กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – กทม.ประกาศขอความร่วมมืองดจัดงานปีใหม่ สวดมนต์ข้ามปี และงานรื่นเริง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (20 ธ.ค.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือมาตรการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้โพสต์ข้อสรุป 10 มาตรการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. ดังนี้
- ปิดโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในสังกัด กทม. ที่มีพื้นที่ติดต่อกับ จ.สมุทรสาคร 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.63 – 4 ม.ค.64 ได้แก่ เขตบางขุนเทียน บางบอน และหนองแขม โดยให้จัดการเรียนการสอนเสริมและการเรียนออนไลน์ทดแทน
- ข้าราชการและบุคลากร กทม.ที่เดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-สมุทรสาคร หรือมีที่พักอาศัยอยู่ใน จ.สมุทรสาคร ให้ปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานที่บ้าน (work from home)
- ขอความร่วมมือภาครัฐและเอกชน งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก เช่น งานเทศกาลปีใหม่ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และงานรื่นเริงต่างๆ แต่หากจะจัดงาน ต้องเสนอแผนควบคุมโรค เพื่อขออนุญาตกับสำนักอนามัย กทม. เพื่อพิจารณาก่อน
- ตั้งด่านคัดกรองแรงงานต่างด้าว เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ 4 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเพชรเกษม ถนนพระรามที่ 2 ถนนบรมราชชนนี และถนนเลียบคลองพิทยาลงกรณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่ม 18.00 น. วันนี้เป็นต้นไป
- ให้ใช้สวนสาธารณะเพื่อการออกกำลังกาย งดการรวมตัว
- จัดเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในแรงงานต่างด้าว 100% ที่ทำงานในตลาดสดทุกแห่งทั่วกรุงเทพฯ ทั้ง 472 แห่ง รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าคนกลางที่มีการติดต่อซื้อขายสินค้าอาหารทะเลจาก จ.สมุทรสาคร
- สำนักงานเขตดำเนินการคัดกรองเชื้อโควิดในแรงงานต่างด้าวในแคมป์คนงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง 100%
- ขอความร่วมมือศาสนสถานต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ งดให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำกิจกรรมภายในพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
- ให้โรงเรียนสังกัด กทม. สำรวจผู้ปกครองของนักเรียนที่เป็นแรงงานต่างด้าว เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโควิด
- สถานประกอบการร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ต้องเข้มงวดในการตรวจคัดกรองผู้ที่เข้าไปใช้บริการ 100% สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างของโต๊ะอาหาร งดเต้น พร้อมทำความสะอาดสถานที่ตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัย
พร้อมย้ำขอให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทุกครั้งที่ออกจากบ้านและอยู่ในที่สาธารณะ หากเดินทางไปใช้บริการตามสถานที่ต่างๆ ต้องลงทะเบียน หรือสแกน “ไทยชนะ” เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบและสืบสวนโรค หากเกิดการแพร่ระบาดในสถานที่นั้นๆ. – สำนักข่าวไทย