“น้องมีนา” ออกเดินทางไปยังบ้านใหม่ที่จ. ลำปางแล้ว

ฉะเชิงเทรา 28 พ.ย. – กรมอุทยานแห่งชาติฯ เคลื่อนย้าย “น้องมีนา” ไปอยู่กับแม่รับที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ แล้ว คาดว่า จะถึงบ้านใหม่ช่วงสายพรุ่งนี้ ขณะที่โรงพยาบาลช้าง จังหวัดลำปางเตรียมพร้อมเกี่ยวกับการดูแลลูกช้างป่า โดยหลังจากพ้นระยะเฝ้าระวังโรค 14 วัน จะให้เข้าสร้างความคุ้นเคยกับ “แม่รับ”


นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสพ.ญ. มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ซึ่งดูแลการเคลื่อนย้ายลูกช้างป่า “พังมีนา” โดยได้ออกเดินทางจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.

อาการโดยรวมของ “น้องมีนา” ปกติ สนใจสิ่งแวดล้อมและไม่หวาดกลัว ภายในรถปูกองฟางเพื่อป้องกันอากาศหนาวและทำให้ลูกช้างป่าอบอุ่นขณะเดินทาง


ทั้งนี้จะแวะพักให้กินนมผสมอาหารเม็ดปั่นทุกๆ 2 ชั่วโมง คาดว่า จะถึงสถาบันคชบาล ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้าไทย) เวลาประมาณ 9.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (29 พฤศจิกายน 2566)

นายประสิทธิ์ เกิดโต รองผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) และโฆษกอ.อ.ป. กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับ “น้องมีนา) มาอยู่กับ “แม่รับ” ที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) จังหวัดลำปางว่า โรงพยาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจะให้ช้าง “พังแสนดี” ซึ่งจะให้เข้าเทียบเป็น “แม่รับ” ได้รับการตรวจสุขภาพและโรคติดต่อที่สำคัญ ขณะที่น้องมีนาต้องเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14 วันตามระเบียบการเคลื่อนย้ายสัตว์ โดยต้องเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสุขภาพและตรวจโรคติดต่อที่สำคัญในช้างเช่นกัน

สำหรับสถานที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่อยู่ระหว่างเฝ้าระวังโรค ได้กำหนดให้ใช้พื้นที่คอกช้างเล็กบริเวณโรงเรียนฝึกช้างและควาญช้าง โดยให้ควาญช้างดูแลตลอด 24 ชั่วโมง


หลังจากผ่านกระบวนการเฝ้าระวังโรคและไม่พบการติดเชื้อโรคติดต่อทั้งในแม่ช้างและลูกช้าง จึงจะให้เข้าทำความคุ้นเคย โดยให้อยู่ภายใต้ความดูแลของควาญช้างและสัตวแพทย์ประจำสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ

ในระหว่างให้ลูกช้างปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่ อนุญาตเฉพาะบุคลากรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ดูแลลูกช้างเพื่อให้การดูแลช้างน้อยเป็นไปด้วยดีและความเครียดน้อยที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้ปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่โดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย – 512

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน