อดีตจเรตำรวจ ชี้คดี “แตงโม” สะท้อนสังคมไม่เชื่อมั่นการสอบสวน

กทม. 5 มี.ค.-อดีตจเรตำรวจ เผยคดี “แตงโม” เป็นอีกคดีตัวอย่างที่สังคมไม่เชื่อมั่นกระบวนการสอบสวน จนเกิดการคาดเดาประเด็นข้อสงสัย แนะตำรวจยึดพยานหลักฐาน เปิดข้อมูลตรงไปตรงมา ขณะที่การตกลงชดใช้ค่าเสียหายระหว่างคู่กรณี อาจมีผลทางคดีในชั้นศาล

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรอง ผบก.จเรตำรวจ และเลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นกรณีคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ โดยระบุว่า ข้อมูลที่ออกมาในขณะนี้ มีทั้งหลักฐาน มีทั้งการคาดเดาและความคิดเห็นต่างๆ ซึ่งตำรวจต้องทำงานไปตามพยานหลักฐานเป็นหลัก ถือว่าเป็นหลักทั่วไปที่ตำรวจต้องปฏิบัติ ประเด็นอยู่ที่ว่าการทำงานของตำรวจต้องมีการชี้แจงให้ประชาชนทราบ แล้วทำงานอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ หรือมีลับลมคมใน ซึ่งระบบการสอบสวนคดีอาญา ที่ข้อมูลอยู่ที่ตำรวจเพียงฝ่ายเดียว ทำให้คนขาดความเชื่อถือและไม่เชื่อมั่น เพราะฉะนั้นต้องพยายามชี้แจงข้อมูลในการทำงานให้ประชาชนรับทราบ แต่ไม่ใช่การชี้แจงพยานหลักฐานในคดี ไม่ใช่อ้างว่าอยู่ในสำนวน เป็นความลับในสำนวน แต่การไม่ชี้แจงต่อประชาชนจะก่อให้เกิดปัญหาได้


พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า การรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทางคดีที่สำคัญ ประกอบด้วยเหตุที่ตายและพฤติการณ์ที่ตายเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้เหตุที่ตายชัดแล้วว่าขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำเป็นพยานหลักฐานที่เชื่อถือได้เพราะเป็นวิทยาศาสตร์ ส่วนพฤติการณ์ที่ตายยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ขณะนี้มีเพียงพยานจากคำบอกเล่าของ “แซน” คนที่นั่งอยู่ที่ท้ายเรือว่า “แตงโม” มาปัสสาวะท้ายเรือและตกน้ำไป นี่คือพยานบุคคล ไม่มีพยานอย่างอื่น ส่วนคนที่เหลือก็ไม่เห็นว่าตกลงไปในลักษณะใด คำให้การของพยานจะเชื่อถือได้หรือไม่ ต้องมาตรวจสอบวัตถุพยานแวดล้อมต่างๆ ตกไปแล้วโดนอะไรหรือไม่ อย่างเช่นแผลที่ขาก็มีความสำคัญ หากตรงกันก็ชัดเจนว่าตกท้ายเรือ ก็เป็นข้อยุติ แต่หากจะไม่เชื่อถือคำให้การของ “แซน” ต้องมีพยานหลักฐานมาหักล้างว่ามีพยานเห็นเป็นอย่างอื่นอย่างใด เช่นวัตถุพยานอื่นๆ ขณะนั้นมีกล้องวงจรปิดบนฝั่งแม่น้ำหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่พยานให้การ ก็ต้องมีการถูกดำเนินคดีในฐานให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ประเด็นตอนนี้อยู่ที่ว่ายังไม่มีหลักฐานในการมาหักล้างคำให้การของพยานถึงพฤติการณ์ที่ตาย โดยเฉพาะการระบุว่า “แตงโม” นั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือ และตกน้ำในข้อเท็จจริงแล้วอาจมีทั้งเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้

พ.ต.อ.วิรุตม์ ระบุว่า การที่ตำรวจไม่ชี้แจงการทำงานแม้กระทั่งความเร็วของเรือขณะวิ่ง ขณะนี้ยังไม่มีใครออกมาให้ข้อมูล หรือข้อมูลคนขับเรือตัวจริง กว่าจะได้รับการยืนยันก็ใช้เวลาถึง 5 วัน ทำให้เกิดข้อสงสัยความมีเงื่อนงำในการสอบสวนรวมไปถึงการชันสูตรศพ ซึ่งปกติที่จังหวัดนนทบุรี จะส่งศพไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ก็มีการเปลี่ยนไปที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีการอ้างว่ามีผู้ใหญ่สั่งให้เปลี่ยนสถานที่ เรื่องนี้นำไปสู่การทำให้เกิดปัญหา


พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวอีกว่า กรณีที่มีการตกลงชดใช้ค่าเสียหายกับแม่ของแตงโม 30 ล้านบาท ประเด็นนี้เมื่อคดีเข้าสู่ศาล อาจมีผลทางคดี ซึ่งข้อหาประมาทที่มีการตั้งกับ 2 คน คือ “ปอและโรเบิร์ต” คดีลักษณะนี้ หากไม่มีหลักฐานอื่น ผู้ต้องหารับสารภาพและมีการชดใช้ความเสียหาย ศาลก็อาจจะรอลงอาญาได้ ซึ่งมีแนวโน้มสูง คงไม่ถึงโทษจำคุก เพราะได้มีการบรรเทาความเสียหาย ส่วนข้อตกลงเงินทองเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีในขณะนี้ ซึ่งจะต้องรอให้ข้อเท็จจริงทางคดีอาญาเป็นข้อยุติก่อน ก็เป็นเรื่องของการรับปากระหว่างคู่กรณี แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการเปิดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตกน้ำโดยตรง เช่นสาเหตุของการไปล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาในวันดังกล่าว ที่มีการกล่าวอ้างว่าจะมีการนำ “แตงโม” ไปให้กับให้ผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่เกี่ยวกับคดีโดยตรงกับการตกน้ำ เป็นการที่หลายคนอาจจะปกปิดไว้นำไปสู่ความมีพิรุธ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งตำรวจไม่ควรให้น้ำหนักมากหากไม่มีความผิดทางด้านอาญา หากมีข้อมูลหลักฐานก็ว่าไปตามกฎหมาย

พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวด้วยว่า คดีของแตงโม เป็นอีกคดีที่สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการสอบสวนคดีอาญาประเทศเรา ซึ่งข้อมูลและหลักฐานอยู่ในมือของตำรวจฝ่ายเดียว หน่วยงานอื่นเช่น พนักงานอัยการไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ บางประเทศที่อัยการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง สามารถเข้ามาดูพยานหลักฐานได้ตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ ควรเข้ามาสิ ควรมีสิทธิ์เข้ามาตรวจดูพยานหลักฐานได้ ถือเป็นความบกพร่องของระบบการสอบสวนที่ทำให้ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่น แม้จะทำอย่างตรงไปตรงมาและยิ่งมีเงื่อนงำ ยิ่งบานปลาย เช่น การไม่ตรวจยึดวัตถุพยานเรือลำเกิดเหตุตั้งแต่ต้น เมื่อมีเงื่อนงำอื่นๆ ทำให้สังคมยิ่งตั้งคำถามในการทำคดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]