อดีตจเรตำรวจ ชี้คดี “แตงโม” สะท้อนสังคมไม่เชื่อมั่นการสอบสวน

กทม. 5 มี.ค.-อดีตจเรตำรวจ เผยคดี “แตงโม” เป็นอีกคดีตัวอย่างที่สังคมไม่เชื่อมั่นกระบวนการสอบสวน จนเกิดการคาดเดาประเด็นข้อสงสัย แนะตำรวจยึดพยานหลักฐาน เปิดข้อมูลตรงไปตรงมา ขณะที่การตกลงชดใช้ค่าเสียหายระหว่างคู่กรณี อาจมีผลทางคดีในชั้นศาล

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรอง ผบก.จเรตำรวจ และเลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นกรณีคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ โดยระบุว่า ข้อมูลที่ออกมาในขณะนี้ มีทั้งหลักฐาน มีทั้งการคาดเดาและความคิดเห็นต่างๆ ซึ่งตำรวจต้องทำงานไปตามพยานหลักฐานเป็นหลัก ถือว่าเป็นหลักทั่วไปที่ตำรวจต้องปฏิบัติ ประเด็นอยู่ที่ว่าการทำงานของตำรวจต้องมีการชี้แจงให้ประชาชนทราบ แล้วทำงานอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ หรือมีลับลมคมใน ซึ่งระบบการสอบสวนคดีอาญา ที่ข้อมูลอยู่ที่ตำรวจเพียงฝ่ายเดียว ทำให้คนขาดความเชื่อถือและไม่เชื่อมั่น เพราะฉะนั้นต้องพยายามชี้แจงข้อมูลในการทำงานให้ประชาชนรับทราบ แต่ไม่ใช่การชี้แจงพยานหลักฐานในคดี ไม่ใช่อ้างว่าอยู่ในสำนวน เป็นความลับในสำนวน แต่การไม่ชี้แจงต่อประชาชนจะก่อให้เกิดปัญหาได้


พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า การรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทางคดีที่สำคัญ ประกอบด้วยเหตุที่ตายและพฤติการณ์ที่ตายเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้เหตุที่ตายชัดแล้วว่าขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำเป็นพยานหลักฐานที่เชื่อถือได้เพราะเป็นวิทยาศาสตร์ ส่วนพฤติการณ์ที่ตายยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ขณะนี้มีเพียงพยานจากคำบอกเล่าของ “แซน” คนที่นั่งอยู่ที่ท้ายเรือว่า “แตงโม” มาปัสสาวะท้ายเรือและตกน้ำไป นี่คือพยานบุคคล ไม่มีพยานอย่างอื่น ส่วนคนที่เหลือก็ไม่เห็นว่าตกลงไปในลักษณะใด คำให้การของพยานจะเชื่อถือได้หรือไม่ ต้องมาตรวจสอบวัตถุพยานแวดล้อมต่างๆ ตกไปแล้วโดนอะไรหรือไม่ อย่างเช่นแผลที่ขาก็มีความสำคัญ หากตรงกันก็ชัดเจนว่าตกท้ายเรือ ก็เป็นข้อยุติ แต่หากจะไม่เชื่อถือคำให้การของ “แซน” ต้องมีพยานหลักฐานมาหักล้างว่ามีพยานเห็นเป็นอย่างอื่นอย่างใด เช่นวัตถุพยานอื่นๆ ขณะนั้นมีกล้องวงจรปิดบนฝั่งแม่น้ำหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่พยานให้การ ก็ต้องมีการถูกดำเนินคดีในฐานให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ประเด็นตอนนี้อยู่ที่ว่ายังไม่มีหลักฐานในการมาหักล้างคำให้การของพยานถึงพฤติการณ์ที่ตาย โดยเฉพาะการระบุว่า “แตงโม” นั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือ และตกน้ำในข้อเท็จจริงแล้วอาจมีทั้งเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้

พ.ต.อ.วิรุตม์ ระบุว่า การที่ตำรวจไม่ชี้แจงการทำงานแม้กระทั่งความเร็วของเรือขณะวิ่ง ขณะนี้ยังไม่มีใครออกมาให้ข้อมูล หรือข้อมูลคนขับเรือตัวจริง กว่าจะได้รับการยืนยันก็ใช้เวลาถึง 5 วัน ทำให้เกิดข้อสงสัยความมีเงื่อนงำในการสอบสวนรวมไปถึงการชันสูตรศพ ซึ่งปกติที่จังหวัดนนทบุรี จะส่งศพไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ก็มีการเปลี่ยนไปที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีการอ้างว่ามีผู้ใหญ่สั่งให้เปลี่ยนสถานที่ เรื่องนี้นำไปสู่การทำให้เกิดปัญหา


พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวอีกว่า กรณีที่มีการตกลงชดใช้ค่าเสียหายกับแม่ของแตงโม 30 ล้านบาท ประเด็นนี้เมื่อคดีเข้าสู่ศาล อาจมีผลทางคดี ซึ่งข้อหาประมาทที่มีการตั้งกับ 2 คน คือ “ปอและโรเบิร์ต” คดีลักษณะนี้ หากไม่มีหลักฐานอื่น ผู้ต้องหารับสารภาพและมีการชดใช้ความเสียหาย ศาลก็อาจจะรอลงอาญาได้ ซึ่งมีแนวโน้มสูง คงไม่ถึงโทษจำคุก เพราะได้มีการบรรเทาความเสียหาย ส่วนข้อตกลงเงินทองเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีในขณะนี้ ซึ่งจะต้องรอให้ข้อเท็จจริงทางคดีอาญาเป็นข้อยุติก่อน ก็เป็นเรื่องของการรับปากระหว่างคู่กรณี แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการเปิดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตกน้ำโดยตรง เช่นสาเหตุของการไปล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาในวันดังกล่าว ที่มีการกล่าวอ้างว่าจะมีการนำ “แตงโม” ไปให้กับให้ผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่เกี่ยวกับคดีโดยตรงกับการตกน้ำ เป็นการที่หลายคนอาจจะปกปิดไว้นำไปสู่ความมีพิรุธ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งตำรวจไม่ควรให้น้ำหนักมากหากไม่มีความผิดทางด้านอาญา หากมีข้อมูลหลักฐานก็ว่าไปตามกฎหมาย

พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวด้วยว่า คดีของแตงโม เป็นอีกคดีที่สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการสอบสวนคดีอาญาประเทศเรา ซึ่งข้อมูลและหลักฐานอยู่ในมือของตำรวจฝ่ายเดียว หน่วยงานอื่นเช่น พนักงานอัยการไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ บางประเทศที่อัยการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง สามารถเข้ามาดูพยานหลักฐานได้ตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ ควรเข้ามาสิ ควรมีสิทธิ์เข้ามาตรวจดูพยานหลักฐานได้ ถือเป็นความบกพร่องของระบบการสอบสวนที่ทำให้ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่น แม้จะทำอย่างตรงไปตรงมาและยิ่งมีเงื่อนงำ ยิ่งบานปลาย เช่น การไม่ตรวจยึดวัตถุพยานเรือลำเกิดเหตุตั้งแต่ต้น เมื่อมีเงื่อนงำอื่นๆ ทำให้สังคมยิ่งตั้งคำถามในการทำคดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย