กทม.4 ก.ย.- การค้าขายย่านบางลำพู-ถนนข้าวสาร ที่เพิ่งกระเตื้องขึ้นกลับมาซบเซาอีกครั้ง หลังพบชายติดโควิด-19 ทำงานอยู่ย่านนั้น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย รายงานบรรยากาศการค้าขายย่านตลาดบางลำพู ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 เป็นชายวัย 37 ปี ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงย่านดังกล่าว เป็นไปอย่างเงียบเหงาต่างจากปกติที่จะมีคนมาจับจ่ายซื้อหาอาหาร เสื้อผ้าอย่างคึกคัก
นางสาวปุณิกา อ้นเงิน แม่ค้าข้าวแช่หน้าตลาดบางลำพู เล่าว่า การค้าเริ่มซบเซาตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ก่อนจะกระเตื้องขึ้นบ้าง แต่พอมีข่าวพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศและทำงานอยู่ในย่านนี้ทำให้เกิดความซบเซาอีกรอบ ส่วนตัวมองว่าตอนนี้ปัญหาสำคัญคือคนไม่มีเงินใช้สอยและไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยจากโรคเพราะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ก็ต้องป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด
ขณะที่ถนนข้าวสาร มีผู้ค้าตั้งแผงลอยตามริมทางบางตา ร้านอาหาร บาร์เบียร์ ยังไม่เปิดให้บริการ บรรดาผู้ค้าส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกับการพบผู้ติเเชื้อรายใหม่เพราะเกรงว่าอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เพิ่มเติม
ด้านเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้นำรถตรวจชีวนิรภัยพระราชทาน มาให้บริการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยใช้วิธีการเก็บตัวอย่างจากเยื่อบุโพรงจมูก ไปตรวจสอบใช้เวลา 2 วัน จะทราบผล
นางเม ชาวเมียน ที่มารอเข้ารับบริการตรวจโรค เล่าว่า ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19 ทำงานอยู่สถานบันเทิงในถนนข้าวสาร แต่ตอนนี้ไม่มีงานทำเพราะนักท่องเที่ยวน้อย ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก และยังมีความกังวลกับการแพร่ระบาดของโรคนี้อีกครั้ง
นางเกียว ศรีมณฑก อายุ 74 ปี เจ้าของร้านค้าประเภทกระเป๋าและเสื้อผ้า ยืนยันว่าตั้งแต่ค้าขายในถนนข้าวสารมากว่า 40 ปี ไม่เคยมีความซบเซาขนาดนี้ ค้าขายยากลำบาก เงินทองหายาก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องแบกรับภาระค่าเช่า บางร้านก็ต้องปิดกิจการไปเพราะไม่คุ้มกับรายได้ และยังต้องกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโรคอีกครั้ง จะทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่านี้ ส่วนเรื่องที่จะร้องขอรัฐบาลให้มาช่วยเหลือ ตนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร
ขณะที่สถานบันเทิงที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำงานอยู่ ปิดให้บริการเพื่อทำคามสะอาด โดยนำป้ายชื่อหน้าร้านออกไปตั้งแต่วานนี้(5 ก.ย.).-สำนักข่าวไทย