BIG STORY : โอกาสสั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา”

กทม. 27 ก.ค. – ทนายความชื่อดังวิเคราะห์โอกาสความเป็นไปได้ในการเพิกถอนคำสั่งเดิม กลับมาสั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” กรณีเมาขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิตแล้วหนี แทบไม่มีทางเป็นไปได้ แนวทางเดียวที่จะพิสูจน์ความจริงได้คือ ครอบครัวผู้ตายต้องลุกขึ้นมาฟ้องคดีเอง

กรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา “บอส อยู่วิทยา” เมาขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต แล้วหนี เมื่อปี 2555 ล่าสุดนายกรัฐมนตรีสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบคดีนี้ตั้งแต่ต้นจนถึงชั้นอัยการ ลั่นไม่ช่วยคนทำผิดกฎหมาย ส่วนอัยการสูงสุดก็ตั้งคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าวเช่นกัน


ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช มองว่าทั้งของคำสั่งนายกรัฐมนตรี และอัยการสูงสูง ทำเพียงการทำเพื่อลดกระแสความไม่พอใจจากสังคมที่รับไม่ได้กับคำสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถจะนำไปสู่การทบทวน ปรับแก้ หรือเพิกถอนกลับคำสั่งเดิมได้โดยเด็ดขาด

ทนายอนันต์ชัย บอกอีกว่า มีแนวทางเดียวที่จะพิสูจน์ความจริงในคดีนี้ได้ ผู้เสียหายที่แท้จริง คือครอบครัวของ ด.ต.วิเชียร ต้องฟ้องเป็นคดีขึ้นมาเอง ซึ่งตนพร้อมที่จะเป็นทนายว่าความให้ เพราะว่าคดีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดิน แม้จะมีการชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว 3 ล้านบาท และบันทึกข้อตกลงว่าจะไม่ดำเนินคดีอาญา ก็ไม่มีผล ครอบครัวผู้ตายไม่ควรยอม โดยเฉพาะประเด็นที่โยนให้ ด.ต.วิเชียร เป็นคนประมาท และต้องรับผิดเสียเอง


พร้อมย้ำครอบครัวผู้ตายสามารถฟ้องในข้อหาขับรถประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้ ด.ต.วิเชียรถึงแก่ความตายได้ จากพยานหลักฐานเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งตอนแรกอัยการ “สั่งฟ้อง” แต่หลังพิจารณามา 8 ปี ก็กลับคำสั่งเดิมเป็น “สั่งไม่ฟ้อง” ด้วยเหตุผลหลักคือ ในตอนแรกเพราะผู้ตรวจสอบความเร็วให้การว่า “บอส” ขับรถด้วยความเร็ว 177 กม./ชม. แต่ภายหลังมีการร้องขอความเป็นธรรม ผู้ตรวจสอบความเร็วคนเดียวกันนี้ได้ให้การใหม่ในปี 2557 ว่าได้คำนวณใหม่แล้ว ความเร็วรถลดลงเหลือเพียง 79 กม./ชม. และเมื่อปลายปี 2562 ก็มีการร้องขอให้สอบพยานเพิ่มอีก 2 ปาก อ้างอยู่ในที่เกิดเหตุ ยืนยันตรงกันว่า “บอส” ไม่ได้ขับรถเร็วเกิน 60 กม./ชม. อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้ตายเพียงฝ่ายเดียว ที่ขี่รถจักรยานยนต์ตัดหน้า “บอส” อย่างกระชั้นชิด

แม้ครอบครัวผู้ตายจะไม่ติดใจเอาความ แต่คำสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหายทั้งระบบ ทั้งประชาชนและต่างชาติต่างมองว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” นี่จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นความเดือดร้อนของสังคมโดยรวม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น