กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – ตำรวจท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี นำตัวนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่หลบหนีการกักตัวโควิด-19 จากโรงแรม ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
กรณีนายโอฮัท บรันช์ อายุ 29 ปี นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล หลบหนีการกักตัวจากโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านทองหล่อ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ออกหมายจับ ข้อหากระทำความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนด มาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมาตรการป้องกันผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร และหลักเกณฑ์ในการดำเนินการสถานที่กักกันซึ่งราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 (เมื่อมาถึง/อยู่ในราชอาณาจักรระหว่างรอผลโควิด-19 ห้ามเดินทางออกนอกโรงแรมหรือพื้นที่ที่กำหนดไว้) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งตำรวจออกหมายจับ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายโอฮัท หลบหนีไปยังพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนถูกจับกุมตัวขณะหลบหนีไปที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.30 น. วันนี้ (27 ธ.ค.) พ.ต.ต.อธิวัฒน์ มารุดกล้า ตำรวจท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี คุมตัวนายโอฮัท มาที่ สน.ทองหล่อ โดยนำตัวเข้าห้องสืบสวนทันที โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด

สำหรับนายโอฮัท ถูกตำรวจท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี ควบคุมตัวได้ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมยืนยันผลตรวจเป็นลบ แต่เพื่อความปลอดภัยของชุมชน กรมควบคุมโรค มีความเห็นให้กักตัวนักท่องเที่ยวรายนี้ จนถึงวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้นำตัวนายโอฮัท มาดำเนินคดีต่อที่ สน.ทองหล่อ ทันที และเมื่อศาลพิพากษาแล้ว จะให้ออกนอกราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต่อไป. – สำนักข่าวไทย