ผบ.ตร.รับยังจับฆาตกรคดี “น้องชมพู่” ไม่ได้

กทม.2 ต.ค.- ผบ.ตร.ยืดอกรับยังจับฆาตกรคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” ไม่ได้ ยันไม่หยุดทำคดี ชี้ผู้ก่อเหตุเป็นคนใกล้ชิด และมีผู้ต้องสงสัยอยู่ในใจ


พลตํารวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพลตำรวจโทยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และพันตำรวจเอกเผด็จ งามละม่อม ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ”น้องชมพู่”เด็กหญิงวัย 3 ขวบแห่งบ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ตำรวจตั้งสมมติฐานในการดำเนินคดีฐาน พรากเด็กและกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้เสียชีวิต และซ่อนเร้นอำพรางศพ แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ใดได้ และพยายามรวบรวมพยานหลักฐานมานานถึง 4 เดือนก็ตาม ยืนยันว่า การสืบสวนสอบสวนยังไม่ยุติ เพราะคดีนี้มีอายุความ 20 ปี แม้ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากคดีไม่สามารถสรุปได้ภายใน 1 ปี ตำรวจจะต้องส่งสำนวนให้อัยการ ดังนั้นคดีน้องชมพู่ตำรวจ ยังคงสืบสวนสอบสวนขยายผลตามอายุความ 20 ปีที่เหลืออยู่ ขอให้มั่นใจแม้ว่า วันนี้(2 ต.ค.) จะยังตอบคำถามไม่ได้ว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุในคดีนี้  


ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเชื่อว่า น้องชมพู่ ไม่ได้เดินขึ้นไปเสียชีวิตเองแต่อาจถูกบุคคลที่รู้จักกันทั้งทางตรง หรือทางอ้อมทำให้เสียชีวิต

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เป็นผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้หรือไม่ เพราะตามพยานหลักฐาน ตำรวจยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุ และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใด ดังนั้นยังถือว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ กรณีมีการระบุว่า นายไชย์พล ตกเป็นจำเลยสังคม ต้องถามกลับไปว่าใครเป็นผู้กำหนดให้นายไชย์พล เป็นจำเลยสังคม

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังให้ความรู้เกี่ยวกับกรอบการสืบสวน โดยมีสมมติฐาน 3 ข้อคือ ผู้ก่อเหตุต้องเป็นคนใกล้ชิดกับน้องชมพู่ หรือ น้องชมพู่ถูกบังคับพาตัวไป หรือเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง และว่า ผู้ก่อเหตุต้องมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ รู้จักป่าภูเหล็กไฟ ที่พบศพเป็นอย่างดี ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ ตำรวจต้องสอบสวนขยายผลต่อทั้งประเด็น แรงจูงใจในเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ หรือความขัดแย้งของบุคคลใกล้ชิดกับน้องชมพู่


ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า มีบุคคลต้องสงสัยอยู่ในใจแต่ ไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมยอมรับอีกว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของสังคม ทำให้การสืบสวนคดีทำได้ยาก เพราะมีกลุ่มบุคคลจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวข้องในพื้นที่ แต่ย้ำว่า ตำรวจยังคงสืบสวนและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าววันนี้  มีการนำคลิปวีดีโอเกี่ยวกับผลการชันสูตรศพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีการจำลองและการทดสอบทางนิติวิทยาศาสตร์รวมทั้งการตรวจสอบทางด้านกีฏวิทยา (แมลง)​ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ มาเปิดเผย ผลการชันสูตร​พอจะระบุช่วงเวลาการเสียชีวิตได้ว่า น้องชมพู่ เสียชีวิตช่วงเวลาประมาณ 14 นาฬิกาของวันที่ 12 พฤษภาคม จนถึงช่วงเวลาประมาณ 14 นาฬิกาของวันที่ 13 พฤษภาคม และแพทย์ยังระบุอีกว่า ไม่พบร่องรอยบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิต และไม่พบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่จากการสอบสวน แพทย์ผู้ชันสูตร​ฯ ให้ความเห็นว่าน้องชมพู่ อาจเสียชีวิตจากการขาดน้ำและอาหาร พร้อมยอมรับว่า การชันสูตรศพน้องชมพู่ทำได้ยาก เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่า  ส่วนผลการตรวจสอบเส้นผมที่พบในจุดเกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐาน ได้นำเส้นผมดังกล่าว ไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่า นอกจากเส้นผมของน้องชมพู่แล้ว ยังพบเส้นผมของบุคคลอื่นในจุดเกิดเหตุ ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบุคคลทางฝั่งของแม่น้องชมพู่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของบุคคลใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

ยิ่งลักษณ์ขอกลับไทย

“มาริษ” แจง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้ประสาน กต. ขอกลับไทย

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เผยยังอยู่ระหว่างพิจารณาบุคคลเป็นคณะกรรมการ JTC ย้ำจะทำให้เร็วที่สุด แจง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้ประสาน กต. ขอกลับไทย ไม่รู้ “ทักษิณ” ถือกี่สัญชาติ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งทางตอนล่าง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลมแรงและอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

ทนายดิไอคอน แจ้งความเอาผิด “กฤษอนงค์-ฟิล์ม” พยายามฉ้อโกง

“ทนายบอสพอล” แจ้งความเอาผิด “กฤษอนงค์-ฟิล์ม” พยายามฉ้อโกง จ่อฟันเอาผิดเพิ่ม 89 ขบวนการอ้างตัวเป็นผู้เสียหาย