กทม. 1 ธ.ค. – “เพนกวิน” อ้างติดสอบ ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังมีผู้แจ้งความร้องทุกข์ให้ ปอท. ออกหมายเรียกวันนี้
พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ออกหมายเรียกนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (3) ในคดีที่นายสุเฑพ ศิลปะงาม ร้องทุกข์กล่าวโทษ
เมื่อถึงเวลานัดตามหมายเรียก 10.00 น. ปรากฏว่านายพริษฐ์ก็ยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม นายพริษฐ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าวันนี้ไม่มาพบพนักงานสอบสวน ส่วนเหตุผลให้สอบถามจากทนายความ
ด้านพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยืนยันยังไม่ได้รับการติดต่อจากทีมทนายความของนายพริษฐ์ว่าจะขอเลื่อนไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ด้วยเหตุผลอะไร ทั้งนี้ หากมีการประสานขอเลื่อนเข้ามาและมีเหตุผลเพียงพอ พนักงานสอบสวนสามารถอนุญาตและนัดหมายให้มาพบในครั้งถัดไปได้ แต่หากยังไม่มีการติดต่อขอเลื่อนตามขั้นตอนกฎหมาย พนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2
มีรายงานว่าวันที่ 2 ธันวาคม เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน ปอท. ได้ออกหมายเรียกให้นายอานนท์ นำภา เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ล่าสุด พ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 3 บก.ปอท. เปิดเผย ได้รับการติดต่อจากทนายของเพนกวิน ประสานมาขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกวันนี้ อ้างเหตุผลว่าเพนกวินติดสอบ พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วฟังได้ จึงนัดให้มาอีกครั้งวันพุธที่ 9 ธ.ค.2563 เวลา 13.30 น.
มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
นายเชษฐา ทรัพย์เย็น ประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย นำคณะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน พร้อมย้ำจุดยืนของการมีสถาบันพระมหากษัตริย์คู่กับสังคมไทย เนื่องด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์มีคุณูปการอย่างสูงยิ่ง ร่วมกับกลุ่มประชาชนทุกหมู่เหล่าในการสร้างชาติมาด้วยกัน จนทำให้ประเทศไทยตั้งมั่นและยั่งยืนจวบจนทุกวันนี้ แต่ไม่ขอสนับสนุนให้มีการรัฐประหาร เพื่อแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองใดๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการดำรงอยู่ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข บุคคลมีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมภายใต้กรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ต้องไม่ละเมิดบุคคลอื่น
ขณะที่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานกรรมาธิการฯ ออกมารับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า ขอยืนยันสถาบันต้องอยู่คู่กับคนไทย และต้องอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง เราจะทำเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอขอบคุณทุกท่านที่จงรักภักดี .-สำนักข่าวไทย