สุดเศร้า ญาติร่ำไห้รับศพเหยื่อคานสะพานหล่นทับ

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – ครอบครัวผู้เสียชีวิตรับศพเหยื่อคานสะพานหล่นทับ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า พ่อของหนึ่งในผู้เสียชีวิตร่ำไห้เผยนาทีสุดท้ายคุยโทรศัพท์กับลูกสาว ก่อนถูกคานสะพานหล่นทับเสียชีวิต กรมทางหลวงพร้อมเยียวยาผู้ประสบเหตุเสียชีวิตและบาดเจ็บเต็มที่


สำหรับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ คนแรกคือ น.ส.สุวรรณี อายุ 41 ปี เป็นคนที่นั่งข้างคนขับในรถเก๋ง ส่วนอีกคนเป็นคนงานก่อสร้างที่ร่วงตกมาพร้อมกับคานสะพาน คือนายชาญ อายุ 48 ปี

พ่อร่ำไห้เล่าเข่าทรุดเห็นสภาพรถลูกสาว
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ไปรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า นายณรงค์ รักท้วม พ่อของ น.ส.สุวรรณี ร่ำไห้เล่าว่า หลังเกิดเหตุแฟนลูกสาวโทรมาบอก ตอนแรกคิดว่ารถชนแท่งแบริเออร์ คงไม่เป็นอะไรมาก แต่ก็รีบนั่งรถออกไปดู ตอนนั้นรถติดมาก ต้องขออาศัยคนขับรถจักรยานยนต์คันหนึ่งพาไปที่จุดเกิดเหตุ พอไปเห็นสภาพรถถึงกับเข่าทรุด ทำอะไรไม่ถูก เพราะก่อนหน้านี้ไม่ถึง 5 นาที ลูกโทรมาถามว่าพ่อจะกินอะไร เดี๋ยวจะซื้อไปให้ ตนเองบอกลูกไปว่าไม่ต้อง เพราะทำกับข้าวแล้ว ไม่ต้องซื้อมา มีกับข้าวแล้ว หลังวางสายไม่เกิน 5 นาที แฟนลูกสาวก็โทรมาแจ้ง ตอนแรกแม่ของเขาจะนั่งไปเป็นเพื่อน และจะมีหลานไปด้วย หากไปกันหมดอาจจะตายกันหมด


พ่อยังกล่าวโทษเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงว่า ไม่คิดถึงชีวิตคนอื่นเลย มีตั้งหลายครั้งแล้วทำไมปล่อยให้เกิดขึ้นอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำใจยาก เพราะมีลูกแค่ 2 คน โดยหลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงโทรมาขอร่วมงานเป็นเจ้าภาพ และทางปลัดฯ ได้โทรมาสอบถามหากมีอะไรให้ช่วยเหลือก็โทรไปพูดคุยได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มาคุยกับพ่อแม่ว่าดำเนินการถึงไหน อย่างไรบ้าง เพราะทางครอบครัวยังยุ่งกับการจัดการเรื่องรับศพ โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดไทร เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เป็นเวลา 5 วัน

ญาติผู้เสียชีวิตวอนขอให้เป็นเหตุการณ์สุดท้าย
ด้านน้าสาวของเสียชีวิต เรียกร้องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการซ่อมแซมต่างๆ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพราะการสูญเสียชีวิตคนไม่สามารถที่จะเอากลับมาได้ อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่จะเกิดขึ้น อยากให้คำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด ไม่ว่าจะทำอะไรขอให้คิดถึงคนอื่นด้วย อย่าคิดถึงแต่ส่วนงานของตัวเอง

อีกครอบครัวผู้สูญเสีย น.ส.เพ็ญ ภูผานา ภรรยาของนายชาญ คนงานที่เสียชีวิต ได้เดินทางมารับศพเช่นกัน เล่าเหตุการณ์สั้นๆ ว่าขณะเกิดเหตุตนอยู่ในที่เกิดเหตุเช่นกัน ได้ยินเสียงหล่นตู้ม แต่ไม่รู้ว่าเป็นสามีตนเอง เพราะตอนนั้นกำลังจะเริ่มทำงานซ่อมแซมสะพานกลับรถ และตนเองนั่งหันหลัง ขณะนั้นสามีกำลังจะเดินไปหาลูกน้อง ซึ่งจุดดังกล่าวมีกำหนดซ่อม 3 เดือน มีหัวหน้างาน 2 คน สามีเป็นหัวหน้าหน่วย หลังจากนี้จะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านกุ่ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เป็นเวลา 3 วัน


สำหรับผลชันสูตรเบื้องต้น นายชาญเสียชีวิตจากกระดูกซี่โครงหัก ปอดช้ำฉีกขาด ตับม้ามแตก จากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ส่วน น.ส.สุวรรณี เกิดจากการขาดอากาศจากการกดทับบริเวณทรวงอก

กระทรวงแรงงานเยียวยาคนงานเสียชีวิต-บาดเจ็บ
ส่วนเรื่องการดูแลเยียวยาคนงาน เมื่อช่วงเช้า นางสาวปรียานันท์ ลิขิตศานต์ ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ บอกว่ากรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้ามาดูแลในส่วนของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บตามกฎหมายประกันสังคม นอกจากนี้จะเข้ามาตรวจสอบตาม พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ว่าในการซ่อมแซมสะพานครั้งนี้ มีการปฏิบัติตามมาตรฐานใน พ.ร.บ. หรือไม่ หากผู้ก่อสร้างเป็นเอกชน กระทรวงแรงงานจะสามารถดำเนินคดีอาญาต่อเอกชนผู้ก่อสร้างได้ แต่ในกรณีนี้เป็นหน่วยงานของกรมทางหลวง ซึ่งเป็นราชการเป็นผู้ซ่อมแซมก่อสร้างเอง ตาม พ.ร.บ.นี้ไม่สามารถดำเนินคดีอาญากับหน่วยงานของรัฐได้ แต่จะมีการแจ้งกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน

นายกฯ สั่ง ก.คมนาคม ดูแลความปลอดภัยการก่อสร้างทุกพื้นที่
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง วิเคราะห์หาสาเหตุ และย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด และให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยทุกพื้นที่ของโครงการปรับปรุงสะพาน หรือในบริเวณที่มีการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมสั่งให้มีการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบกฎหมาย

ส่วนเรื่องการจราจรยังปิดช่องทางด่วนฝั่งขาเข้า-ขาออกกรุงเทพฯ โดยให้เบี่ยงออกคู่ขนานก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร พอเลยจุดที่เกิดเหตุไปแล้วประมาณ 1 กิโลเมตร หรือก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่ท่าจีน สามารถตัดเข้าช่องทางด่วนได้ตามปกติ แต่สำหรับผู้ที่จะเข้ากรุงเทพฯ โดยไม่ต้องผ่านจุดดังกล่าว แนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยง โดยเมื่อถึงช่วง กม.38 แยกบ้านแพ้ว ให้ตัดไปวิ่งถนนเพชรเกษมจะดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงจราจรติดขัด

ย้อนเหตุ 17 ก.ค. ท่อนเหล็กก่อสร้างร่วงใส่รถ
ย้อนกลับไปดูก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บนถนนพระราม 2 แห่งนี้ก็เคยเกิดเหตุมีวัสดุก่อสร้างร่วงหล่นลงมาใส่รถยนต์ที่วิ่งผ่าน ตอนนั้นสร้างความตื่นตระหนกไม่น้อย เป็นเหตุการณ์ในวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ในพื้นที่โครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ (ถนนพระราม 2) ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ตอน 2 จังหวัดสมุทรสาคร มีวัสดุก่อสร้างลักษณะเป็นท่อนเหล็กร่วงหล่นลงมา ตรวจสอบพบว่าสาเหตุเกิดจากผู้รับจ้างเข้าไปเตรียมการติดตั้งชิ้นส่วนสะพาน แต่เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนนั่งร้านร่วงหล่นลงมาใส่รถกระบะสีดำที่ขับผ่าน และมีรถยนต์เหยียบทับชิ้นส่วนดังกล่าว ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย 3 คัน มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน ตอนนั้นกรมทางหลวงสั่งการให้ผู้รับจ้างตรวจสอบและดูแลเยียวยาผู้เสียหาย รวมถึงสั่งให้โครงการหยุดงานก่อสร้างบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียด และพิจารณามาตรการเสริมความปลอดภัยในด้านต่างๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย