กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – “วราวุธ” เดือด! กรณีครูสอนดำน้ำไล่ฆ่าปลาวัวไททัน ลั่นคนแบบนี้ไม่ควรมาสอนดำน้ำ พร้อมตะเพิดให้ไปเข้าคอร์สปรับทัศนคติใหม่
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2566 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีครูสอนดำน้ำรายหนึ่ง โพสต์ลงโซเชียลว่า ตนถูกปลาวัวไททันกัดขา บริเวณเกาะร้านเป็ด และจากนั้นได้ฆ่าปลาตัวดังกล่าว โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ปลาไปกัดผู้อื่นอีก เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ว่า ตนได้ทราบข่าวดังกล่าว และขอฝากผู้ประกอบการและครูดำน้ำทุกคนว่า การสอนนักเรียน การเป็นตัวอย่างที่ดีคือหัวใจสำคัญ และที่สำคัญจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การที่เราไปดำน้ำนั้น เราเข้าไปบ้านของคนอื่น เราเข้าไปในโลกที่ไม่ใช่โลกของเรา ฉะนั้น ปลาหรือเจ้าของบ้านเขาจะทำอะไรเป็นสิทธิของเขา และเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเคารพในสิทธิของเจ้าของบ้าน ถ้าเจ้าของบ้านมาไล่ก็แสดงว่าเขาไม่ต้องการให้เราเข้าไป การที่เขามาไล่ แล้วเราไปฆ่าเจ้าของบ้านตายนั้น หากเป็นคน คุณต้องติดคุกแล้ว แต่ไม่มีใครมาเรียกร้องสิทธิให้กับปลา ให้กับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ทะเล ดังนั้น เราเป็นมนุษย์ มีความคิด มีความรู้ และที่สำคัญเป็นถึงครูดำน้ำ ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น
“เรื่องนี้ผมไม่พอใจมาก นี่ยังโชคดีที่อยู่นอกเขตอุทยานฯ เพราะถ้าอยู่ในเขตอุทยานฯ หรือในพื้นที่รับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ถึงติดคุกเลยคอยดู ปลาชนิดนี้ไม่ได้เป็นสัตว์น้ำคุ้มครอง แต่เป็นปลาที่คอยควบคุมระบบนิเวศแนวปะการัง หากขาดปลาวัวไททัน อาจทำให้มีศัตรูคุกคามปะการังมากขึ้นจนขาดภาวะสมดุล จึงไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์จะไปทำร้ายเขา และหน้าที่ของคุณคือต้องอนุรักษ์ เพราะถ้าไม่มีปลาทะเล นักดำน้ำจะดำลงไปดูอะไร ถ้าไม่มีสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล แล้วจะดำลงไปดูอะไรกัน” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวว่า อาชีพครูดำน้ำ เมื่อทำงานแบบนี้ มีสามัญสำนึกเพียงแค่ถูกปลาทำร้ายแล้วไปฆ่าเขาตาย เป็นเรื่องที่ไม่สมควร แล้วออกมาขอโทษ แล้วเรื่องก็จบไป ไม่ง่ายเกินไปหรือ แต่สิ่งมีชีวิตและทรัพยากรที่เสียไป ระบบนิเวศที่หายไปกับปลาตัวหนึ่ง ถ้าทุกคนคิดแบบคุณทั้งหมดคงแย่ ท้องทะเลไทยก็จะไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานได้ดู เพราะอย่างน้อยในละแวกนั้น ปลาไททันก็หายไป 1 ตัว แทนที่คนอื่นจะได้เห็น และเมื่อรู้ว่าปลาเขาปกป้องพิทักษ์พื้นที่ของเขา เขาไม่อยากให้รุกเข้าไป ก็อย่าเข้าไป ทั้งที่รู้อยู่ว่าปลาชนิดนี้เขาปกป้องพื้นที่ เราก็ควรไปดำที่อื่น แต่ถ้าจะเข้าไปก็ต้องรับความเสี่ยงให้ได้ ไม่ใช่ไปทำร้ายจนถึงเขาตาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง
นายวราวุธ กล่าวว่า ปลาชนิดนี้เป็นปลาสวยงาม พบเห็นได้ทั่วไป เป็นเอกลักษณ์ และทรัพย์สมบัติของท้องทะเลไทยที่เราควรจะต้องหวงแหนเอาไว้ หายากหรือไม่ยากไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นคือไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะไปทำร้ายเขา แต่เป็นหน้าที่ของคุณด้วยซ้ำไปที่จะต้องปกป้องเขา
“ในกลุ่มนักดำน้ำด้วยกัน ได้พูดคุยกันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่สมควร เป็นถึงครูดำน้ำด้วย ตอนนี้ทราบว่าในพื้นที่ได้พักใบอนุญาตครูดำน้ำคนดังกล่าวไปชั่วคราว และที่สำคัญเขายังไม่มีใบอนุญาตในการประกอบการ ซึ่งถ้าผมเลือกได้ คิดว่าอย่าให้คนแบบนี้มาสอนดำน้ำเลย หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็ควรไปเข้าคอร์สเรียนปรับทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องดำน้ำใหม่ดีกว่า” นายวราวุธ กล่าว. – สำนักข่าวไทย