กรมชลฯ เตรียมรับน้ำท่วม-หลาก 16 จว. พร้อมเฝ้าระวังน้ำโขงล้นตลิ่ง

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการโครงการชลประทานทั่วประเทศพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนัก 12-18 ส.ค.นี้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 16 จังหวัดต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ขณะที่ 8 จังหวัดริมน้ำโขงต้องเฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและอาจล้นตลิ่งบางพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครพนม ย้ำประสานทุกหน่วยงานพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชน


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 12-18 ส.ค.นี้ สาเหตุจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)

จากการประเมินปริมาณน้ำฝนคาดการณ์พบพื้นเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากมี 61 อำเภอใน 16 จังหวัด ประกอบด้วย


1.ภาคเหนือได้แก่

– จังหวัดเชียงราย (อำเภอแม่จัน แม่สาย และแม่ฟ้าหลวง)

– จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภออมก๋อย)


– จังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง แม่สอด แม่ระมาด และอุ้มผาง)

– จังหวัดน่าน(อำเภอเมืองน่าน บ่อเกลือ ปัว เชียงกลาง ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ และสองแคว) โดยเฉพาะจังหวัดน่านซึ่งปัจจุบันมีน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่อำเภอเวียงสา อำเภอท่าวังผา และอำเภอแม่จริม ระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 

2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่

– จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย เฝ้าไร่ โพนพิสัย และรัตนวาปี)

– จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ ปากคาด บุ่งคล้า เซกา ศรีวิไล พรเจริญ โซ่พิสัย และบึงโขงหลง)

– จังหวัดนครพนม (อำเภอเมืองนครพนม ท่าอุเทน ศรีสงคราม บ้านแพง นาทม และโพนสวรรค์)

– จังหวัดสกลนคร (อำเภอบ้านม่วง และอากาศอำนวย)

3. ภาคตะวันออกได้แก่

– จังหวัดระยอง (อำเภอเขาชะเมา บ้านค่าย แกลง และบ้านฉาง)

– จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี ขลุง เขาคิชฌกูฏ และท่าใหม่)

– จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด คลองใหญ่ บ่อไร่ แหลมงอบเขาสมิง เกาะกูด และเกาะช้าง)

4. ภาคใต้ได้แก่

– จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ และกระบุรี)

– จังหวัดพังงา (อำเภอคุระบุรี และท้ายเหมือง)

– จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)

– จังหวัดสตูล (อำเภอละงู)

– จังหวัดตรัง (อำเภอกันตัง สิเกา และปะเหลียน)

ดังนั้นจึงสั่งการให้เตรียมพร้อมดำเนินการตามแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก โดยพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ พื้นที่ที่มีรายงานประสบอุทกภัย 6 จังหวัดประกอบด้วย ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดตากและน่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ นครพนม อุดรธานี และอุบลราชธานี

นายประพิศกล่าวว่า กำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบสภาพอาคารชลประทาน และจัดเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หากมีกรณีฝนตกหนัก หรือลมกระโชกแรงจนส่งผลกระทบต่ออาคารชลประทาน และทรัพย์สินของทางราชการให้เข้าไปดำเนินการแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ เตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ รถแบคโฮ/รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่เสี่ยงให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที

พร้อมกันนี้เน้นย้ำให้กักเก็บน้ำจากฝนที่ตกลงมาให้ได้มากที่สุดซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่งผลดีต่อสถานการณ์น้ำในภาพรวม ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำอย่างประณีต ให้มีน้ำต้นทุนสำรองไว้ใช้อย่างเพียงพอไปจนกว่าจะถึงฤดูแล้ง

นายประพิศกล่าวว่า ได้สั่งการให้โครงการชลประทานใน 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตามที่กอนช. ออกประกาศเตือนเนื่องจาก มีปริมาณฝนตกหนักสะสมในลุ่มน้ำโขงตอนล่างและบริเวณแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในจังหวัดแม่น้ำโขงตอนล่าง มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

สำหรับจุดเฝ้าระวังพิเศษคือ ในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม ปัจจุบันมีระดับน้ำต่ำกว่าระดับตลิ่ง 2.50 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 – 3.50 เมตร และคาดการณ์ระดับน้ำจะมีแนวโน้มล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 11 – 15 ส.ค.

ส่วนที่สถานีเชียงแสน จังหวัดเชียงรายระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.40 – 0.60 เมตร สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00 – 2.50 เมตร สถานีหนองคาย จังหวัดหนองคาย คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 – 3.50 เมตร สถานีมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร และสถานีโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 1.00 – 1.50 เมตร

ทั้งนี้กรมชลประทานเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตสำนักงานชลประทานที่ 2 5 และ 7 ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยจัดเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ตรวจสอบอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งาน บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ และเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ รถแบคโฮ/รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่เสี่ยงให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที รวมถึงกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ

พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงได้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที หากเกิดสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น กลไกสร้างการเติบโตทางศก.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 25 ก.ย.- นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น เหมือนได้พบกัลยาณมิตร เป็นแหล่งระดมทุน สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ในหัวข้อ “ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” นายอนุทิน​ กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า​ วันนี้ตั้งใจมาพบทุกท่านถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์​ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตื่นเต้นนอนไม่หลับ​ มาตั้งแต่ 09.00 น. เพราะทราบดี​ ​จะได้มาพบกับกัลยาณมิตร​ที่ดี​ เพื่อนที่หวังดีต่อกันตลอดเวลา​ และความสัมพันธ์ของเราก็พัฒนาไป แต่ละคนก็มีหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง​ แม้จะอยู่ในภาคเอกชน​ ตลาดทุน​ แต่พวกเราในฐานะรัฐบาลก็มีหน้าที่ในการสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือในทุกทาง ที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จมากที่สุด​ “ท่านเป็นแหล่งระดมทุนให้กับประเทศ เป็นกลไกในการสร้างการเจริญเติบโตกับทางเศรษฐกิจ​ ว่าประเทศไทยมีความมั่นคงมั่งคั่งในระดับไหน เป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในต่างประเทศ” นายอนุทิน กล่าว -สำนักข่าวไทย

ที่ปรึกษาสภาวิศวกรรมฯ ยันใช้ถุงทรายอุดช่องว่างในอุโมงค์เหมาะสมสุด

กรุงเทพฯ 25 ก.ย.- ที่ปรึกษาสภาวิศวกรรมฯ ชี้แจงงานกู้ถนนสามเสนยุบคืบหน้า น้ำตามท่อในหลุมหยุดไหลตั้งแต่เวลา 02.00 น. แผนใช้ถุงทรายอุดช่องว่างเป็นวิธีที่ดีมีความยืดหยุ่น และการดำเนินงานเดินมาถูกทางแล้ว ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาสภาวิศวกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขเหตุถนนทรุดบริเวณสร้างรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่ ว่า ขณะนี้น้ำที่เคยไหลตามท่อได้หยุดไหลแล้วตั้งแต่เวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการทำงาน จากนี้ทีมงานจะดำเนินการปิดช่องว่างในอุโมงค์ด้วยการปล่อยถุงทรายลงไป เพื่อปิดช่องทางที่ยังมีอยู่ ยืนยันแผนการใช้ถุงทรายอุดหลุมเป็นแผนที่เหมาะสมกว่าการใช้ชีทพาย เนื่องจากถุงทรายมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวเข้ากับรูปร่างของพื้นที่ได้ดีกว่า และการใช้ทรายที่บรรจุในถุงจะช่วยป้องกันไม่ให้ทรายไหลไปกับน้ำ ทำให้เกิดเป็นลักษณะของกำแพงเพื่อยับยั้งการไหลของดิน ซึ่งเป็นวิธีการที่เคยใช้แม้กระทั่งในเหตุการณ์แผ่นดินไหว คันกั้นน้ำแตก ส่วนอาคาร สน.สามเสน ที่ได้รับผลกระทบ แม้ตามหลักการเสาเข็มหลักของอาคารอาจมีโอกาสที่จะทรุดตัวลงไปอีกได้ แต่ในทางปฏิบัติอาคารยังคงตั้งอยู่ได้ เนื่องจากมีการถ่ายเทน้ำหนักไปยังเสาเข็มอื่น ๆ ซึ่งคล้ายคลึงกับกรณีรถตู้คอนเทนเนอร์ชนอาคารที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ส่วนการตัดสินใจว่าจะรื้อถอนอาคารหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าของและผู้รับเหมาเป็นหลัก ส่วนอาคารอื่น ๆ โดยรอบยังคงอยู่ในสถานะที่ปลอดภัยและไม่เข้าข่ายความเสี่ยงไม่ถึงขั้นต้องทุบทิ้ง ส่วนที่มีข้อกังวลของประชาชนเกี่ยวกับพื้นที่ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าและหลังสร้างเสร็จจะปลอดภัยหรือไม่นั้น ในขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างพื้นที่เหล่านี้อาจไม่มีความมั่นคง แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จะมีความมั่นคง ปลอดภัย และต้องมีการทดสอบความปลอดภัยเรียบร้อยแล้วถึงเปิดให้บริการ.-416-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ส่งหนังสือแจ้งพร้อมแถลงนโยบาย 29 ก.ย.เป็นต้นไป

รัฐสภา 25 ก.ย.- “นายกฯ อนุทิน” ส่งหนังสือแจ้ง “ประธานรัฐสภา” พร้อมแถลงนโยบายรัฐบาล 29 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป เตรียมส่งเล่มนโยบาย-คำแถลงรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ต่อรัฐสภาวันนี้ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนส่งมายังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เรื่องการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา โดยในวันนี้ (25 ก.ย.) รัฐบาลจะส่งเล่มนโยบายจำนวน 1 เล่ม มายังรัฐสภาพร้อมกับคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้กำหนดวันพร้อมที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2568 เป็นต้นไป .-316 -สำนักข่าวไทย

ทภ.1 แจ้งเลื่อนการประชุม RBC สมัยพิเศษ

25 ก.ย. – กองทัพภาคที่ 1 แจ้งเลื่อนการประชุม RBC สมัยพิเศษ ไปเป็น ต.ค. 68 เหตุข้อมูลทั้งสองฝ่ายยังไม่สมบูรณ์ ขณะที่ทหาร ตำรวจ อส. เตรียมรับสถานการณ์ชายแดนสระแก้ว ย้ำกองกำลังไทยมีความพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์ เพจเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 1 โพสต์ข้อความว่า กองทัพภาคที่ 1 ขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 ด้าน ทภ.1 และ ภท.5 ในห้วง 25-27 กันยายน เป็นเดือนตุลาคม แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน เนื่องจากรายละเอียดในการประชุมของทั้งสองฝ่ายยังไม่สมบูรณ์ ยังต้องมีการจัดทำให้ครบถ้วน จึงมีความเห็นร่วมกันทั้งสองฝ่ายให้เลื่อนการประชุมออกไป กำลังพล 3 ฝ่าย พร้อมรับสถานการณ์ชายแดนสระแก้วขณะที่กำลังพล 3 ฝ่าย คือ ทหาร ตำรวจ อส. เตรียมรับสถานการณ์ชายแดนสระแก้ว พร้อมติดตามการสร้างถนนเชื่อมชุมชน ย้ำกองกำลังไทยมีความพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์ ขณะที่ผู้ว่าฯ ระบุหลังวันที่ 10 […]