“ทิดอลงกต” เปิดหมดเปลือก สวมชื่อ “อลงกต พลมุข” หนีทหาร

27 ส.ค. – “อดีตพระอลงกต” เปิดหมดเปลือกเดิมชื่อ “เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว” เรียนไม่จบ ปวช. เคยขึ้นทะเบียนทหารกองเกินที่ อ.เมืองขอนแก่น แต่ไม่ได้เกณฑ์ทหาร เพราะช่วงปี 2524 ไปทำงานที่มาเลเซีย สวมรอยใช้ข้อมูลเพื่อนรัก “อลงกต พลมุข” เพื่อหนีทหาร


เดลินิวส์รายงานว่า จากการสอบปากคำ “อดีตพระอลงกต” ให้การรับสารภาพและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะข้อมูลยืนยันตัวบุคคล โดยระบุว่าเดิมทีชื่อนายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว ชื่อเล่นจอร์จ เป็นชาว จ.ขอนแก่น เกิดเมื่อปี 2503 เรียนที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย ก่อนที่ไปเรียน ปวช. ที่เกษตรบ้านกร่าง จ.พิษณุโลก แต่ไม่จบหลักสูตร ซึ่งระหว่างนั้นได้ขึ้นทะเบียนทหารกองเกินที่ อ.เมืองขอนแก่น แต่ไม่ได้เกณฑ์ทหาร เพราะช่วงปี 2524 ได้ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ทำงานเป็นคนเขียนแบบสร้างตึกปิโตรนาส โดยออกไปทางช่องทางธรรมชาติ

ในปี 2529 เดินทางกลับเข้ามาในไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ มากับคณะผู้แสวงบุญ เพื่อมาศึกษาพระธรรม ก่อนที่จะบวชวันที่ 1 มี.ค. 2529 เวลา 07.36 น. ที่วัดลำนารายณ์ และมาอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 2536 จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นนายอลงกต พลมุข เพื่อหนีทหาร


คำถามคือทำไมเลือกชื่อนายอลงกต พลมุข ที่แท้ทั้งคู่รู้จักกัน อดีตพระอลงกต บอกว่าเป็นเพื่อนรักกัน สนิทกันมากสมัยอยู่ที่ขอนแก่น แต่นายอลงกตตัวจริงไม่รู้ว่าถูกตนสวมรอยใช้ชื่อนี้ ส่วนรายละเอียดของใบสุทธิที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงนั้น ยอมรับว่าเป็นผู้เขียนเองทั้งหมด

วิญญาณไม่ช่วยอะไร “หมอบี” เครียดจัด ถูกจับ 3 ข้อหาหนัก

นอกจากนี้คืนเดียวกันกับที่จับอดีตพระอลงกต เจ้าหน้าที่ยังเข้าจับกุมนายเสกสันน์ หรือ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” เจ้าของเพจ “งมงาย สไตล์หมอบี” โดยถูกตั้ง 3 ข้อหาหนัก คือ ร่วมกันทุจริต ยักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน, สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน


ตำรวจค้นบ้านพักของหมอบี พบเงินสด มีทั้งที่ใส่ซองและวางไว้ภายในบ้าน รวมกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งหมอบีอ้างว่าเป็นเงินที่ผู้เข้ามาขอคำปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว นำมามอบให้ด้วยความศรัทธา โดยตนไม่เคยเรียกร้องอะไร เขานำมามอบให้เอง

ด้านนายกสานติ์ ปัญญาชัยรักษา ทนายความของหมอบี บอกว่ามั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่ พร้อมเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัว 6 หลัก จนกระทั่งช่วงเย็น ตำรวจสอบปากคำหมอบีนานถึง 12 ชั่วโมงแล้ว ทนายความเปิดเผยอีกครั้งว่ายังไม่ได้พูดคุยกับหมอบีเลย เนื่องจากยังติดกระบวนการการสอบปากคำ จึงยังไม่ยื่นขอประกันตัว ส่วนจะถูกแจ้งข้อหาอะไรบ้างนั้นยังไม่ทราบ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า แม้ได้สร้างความดี แต่ภายหลังมีเงินบริจาคและทำบุญเข้ามาที่วัดจำนวนมหาศาล จนนำไปใช้จ่ายอย่างอื่น และกระทำความผิดมานานกว่า 10 ปี ทั้งซื้อที่ดิน ทำสนามฟุตบอล และลงทุนในรูปแบบบริษัท มีทั้งกำไร-ขาดทุน โดยยอดเงินที่ตรวจพบประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนจะมีรายละเอียดอื่นๆ อีกหรือไม่ ขอให้ตรวจสอบก่อน

ส่วนการตรวจสอบอดีตช่วงเวลาที่หายไปก่อนบวช การสวมชื่อและเลขประชาชนผู้เสียชีวิต หรือการหนีทหารนั้น ยังไม่ขอให้รายละเอียด เพราะเกรงว่าข้อมูลจะคลาดเคลื่อน ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้ครบถ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อน แต่ยืนยันได้เบื้องต้นว่าช่วงที่หายไปมีเรื่องของการกระทำความผิดอย่างแน่นอน

ประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าอดีตพระอลงกต มีครอบครัว มีลูกและภรรยาหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มีการเก็บ DNA นำไปตรวจสอบเพื่อไขข้อสงสัยให้กับสังคมแล้ว

พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงการสอบปากคำหมอบี ว่าเรื่องนี้มีสารตั้งต้นมาจากเงิน 300 ล้านบาท คดีหลักในมูลนิธิใจฟ้าอคาเดมี่ หลังจากนี้จะต้องขยายผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าที่บริจาคในส่วนของเงินของวัดพระบาทน้ำพุ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง และขยายผลถึงทรัพย์สินที่มีบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ต้องหาที่กระทำความผิด ซึ่งจะมีความผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์ที่อยู่ในส่วนรับผิดชอบดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เป็นบุคคลกลุ่มที่ถือครองทรัพย์ และเกี่ยวข้องกับการบริหารมูลนิธิ รวมถึงจัดการเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ส่วนเส้นเงินต่างๆ ยอมรับว่าอุปสรรคของคดีนี้คือเงินทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นเงินสด ต้องใช้เวลาตรวจสอบ ซึ่งหมอบียังไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร

ช่วงเวลา 03.00 น. (27 ส.ค.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำตัวอดีตพระอลงกต และหมอบี เข้าห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

โดยขณะตำรวจควบคุมตัวเข้าห้องคุมขัง ผู้ต้องหาทั้งสองปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับสื่อมวลชนในประเด็นต่างๆที่เป็นข้อสงสัย โดยอดีตพระอลงกตยิ้มตอบรับกับสื่อมวลชน แต่จากการสังเกตผู้ต้องหาทั้งสองมีอาการอ่อนเพลียหลังจากถูกสอบปากคำนานกว่า 24 ชั่วโมง

พนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า การสอบปากคำเบื้องต้น อดีตพระอลงกตยังให้การเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับหมอบีให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยอ้างว่ามีหลักฐานมาหักล้างการกระทำความผิด จากบัญชีที่เปิดรับบริจาค

ภายหลังการสอบปากคำ พนักงานสอบสวนมีความเห็นค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี และกลัวว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอื่นๆ ซึ่งการสอบสวนถือว่าเป็นการสิ้นสุดแล้ว ก่อนนำตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายในวันนี้ (27 ส.ค.) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]