ร้องกองปราบฯ เอาผิดตำรวจชุดจับกุมอ้างถูกอุ้มรีดทรัพย์

14 ก.พ. – ผู้ต้องหาคดียาเสพติดร้องกองปราบฯ เอาผิดตำรวจชุดจับกุมคดียาเสพติด ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี หลังถูกอุ้มตัวจากบ้านไปซ้อมทรมาน รีดทรัพย์และบังคับรับสารภาพในคดียาเสพติด


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำครอบครัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2550 เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ดำเนินคดีกับตำรวจชุดจับกุมยาเสพติดในจังหวัดปทุมธานี ประมาณ 8-12 นาย ใน 3 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันพยายามฆ่า 2.ร่วมกันปล้นทรัพย์ 3.ร่วมกันพรากผู้เยาว์

หญิงผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงเที่ยงเดือนกรกฎาคม มีกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกเข้ามาภายในบ้านพักในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และควบคุมตัวครอบครัวรวม 4 คน โดยกล่าวอ้างว่าภายในบ้านมียาเสพติด และบังคับให้บอกที่ซ่อนยาเสพติด แต่เมื่อมีการตรวจค้นภายในบ้านก็ไม่พบของกลาง ตำรวจชุดดังกล่าวจึงควบคุมตัวมาสอบปากคำขยายผลที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ก่อนจะแยกตัวตนเองและสามีไปสอบแยกที่เซฟต์เฮาส์แห่งหนึ่ง และนำตัวลูกสาว 2 คนไปกักอีกที่หนึ่ง โดยตนและสามีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ใช้วิธีทรมานด้วยการช็อตไฟฟ้า รุมทำร้ายร่างกาย และใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะ เพื่อให้รับสารภาพแล้วบอกที่ซ่อนยาเสพติด และรีดเงินไปหลายหมื่นบาท แต่ไม่ได้รับสารภาพ จนกระทั่งชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่งพบของกลางยาเสพติดเกือบ 4,000 เม็ด ที่นอกรั้วบ้าน ตำรวจจึงนำตัวกลับมาที่บ้านและบังคับให้เซ็นรับทราบข้อกล่าวหา


ด้านสามีซึ่งเป็นผู้ต้องหา ยืนยันไม่ได้ค้ายาเสพคิด ให้การปฏิเสธ และ ต่อสู้มาถึง 3 ศาล ก่อนจะพ้นโทษออกมาเมื่อกลางปีที่แล้ว จึงตัดสินใจร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานรัฐ แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยเรื่องคดี

นายอัจฉริยะ บอกว่าที่เดินทางมาแจ้งความในวันนี้ตั้งใจจะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย พรากผู้เยาว์ ภรรยาและลูกของผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่าคดีดังกล่าวมีข้อพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่การเข้าตรวจค้นที่ไม่มีหมายค้นและหมายจับ และคำให้การของผู้ต้องหาชาวลาวได้ยอมรับและเป็นเจ้าของยาเสพติด และมีการฟ้องซ้ำในชั้นอัยการทั้งที่ไม่ได้สอบปากคำเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลจากตำรวจที่ถูกอ้างถึง ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ถูกร้องเรียน ยืนยันตนเองและชุดจับกุมในวันนั้นปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้อง ส่วนการแจ้งความกลับถือเป็นสิทธิ ส่วนตัวก็จะสู้คดีต่อไป พร้อมย้ำชัดว่าไม่มีการบังคับยัดยาเสพติดให้ผู้ต้องหา รวมถึงทำร้ายร่างกายและรีดทรัพย์ตามที่ถูกกล่าวอ้างอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

KNLA เข้าโจมตีทั้งกลางวัน-กลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

เสียงระเบิดดังสนั่นชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ยังระอุ กกล. KNLA เข้าโจมตี ทั้งกลางวันและกลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

ไฟไหม้โรงงานยาง วอดเกือบหมด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงงานยาง ในพื้นที่เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พนักงานกว่า 50 ชีวิต วิ่งหนีออกมาได้ทัน ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

รวบผู้ช่วยทันตแพทย์ ลักทอง 16 บาท ในหมู่บ้าน

รวบสาวแสบผู้ช่วยทันตแพทย์ ย่องเข้าบ้านพัก ย่านนนทบุรี ลักทอง 16 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เอาเงินไปใช้หนี้และวิ่งเต้นคดีความ สอบประวัติ พบก่อเหตุในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง