ตาม จะต้องแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งที่มาองค์กรอิสระ และต้องผลักดันการกระจายอำนาจต่อ เพราะมีแนวโน้มว่ารัฐบาลปิดกั้นการกระจายอำนาจ
อย่างไรก็ตาม นายธนาธร ยอมรับว่า การจะยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในสภานี้เป็นไปไม่ได้แล้ว เหลือความหวังเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องการกระจายอำนาจที่อยู่ในสภาตอนนี้ รวมถึงการให้ประชาชนทำประชามติว่าเห็นด้วยหรือไม่ ที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พอจะเป็นไปได้
เมื่อถามว่า 2 ป. แยกหรือรวม พรรคก้าวไกลได้เปรียบหรือเสียเปรียบ นายธนาธร กล่าวว่า ขอไม่แสดงความเห็น แต่จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเห็นความตั้งใจ ส่วนปัจจัยอื่นที่ควบคุมไม่ได้ หรือจัดการไม่ได้ ไม่ต้องไปกังวล ตนกังวลกับสิ่งที่ตนจัดการได้ และสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ ส่วนที่เราไม่สามารถจัดการได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ยืนยันว่าพร้อมรับทุกสถานการณ์
สำหรับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือการใช้สูตรหาร 100 ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะทำให้พรรคก้าวไกลได้เปรียบหรือไม่ นายธนาธร ตอบว่า ต้องไปถามพรรคก้าวไกล แต่ส่วนตัวมองว่าเสียเปรียบ เพราะจำนวน ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อลดลงจาก 150 คน เหลือเพียง 100 คน และคะแนนอันดับ 2 จากบัตรเลือกตั้งใบเดียวรอบที่แล้วถูกตัดทิ้ง และการกลับมาใช้บัตร 2 ใบ เชื่อว่าอย่างไรก็เสียเปรียบ อย่างไรก็ตาม นายธนาธร เชื่อว่าพรรคก้าวไกล ภายใต้การนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นอย่างไร และเชื่อว่าผลงานของพรรคอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกลในสภา และความตั้งใจในการทำงานจะทำให้ประชาชนเข้าใจถึงความหวังดี.-สำนักข่าวไทย