ผบ.ตร.ย้ำปรับแผนลดอุบัติเหตุ เข้มพื้นที่จัดเคาท์ดาวน์

กทม. 31 ธ.ค.-ผบ.ตร.ห่วงใยประชาชน ติดตามมาตรการดูแลความปลอดภัยเทศกาลปีใหม่ เน้นย้ำหน่วยปรับแผนลดอุบัติเหตุกวดขันวินัยจราจร ดื่มแอลกอฮอล์ ขับรถเร็ว มอบความสุขให้คนไทย ลดการสูญเสียทางถนน เข้มพื้นที่จัดเคาท์ดาวน์ ยอดโครงการฝากบ้าน 6,355 หลัง

วันนี้ 31 ธ.ค.65 (10.30 น.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 และมาตรการป้องกันปราบปรามฯ ติดตามความพร้อมรองรับการจัดงานเทศกาล ปีใหม่ฯ ณ ศปก.ตร.


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า “1.ข้อมูลศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 รายงานสภาพการจราจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว การจราจรยังไม่หนาแน่น คาดว่าในช่วงเย็นและช่วงค่ำ จะมีประชาชนเดินทางออกมาจับจ่าย ใช้สอย ท่องเที่ยวและร่วมงานเทศกาลปีใหม่อย่างหนาแน่น โดยได้เตรียมพร้อมรองรับการปฏิบัติในพื้นที่ไว้แล้ว

สำหรับสถิติอุบัติเหตุ ตั้งแต่วันที่ 29-30 ธ.ค.65 จำนวน 2 วัน โดยเปรียบเทียบจากเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565 และค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี เกิดขึ้น 715 ครั้ง ลดลงร้อยละ 10-20 เสียชีวิต จำนวน 85 ราย ลดลงร้อยละ 7-24 บาดเจ็บ จำนวน 714 ราย ลดลงร้อยละ 9-22


อุบัติเหตุขนาดใหญ่ มีผู้เสียชีวิติหรือบาดเจ็บหลายรายเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัด ปทุมธานี (เสียชีวิต 4 บาดเจ็บ 1) อุบลราชธานี (เสียชีวิต 2) ร้อยเอ็ด (เสียชีวิต 2) สุพรรณบุรี (บาดเจ็บ 8) ชุมพร (บาดเจ็บ 6) ยะลา (บาดเจ็บ 4) สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 38 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 24 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 20 โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในถนนทางหลวง รองมาคือถนนในหมู่บ้าน/ท้องถิ่น เทศบาลแลทางหลวงชนบท โดยยานพาะหนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ กระบะ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูง จะเป็นห้วงเวลา 17.00-20.00 น. พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจให้เสียชีวิต ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก 1. ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ (40,751) 2.ไม่สวมหมวกนิรภัย (37,304) 3.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย (13,169) ภาพรวมการจราจรและการลดอุบัติเหตุเป็นไปด้วยดี ลดลงได้กว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนได้มีการปรับเปลี่ยนการเดินทางโดยเดินทางออกจาก กทม. ปริมาณรถสูงสุดในวันที่ 29 ธ.ค.65 ห้วงวันที่ 30-31 ธ.ค.65 สภาพการจราจรคล่องตัว และคาดการณ์ว่าจะเดินทางกลับในห้วงวันที่ 1 – 2 ม.ค.66 โดยมีปริมาณรถที่ออกเดินทางจาก กทม. ประมาณสามล้านคัน

2.การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในห้วงเทศกาลปีใหม่
2.1 มีการระดมกวาดล้าง อาชญากรรมห้วงวันที่ 20 – 29 ธ.ค.65 อาชญากรรมทั่วไป การพนัน ยาเสพติด อาวุธปืน คนเข้าเมือง สถานบริการ และบุคคลตามหมายจับ จำนวน 39,986 ราย ผู้ต้องหา 41,005 คน อาชญากรรมออนไลน์ (หลอกลวงทางออนไลน์ ข่าวปลอม การล่วงละเมิดต่อทางเพศ พนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ) จำนวน 3,368 ราย ผู้ต้องหา 3,327 คน
2.2 โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0) วันที่ 26 – 30 ธ.ค.65 จำนวน 6,355 หลัง ส่งคืนแล้ว 34 หลัง คงเหลือ 6,321 หลัง โดยพื้นที่ฝากบ้านสูงสุดในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 2 ภาค 4 และ ภาค 3 ตามลำดับ


  1. การรักษาความปลอดภัยสถานที่จัดงานเทศกาลปีใหม่ ได้กำหนดมาตรการในพื้นที่จัดงานทั้งทางบก ทางน้ำ และการบริหารจัดการเหตุในพื้นที่ โดยกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร การเผชิญเหตุฉุกเฉินและเหตุทางการแพทย์ นำบทเรียนจากสถานการณ์ต่างๆ เช่น เกาหลีใต้ ไฟไหม้สถานบันเทิง ฯลฯ มาปรับแผนและการบริหารจัดการเหตุ ตลอดจนนำกำลังพลตำรวจ เครื่องมือและยานพาหนะ มาปรับใช้ตามมาตรการฯ
  • กทม. เซ็นทรัลเวริด์ (60,000-100,000 คน) ไอคอนสยาม (1,500-3,000 คน) เอเชียทีค (1,500-7,000 คน) และวัดยานนาวา
  • สมุทรปราการ เมกาบางนา เซ็นทรัลเวสเกต บางใหญ่ (500 คน)
  • แสนสุข พัทยา (10,000-20,000 คน)
  • โคราช เดอะมอลล์ เซ็นทรัล บุรีรัมย์ สนามช้างอารีน่า
  • พิษณุโลก เชียงใหม่ และในพื้นที่จังหวัดต่างๆ

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ในวันนี้เป็นการ ติดตามสถานการณ์ รับฟังแผนหรือมาตรการต่างๆ สรุปผลการดำเนินการ ตลอดจน ร่วมกันประชุม หารือ แก้ไข ปัญหาต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้กำชับให้พื้นที่มีการเกิดอุบัติเหตุปรับแผนและลงพื้นที่แก้ไขปัญหา ดำรงการจราจรและลดอุบัติเหตุปีใหม่ กวดขันวินัยจราจร ดื่มแอลกอฮอล์ ขับรถเร็ว แสวงหาความร่วมมือทุกภาคส่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขัน เพิ่มความเข้มในการตรวจตรา ด่านตรวจถาวร/มั่นคง การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด สถานที่จัดงานจะต้องไม่แออัด บริหารจัดการพื้นที่ให้เส้นทางการระงับเหตุ เส้นทางการบริการหรือ เหตุฉุกเฉิน แสดงกำลังกวดขันสถานบริการ การเล่นพลุและดอกไม้เพลิง การยิงปืนขึ้นฟ้าและการป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่ประชาชนจำนวนมากหรือสถานที่สำคัญ ขอขอบคุณ ประชาชน ทุกภาคส่วน และข้าราชการตำรวจทุกนาย ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนช่วงห้วงเทศกาลปีใหม่นี้”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]

อยุธยาอ่วม! มัสยิด-บ้านริมน้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมสูง

อยุธยา 22 ก.ย. – จ.พระนครศรีอยุธยา อ่วม! น้ำท่วมขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะมัสยิด ระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนป่าสักชลฯ เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกตั้งแต่ 24 ก.ย.นี้ เตือนน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ 103 ตำบล 626 หมู่บ้าน รวมกว่า 31,227 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ โดยพื้นที่ ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะมัสยิดดารุซซุนนะห์ ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ถูกน้ำเอ่อท่วมและระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ชาวบ้านสัญจรลำบาก บางจุดต้องใช้เรือ ต้องเดินลุยน้ำเข้า-ออกบ้านและมัสยิด ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง เร่งนำไม้มาทำสะพานชั่วคราว ให้ประชาชนเดินเข้ามัสยิดเพื่อประกอบพิธีละหมาดได้ พร้อมเร่งตัดต้นไม้และกำจัดวัชพืช ให้เรือสัญจรได้สะดวก และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำเจ้าพระยายังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง นายธีรยุทร อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า บ้านถูกน้ำท่วมเกือบถึงเอว ลำบากมาก […]

ร่างแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จแล้ว นายกฯ ลุกแจงเอง-ไร้องครักษ์

พรรคภูมิใจไทย 22 ก.ย.- ร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาล “อนุทิน” เสร็จแล้ว มี 8 หน้า นายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงเอง-ไม่มีองครักษ์ หลังเพื่อไทยจัด 4 ขุนพลเตรียมชำแหละ แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า ขณะนี้ร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนทั้งหมด 8 หน้า โดยนโยบายทั้งหมดจะเน้น 4 ด้าน ประกอบด้วย เศรษฐกิจปากท้อง ความมั่นคงและชายแดน ปัญหาสังคม ภัยธรรมชาติและการเยียวยา โดยนโยบายด้านเศรษฐกิจ จะเน้นเรื่องการลดค่าครองชีพแก่ประชาชน เช่น นโยบายคนละครึ่ง ซึ่งขณะนี้เรื่องระบบการใช้-วงเงินอยู่ระหว่างการพูดคุย การลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ลดค่าทางด่วน รวมถึงอาจจะมีการปรับนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยเคยหาเสียงไว้ เช่น โซลาร์รูฟท็อป เป็นโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ เพื่อให้เข้ากับการทำงานของอายุรัฐบาล 4 เดือน นอกจากนี้จะมีการหยิบนโยบายของพรรคเพื่อไทย มา เช่น หวยเกษียณ โดยอาจจะมีการปรับรูปแบบ ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย […]