ตำรวจสอบสวนกลางบุกรวบ “ขวัญ ปาเลสไตน์”

กรุงเทพฯ 29 ธ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลางบุกรวบ “ขวัญ ปาเลสไตน์” ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงตำรวจสุรินทร์ พร้อมยาบ้าเกือบ 400 เม็ด สอบประวัติ พบเกี่ยวข้องคดียาเสพติดมากแล้ว 7 คดี


พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.เปิดเผยผลปฏิบัติการจับกุม นายกิตติ หรือขวัญ ปาเลสไตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดียิงตำรวจ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ว่า นายกิตติฯ อายุ 25 ปี ฉายา“ขวัญ ปาเลสไตน์”เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ในความผิดฐาน “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่น่าจะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” พร้อมตรวจยึดของกลาง ยาบ้าได้ 396 เม็ด ชุดจับกุมติดตามจับได้ที่ห้องพักย่านบางแค เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา

สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เหตุเกิดเมื่อ 27ตุลาคม 2564 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งมน ได้รับแจ้งว่านายกิตติกำลังมั่วสุมอยู่กับกลุ่มวัยรุ่นอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ ตำรวจจึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ตำรวจได้แสดงตัวเพื่อจะเข้าทำการจับกุม แต่นายกิตติ ขัดขืนและวิ่งหลบหนี จากนั้น ส.ต.ท.ชนาธิป โตพฤกษา วิ่งไล่ติดตามไป เมื่อนายกิตติ เห็นตำรวจไล่ติดตาม จึงใช้อาวุธปืนพกสั้นที่พกติดตัวมาเล็งยิงเข้าใส่ ส.ต.ท.ชนาธิปฯ จำนวน 1 นัด แต่กระสุนไม่แตก


ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.สาธิต ราษีทอง ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปสกัดในจุดที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เมื่อนายกิตติ วิ่งมาประจันหน้ากับ ร.ต.ท.สาธิต

นายกิตติ ได้ชักปืนยิงใส่ ร.ต.ท.สาธิต จำนวน 3 ครั้ง แต่กระสุนไม่แตก จากนั้นนายกิตติ ได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าทึบไป ตำรวจติดตามการข่าวความเคบื่อนไหวจนทราบเบาะแสว่า ผู้ต้องหาหลบซ่อนในบางแค กรุงเทพมหานคร จึงได้ขอหมายค้นและเข้าจับกุม ซึ่งในขณะตรวจค้นก็พบกระเป๋าต้องสงสัย จึงตรวจค้นและพบว่า ภายในมียาบ้า อยู่ 396 เม็ด

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่นายกิตติฯ ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเป็นหนึ่งใน “แก๊งปาเลสไตน์” ซึ่งเป็นกลุ่มแก๊งค้ายาที่มีชื่อเสียงในภาคอีสาน โดยจะนำชื่อเล่นมา ประกอบกับชื่อ “ปาเลสไตน์” ซึ่งขณะนี้เพื่อนในกลุ่มยาเสพติดดังกล่าวได้ถูกจับกุมไปบางส่วนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมแก๊งนี้ให้ได้ทั้งหมด


สำหรับประวัตินายกิตติ พบว่ามีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด ตั้งแต่อายุ 14 ปี และถูกจับกุมเกี่ยวกับข้อหายาเสพติดมาแล้วจำนวน 7 คดี และยังมีหมายจับค้างเก่าอยู่อีก 1 หมายจับคือ หมายจับศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ.24/2564 ลงวันที่ 12 เมษายน 2564 ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน