คลิปเสียงกังขา ตร.รีดข้อมูลบางอย่างจากผู้ต้องหา

25 ส.ค. – คลิปเสียงกังขา ตำรวจรีดข้อมูลบางอย่างจากผู้ต้องหาคดียาเสพติด นอกจากเงิน 2 ล้านบาท


คดี “ผกก.โจ้” ยังเป็นข้อกังขาสังคม มีอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นใบรับรองการเสียชีวิตที่ออกมาว่าค่อนข้างขัดกับคลิปที่เห็น และคลิปฉบับเต็มที่ได้เห็นเพิ่มจากที่ทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งในคลิปที่ได้ยินเสียงไม่ได้พูดถึงเรื่องการรีดเงิน แต่เป็นการถามหาอะไรบางอย่าง ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าการที่ผู้กำกับโจ้ และพวก ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมนี้ มีเรื่องอื่นนอกเหนือจากการรีดเงิน 2 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวหรือไม่

นี่เป็นส่วนหนึ่งของคลิปเต็มความยาวประมาณ 10 นาที สร้างความกังขาให้กับคนที่สามารถทนดูภาพความโหดเหี้ยมอำมหิตได้จนครบ เพราะในคลิปเสียงจะได้ยินคำถามที่ต้องการรีดข้อมูลบางอย่าง และถามย้ำหลายๆ ครั้งว่าของอยู่ไหน ทำให้อาจเชื่อได้ว่านอกจากประเด็นการขู่เรียกเงิน 2 ล้านบาท ยังมีประเด็นอื่นด้วยที่ทำให้ ผู้กำกับโจ้พยายามอย่างหนักในการรีดข้อมูลจากผู้ต้องหา นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่าหนึ่งในตำรวจที่ถูกควบคุมตัวให้การซัดทอดว่าจำใจทำ เพราะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้กำกับโจ้ ส่วนปมการก่อเหตุขอยังไม่เปิดเผย


เช่นเดียวกับกรณีมีคลิปเผยแพร่ในโซเชียล ภาพนาทีที่ผู้กำกับโจ้ไปเจอหน้าพ่อกับแม่ของผู้ตาย รวมถึงก้มไหว้และกอดแม่ของผู้ตาย ซึ่งในตอนนั้นหลายคนบอกว่าพ่อแม่ยังไม่เห็นคลิปนี้ ทำให้เป็นที่มาว่า ในตอนนี้พ่อกับแม่มีความเห็นอย่างไร

ยังมีอีกประเด็นที่สร้างความกังขาให้กับสังคม คือเรื่องใบรับรองการเสียชีวิต ที่วานนี้เสนอข่าวไปว่าใบรับรองการเสียชีวิตที่ออกโดยโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และนายแพทย์ณัฐพงศ์ ตุลาพันธ์ แพทย์นิติเวช เป็นผู้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าสันนิษฐานว่าพิษจากสารแอมเฟตามีน ซึ่งไม่สอดคล้องกับคลิปที่ปรากฏออกมา

ทนายษิรา เบี้ยบังเกิด ถึงกับออกปากว่าการลงว่าเสียชีวิตจากพิษแอมเฟตามีนในหนังสือรับรองการตาย ทนายแบบตนไปไม่เป็นเลยถ้าไม่รู้สาเหตุ สันนิษฐานว่าหัวใจล้มเหลว ขาดอากาศหายใจอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ชี้นำแบบนี้


อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเฟซบุ๊กโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ได้ออกหนังสือชี้แจงประเด็นนี้ มีใจความสำคัญในย่อหน้าแรกคือ ผู้เสียชีวิตอายุ 24 ปี ได้รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลปริ้นปากน้ำโพ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2564 เวลา 19.20 น. และเสียชีวิตลงในวันที่ 6 ส.ค. 2564 เวลา 13.00 น. โดยทราบประวัติจากโรงพยาบาลปริ้นปากน้ำโพ ว่าผู้ตายวิ่งหนีตำรวจขณะจับยาเสพติดแล้วล้มลงหมดสติ ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวขณะอยู่โรงพยาบาล

หลังเสียชีวิตได้ทำการชันสูตรพลิกศพที่กลุ่มงานนิติเวช โดยแพทย์นิติเวช และทำการผ่าศพวันที่ 7 ส.ค. 2564 เวลา 09.00 น. เนื่องจากต้องรอผลตรวจโควิดของผู้ตาย การตรวจคัดกรองปัสสาวะพบสารเมทแอมเฟตามีนและสารแอมเฟตามีน โดยลงสาเหตุการตายเบื้องต้นในหนังสือรับรองการตายว่า สันนิษฐานว่าพิษจากสารแอมเฟตามีน ขณะนี้กำลังรอผลตรวจระดับสารเมทแอมเฟตามีนในเลือด และผลการชันสูตรพลิกศพ เพื่อนำมาสรุปในรายงานชันสูตรฉบับสมบูรณ์ที่จะออกในสัปดาห์หน้า

หนังสือรับรองการตายที่แพทย์ออกให้ หลังการผ่าพิสูจน์ทันที เพื่อให้ญาติไปทำมรณะบัตรเป็นเพียงข้อมูลขั้นต้น ที่อาจเหมือนหรือแตกต่างจากรายงานการชันสูตรพลิกศพที่มีในภายหลังได้ เพราะผลตรวจชิ้นเนื้อจากกล้องจุลทรรศน์ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติพิษวิทยาที่ออกมาภายหลัง จะทำให้สรุปสาเหตุการตายได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

โรงพยาบาลกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากผู้อยู่ในเหตุการรักษาพยาบาล และตรวจศพทั้งหมด เมื่อมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ยืนยันซ้ำว่าหนังสือรับรองการตายที่ปรากฏในสื่อ ยังไม่ถือว่าสิ้นสุด หนังสือรับรองการตายเป็นเพียงส่วนประกอบให้เขต ออกใบมรณะบัตรเท่านั้น แต่ในส่วนของคดีที่เป็นคดีอาญา ปกติต้องมีรายงานชันสูตรที่เป็นการผ่าศพ แยกธาตุประกอบ หามีความผิดปกติในสาเหตุการตาย เพื่อใช้ในการดำเนินคดี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของคดี (ตำรวจ) ได้แจ้งแพทย์นิติเวชว่าอย่างไร ส่วนกรณีที่มีคลิปปรากฏการทำร้ายร่างกายแบบขาดอากาศ หากมีการนำส่งร่างผู้ป่วยถึงโรงพยาบาล บางครั้งหลักฐานการทำร้ายร่างกายไม่ได้ปรากฏในทันที ต้องใช้เวลา และต้องใช้การผ่าศพแยกธาตุเท่านั้นจึงจะทราบข้อเท็จจริง

ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง ผบ.ตร. ขอให้มีคำสั่งตั้งให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน และปรับเพิ่มคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวน โดยมีใจความสำคัญว่า จากการลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริงของคดี และปรากฏภาพตามคลิปในสื่อโซเชียล เห็นว่าตำรวจทั้ง 6 นาย ที่ร่วมกระทำการก่อเหตุกับผู้กำกับโจ้ มีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นข้าราชการตำรวจ ต้องหาว่ากระทำความผิดคดีอาญา มีพฤติการณ์อันเป็นความร้ายแรง สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ โดยเป็นผู้รักษากฎหมาย แต่กลับกระทำตนละเมิดกฎหมายโดยใช้อำนาจหน้าที่ราชการ ถ้าคงอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไปจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบ สวนพิจารณาหรือจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นเป็นกรณีมีมูลเป็นการกระทำ ผิดวินัยร้ายแรง โดยที่การสอบสวนพิจารณาทางวินัยและอาญา อาจมีความสลับชับช้อน และการพิจารณาอาจไม่เสร็จสิ้นโดยเร็ว จึงเห็นควรมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 6 นายที่เกี่ยวข้องออกจากราชการไว้ก่อน

นอกจากนี้ยังขอให้ปรับเพิ่มคณะกรรมการสอบสวนอีก 6 นาย โดยมี พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช รอง จตช. เป็นประธานกรรมการ แทน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย