มุกดาหาร 14 ส.ค. – “ลุงพล” นอนคุกคืนแรก หลังศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 26 ปี คดี “น้องชมพู่” ปรับตัวได้ พูดคุยปกติ ด้านเอฟซีลุ้นศาลให้ประกัน
หลังศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาในคดีน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักภายในหมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร เมื่อปี 2563 โดยศาลสั่งจำคุกนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล จำเลยในคดีดังกล่าว เป็นเวลา 26 ปี จากเดิม 20 ปี ฐานเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่มีเหตุอันสมควร และอำพรางศพ ส่วน “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ต่อมายื่นขอประกันตัว แต่ศาลฎีกาพิจารณาไม่ทัน จึงนำตัวไปยังเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร
เอฟซีสั่งเมนูอร่อยให้ “ลุงพล”
ช่วงเช้าที่ผ่านมา (14 ส.ค.) ยูทูบเบอร์ พร้อมเหล่าเอฟชี ประมาณ 10 คน เดินทางมาที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร นำของใช้ส่วนตัวมาให้ อย่างแชมพู แป้งเย็น ครีมอาบน้ำ แปลงสีฟัน ยาสีฟัน กาแฟแบบซอง ส่วนอาหารอย่างกาแฟดำ ตำแตง ข้าวเหนียว อ่อมไก่ ปิ้งปลาดุก
เอฟชีลุงพลบอกว่าตอนนี้ป้าแต๋นอยู่ที่ศาลมุกดาหาร เพื่อรอลุ้นคำสั่งจากศาลฎีกา ว่าจะสั่งให้มีการประกันตัวและปล่อยตัวในช่วงเวลาไหน ซึ่งให้ได้เพียงข้อมูลและไม่ให้สัมภาษณ์ หลังจากนั้นทางยูทูบเบอร์และเอฟซีเดินทางไปที่ศาลมุกดาหาร เพื่อลุ้นคำสั่งการประกันตัวต่อไป
ราชทัณฑ์เผย “ลุงพล” นอนคุกคืนแรกปรับตัวได้
นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา เรือนจำจังหวัดมุกดาหารได้รับตัวนายไชย์พล ซึ่งศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี และอยู่ระหว่างฎีกา โดยทางเรือนจำได้ตรวจร่างกายแรกรับทั่วไป พบว่ามีผลปกติ ไม่พบบาดแผล พร้อมทั้งปฏิเสธโรคประจำตัว และไม่มียาใดๆ ติดตัวมา ขณะที่การตรวจสุขภาพจิตไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ไม่แสดงอาการเครียดให้เห็นชัดเจนมากนัก มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ต้องขังอื่นเป็นปกติ โดยเจ้าตัวมีการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในเรือนจำเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ทั้งนี้ ยังไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยอีกว่า ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการรับตัวเข้าเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายไชย์พล เข้าห้องแยกกักโรคโควิด-19 รวม 5 วัน โดยให้อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังรับใหม่รายอื่น ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันได้ ไม่ได้แสดงอาการเศร้าหมองหรือแยกตัว คาดว่าต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักระยะ ซึ่งเป็นไปตามปกติของการเข้าเรือนจำวันแรก จากนั้นหากแยกกักโรคครบ 5 วันแล้ว จึงจะนำไปคุมขังรวมกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ต่อไป ทั้งนี้ ญาติสามารถติดต่อขอเยี่ยมที่เรือนจำได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ส.ค.นี้ .-สำนักข่าวไทย