“ประยุทธ” รองโฆษกฯ ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงคดี “บอส”

กทม.27 ก.ค.- รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงการสั่งคดี “บอส อยู่วิทยา” ทุกอย่างจะชัดเจนใน 7 วัน

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด หนึ่งในคณะทำงานฯ เปิดเผยก่อนการประชุมถึงกรอบการประชุมนัดแรกในการตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีของอัยการคดีพิเศษอาญากรุงเทพใต้ 1 หลังมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ  อยู่วิทยา หรือบอส ว่าจะมีการพิจารณาใน 3 ประเด็นหลักตามที่อัยการสูงสุดได้สั่งการ ประเด็นแรกคือ คำสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ประเด็นที่ 2 เป็นไปตามระเบียบกระบวนการหรือไม่ และประเด็นที่ 3 มีเหตุและผลอย่างไรที่พิจารณาสั่งไม่ฟ้อง  โดยอัยการสูงสุดมีกรอบให้ทำงาน 7 วัน ในการสรุปประเด็นดังกล่าว กรณีสังคมตั้งข้อสังเกตต่างๆ เช่น เรื่องพยานบุคคล 2 คน ที่ทำให้อัยการเชื่อได้ว่าคดีนี้เป็นความผิดฐานประมาทร่วม แทนข้อกล่าวหาเดิม ในรายละเอียดคงไม่สามารถระบุได้


ส่วนกรณีที่อัยการและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นตรงกันสั่งไม่ฟ้องนั้น จะสามารถรื้อฟื้นคดีขึ้นมาได้อีกหรือไม่นั้น รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่าเร็วเกินไปที่จะสรุปในประเด็นนี้ ขอให้คณะทำงานได้ตรวจสอบสำนวนทั้งหมดก่อน แต่ตามหลักของกฎหมายแล้ว หากความเห็นสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด อัยการไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ เว้นแต่จะมีพยานหลักฐานใหม่ในคดี หรือญาติของผู้เสียหาย ยื่นฟ้องต่อศาลเอง

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยังตอบสิ่งที่สังคมเคลือบแคลงสงสัยการถึงความเป็นกลางในการทำงานของพนักงานอัยการว่า  การตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา ก็เพื่อที่จะหาข้อเท็จจริง รวมทั้งการสั่งคดีว่าการทำงานของพนักงานอัยการเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า หากผลการตรวจสอบพบว่ามีการทำงานบกพร่องจะลงโทษพนักงานอัยการผู้สั่งคดีหรือไม่ ขอให้คณะทำงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย