กทม. 3 พ.ย. – สาววัย 19 ร้องกองปราบฯ ช่วยไกล่เกลี่ยเจ้าหนี้ หลังกู้เงินนอกระบบผ่านทางเฟซบุ๊ก ครั้งแรก 5,000 ผ่านไป 5 วัน กลายเป็น 8,000 จนต้องกู้หลายเจ้ามาโปะ กลายเป็นดินพอกหางหมู และถูกข่มขู่หนัก ผ่านมา 5 เดือน ยอดหนี้รวมดอกเบี้ยพุ่งกว่า 3 ล้านบาท
น.ส.ก้อย อายุ 19 ปี พร้อมพ่อแม่ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจกองปราบ หลังถูกข่มขู่ทวงหนี้จากแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบในเฟซบุ๊ก โดยอ้างตัวเป็นลูกตำรวจสกลนคร และเป็นครู ปล่อยเงินกู้อัตราสูงกว่ากฎหมายกำหนด ร้อยละ 20-40 กู้รายวัน เริ่มต้นจากกู้เจ้าหนี้รายแรก 5,000 บาท กำหนดชำระคืน 5 วัน ตั้งใจจะนำไปลงทุนซื้อเนื้อหมูไปจำหน่ายตามตลาดนัด ช่วยเหลือครอบครัวในช่วงโควิด แต่เมื่อครบกำหนด 5 วัน กลับถูกทวงเงินจาก 5,000 เป็น 8,000 บาท ผู้เสียหายไม่มีทางออก จึงไปกู้ยืมเงินนายทุนรายที่ 2 ผ่านช่องทางเดิมในเฟซบุ๊ก อัตราดอกเบี้ยเท่ากันคือ ร้อยละ 40 จากนั้นจึงกู้ยืมเงินจากเงินกู้นอกระบบรายต่อไป มาจ่ายเจ้าหนี้รายแรกไปเรื่อยๆ ผ่านมา 5 เดือน ยอดหนี้รวมดอกเบี้ย พุ่งไปกว่า 3 ล้านบาท เธอยืนยันว่าได้เงินมา 2 แสนกว่าบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังถูกเจ้าหนี้ 1 ใน 10 ราย ทวงหนี้ข่มขู่ทำร้ายจนต้องหนีกลับบ้านเกิดต่างจังหวัด ให้แม่ช่วย และได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจกองปราบ เพื่อจะได้กลับไปเรียนหนังสือที่สกลนครต่อ โดยทางครอบครัวยินดีประนอมหนี้ชดใช้ให้เจ้าหนี้ทุกราย แต่ขอโอกาสกลับไปเรียนหนังสืออย่างปลอดภัย และขอให้ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ยลดดอกเบี้ยที่สูงเกินจริง. – สำนักข่าวไทย