กรมอุทยานฯ เร่งจัดระเบียบการครอบครองที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ

กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ เดินหน้าแก้ไขปัญหาการก่อสร้างรีสอร์ตบนเกาะหลีเป๊ะ รุกเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการครอบครองที่ดินทับซ้อนกับชาวเล ย้ำเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการหาข้อตกลงร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อจัดระเบียบให้เกาะหลีเป๊ะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความยั่งยืน


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า การครอบครองที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ทั้งการที่ผู้ประกอบการสร้างรีสอร์ตรุกล้ำเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา รวมถึงข้อพิพาทการครอบครองที่ดินทับซ้อนกับชาวอุรักลาโว้ย

จากการตรวจสอบพบผู้ประกอบการหลายรายขยายพื้นที่รีสอร์ตรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ ปิดทางสัญจรของชาวบ้านในการเข้าออกสถานที่สำคัญหลายแห่ง ตลอดจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ขยะ ปล่อยน้ำเสีย สร้างความเสียหายต่อแนวปะการัง ดังนั้น จึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายควบคู่ไปกับการจัดระเบียบ


ทั้งนี้ เกาะหลีเป๊ะเป็นที่ดินของรัฐมาตั้งแต่ พ.ศ. 2482 ดูแลโดยกรมราชฑัณฑ์ ต่อมาจึงเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานฯ ไม่ได้จะไล่จับกุมและรื้อรีสอร์ตออกทั้งหมด แต่จะต้องจัดระเบียบให้เกิดความสมดุลและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่ใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยตามมาตรา 64 ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ กรมอุทยานฯ สามารถจัดที่ดินทำกินให้แก่ประชาชนได้ แต่ต้องอยู่บนหลักการประกอบกิจการที่ดี จึงจะพิจารณาว่าบริเวณใดที่ไม่สมควรจะมีรีสอร์ตก็ต้องไม่มี บริเวณที่ก่อสร้างได้ก็ต้องไม่เกิดความแออัด ผู้ประกอบการต้องไม่สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สำหรับการช่วยเหลือชาวอุรักลาโว้ยนั้น มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล ซึ่งมีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย ได้แก่ กรมอุทยานฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น กรมอุทยานฯ จะสนับสนุนการแก้ปัญหาของการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ร่วมกัน ผู้ประกอบการต้องไม่ก่อสร้างปิดพื้นที่หรือทางสัญจรของชาวบ้าน

นายอรรถพลย้ำว่า เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายแล้ว ทุกฝ่ายต้องมาตกลงกติกา เนื่องจากขณะนี้เกาะหลีเป๊ะมีสภาพไม่น่าท่องเที่ยว หากปล่อยไว้ ไม่จัดระเบียบ ต่อไปจะไม่มีคนมาเที่ยว ดังนั้น ต้องมาร่วมกันแก้ปัญหาและทำให้เกาะหลีเป๊ะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย