“ทักษิณ” โชว์ปาฐกถาแก้ยาเสพติด อาสา ลงชุมชนหาตัวพ่อค้ายา

ป.ป.ส. 27 พ.ค.- “ทักษิณ” โชว์ปาฐกถาแก้ยาเสพติด อาสาลงชุมชนหาตัวพ่อค้ายา แนะใช้งบฯ ตั้งศูนย์บำบัด 700 อำเภอ ประกาศพร้อมคุยเพื่อนบ้าน ไม่ปรานีกลุ่มว้า ค้ายาเสพติด


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่ 3/2568 โดยการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานอาเซียน มาบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ซึ่งมีการบรรยายถึงภาพรวมสถานการณ์ยาเสพติดทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน พร้อมแนะนำนโยบายและแนวทางในการบูรณาการเพื่อปรับใช้กับสังคมไทยปัจจุบัน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต้อนรับว่า การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้การฯ ผู้ว่าฯ สาธารณสุขจังหวัด รวม 600 คน ร่วมประชุม เป็นวาระจุดเปลี่ยนในการแก้ปัญหายาเสพติด ในนามประธาน ครส. ที่นายกฯ แต่งตั้ง ปัญหายาไม่ใช่ภารกิจประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นภัยคุกคามข้ามแดน เชื่อมโยงฟอกเงิน การค้ามนุษย์ ปัญหายาเสพติดในไทยยังสะท้อนความต้องการภายในยังมีอยู่ในระดับวิกฤติ ปี 66 ยึดได้สูงสุด 190 ตัน เพิ่มขึ้น 25.7% ปี 67 /1,000 กว่าล้านเม็ด การแก้ยาเสพติด ทำดีที่สุดในประเทศได้แค่ 60% อีก 40% อยู่ในระดับโลก หัวข้อปาฐกถาของนายทักษิณวันนี้จึงมีความสำคัญ


นายทักษิณ กล่าวปาฐกถาโดยทักทายผู้ร่วมประชุมว่า ในนี้มีผู้ใหญ่เยอะมาก แต่ผมแก่สุด มีพี่เสริมแก่กว่าคนเดียวที่เคยเป็นกำลังสำคัญในการปราบยาเสพติดยุคผม ต้องให้ทุกคนตระหนักถึงภัยคุกคาม ทั้งตอนนี้และอนาคต เมทแอมเฟตามีน ทำลายสมองส่วนหน้า ทำให้เด็กเราเป็นโรคซึมเศร้า เยาวชนไทยกำลังถูกทำลาย คนที่ลูกโตก็มีหลานที่ยังต้องห่วง ไม่มีอะไรเกินสมองเราทำได้ แต่ไทยเราต่างคนต่างทำ ต่างใช้งบ แต่ไม่สำเร็จขาดการบูรณาการ ขาดทิศทางชัดเจน วันนี้ดีใจได้รับเชิญมาพูด ความจริงอึดอัดอยากพูด ชาวบ้านบอก เรื่องเศรษฐกิจรอได้ แต่เรื่องยาเสพติดรอไม่ไหวแล้ว ตอนผมป่วยผมดูข่าวยาเสพติดยังนั่งคิด ตอนนั้นกรณีเด็กมหาวิทยาลัยเกษตรฯ จึงเริ่ม ตอนนี้ปัญหายาเสพติดเยอะมาก แต่ปัจจุบันกับอดีตต่างกัน วันนี้แหล่งผลิตอยู่ว้าแดง นักค้ารายใหญ่หนีไปข้างบ้านหมด มีรายย่อยฝังตัวในหมู่บ้าน ไม่มีใครไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อค้ายาเสพติด ยกเว้นแต่เจ้าหน้าที่ที่ไม่รู้เรื่อง การแก้ตรงนี้ต้องประยุกต์ของเก่ามาเป็นเรื่องใหม่ ทุกหน่วยต้องมีใจ เพราะอันตรายมาถึงลูกหลานเรา ผมชอบคำสอนในพุทธศาสนา ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ปัญหาอยู่ที่ไหนต้องแก้ที่นั่น เมทแอมเฟตามีน มีตลาดใหญ่สุดที่ไทย เพราะเรามีตังค์ที่สุด เมทแอมเฟตามีนจึงเทมาที่ตลาดเรา ตอนนี้มีหน่วยงานที่แก้ปัญหายาเสพติด ถึง 29 หน่วยงานมันเยอะกระจายมากไป ต้องให้เหลือน้อยหน่วยที่สุด เรื่องปราบ ตำรวจ ทหาร ศุลกากร มหาดไทย ศุลกากร ต้องป้องกันเข้าทางเรือ ตอนนี้ 6 ล้านตู้ต่อปี เครื่องเอกซเรย์ไม่พอ เปิดบ้างไม่เปิดบ้าง ตั้งใจไม่เปิดตู้ละหมื่น ศุลกากรเป็นช่องว่าง ทั้งสินค้าจีน เคมีภัณฑ์ ที่ไม่เปิด ฟลุ๊กหรือตั้งใจ วันนี้เราแย่สู้คนอื่นไม่ได้ถอยหลัง ระบบราชการต่างคนต่างทำขาดเจ้าภาพ ขาดเคพีไอ ต้องเป็นยุคบริหารองค์กรที่ผ่านมาทำธุรการไปวันๆไม่มีเป้าหมาย

แหล่งผลิตที่ว้าแดง สามเหลี่ยมทองคำรัฐฉาน วันนี้ผมกับเพื่อนบ้านสัมพันธ์ค่อนข้างดี มิน อ่อง หล่าย ก็รู้จักดี ผมเป็นคนแก่ที่ยังมีชีวิตอยู่มีความสัมพันธ์แต่บังเอิญไปไหนไม่ค่อยได้ ถึงเวลาต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน หากพม่าบอกจัดการไม่ได้เพราะเป็นชนกลุ่มน้อย เราต้องขอจัดการเองเพราะเป็นศัตรูของเราต้องมีวิธีที่สากลรับได้ ต้องจัดการเรื่องแหล่งผลิต อีกไม่กี่เดือน รมว.ตปท.ต้องไปจัดการให้ว้าแดงเลิกผลิตยาเสพติด เราไม่ควรปรานีต่อศัตรู ต้องมีความชัดเจน

ต้องผนึกกำลังใหม่ วางเคพีไอให้ชัดเจน สำคัญต้องจบที่หมู่บ้านชุมชนต้องขาวให้ได้ สมัยตน ให้เอ็กเรย์ทุกตารางนิ้วของไทย ตำรวจและฝ่ายปกครองต้องเป็นปาท่องโก๋ไปด้วยกัน มหาดไทยตำรวจต้องรักก้น อย่าให้พ่อค้ายาทุกคนรู้หมด อย่าให้มันอยู่ในหมู่บ้าน ต้องหาวิธีให้ไปอยู่ที่อื่น ทำอย่างไรก็ได้ ให้ไปอยู่ที่อื่น จับกุมไปอยู่เรือนจำ ตอนนี้ตนก็ว่างอยู่ ก็จะจะขออนุญาตนายกฯ ไปเที่ยวต่างจังหวัดชุมชนไหน มีพ่อค้ายาก็จะบอก รมว.มหาดไทบ รมว.ยธ.จะฟ้องไปเรื่อย เพราะตนเป็นคนขี้ฟ้อง


วันนี้ กอ.รมน.มีหน้าที่ช่วยแก้ปัญหายาเสพติดภาคใต้ มีคนบอกให้ยุบทิ้ง กอ.รมน.เพราะเสียดายงบ 7 พันกว่าล้านบาท ตอนนี้จะยุบหรือไม่ยุบ กอ.รมน. ต้องพิสูจน์ ช่วยแก้ยาเสพติดคราวนี้ เลื่อนเงินดิจิทัลประชาชนคงไม่โกรธ เอามาตั้งศูนย์บำบัดทุกอำเภอ ใช้สถานที่ที่หัวหน้าส่วนราชการเต็มใจ 700 อำเภอ ใช้งบ 3,500 ล้านเอง ให้ทุกอำเภอมีศูนย์ฯ หมด บำบัดอย่างเดียวไม่พอต้องคุมพื้นที่ด้วย คราวที่แล้วผมมี รร.วิวัฒนพลเมือง ชุมชนคลองเตยจับนักค้าไปอยู่ในคุก เด็กกลับมาหายาไม่ได้ 5 เดือน

สมัยนั้นตำรวจเอาจริง ที่ว่าตาย 2,000 ไม่จริง ยาเสพติดแค่ 70 คน ชาวบ้านไม่ยี่หระ ทำตามกฏหมาย เพียงแต่ต้องเด็ดขาด ชัดเจน ทำดี ให้รางวัล มีหลายแบบค่านำจับ วันนั้นเศรษฐกิจดี แต่วันนี้เราหนี้เยอะมาจากหลายปี ผบ.ตร.กับ รมว.มท. ว่างๆ ไปกินข้าวจะได้วางแผน

อีกส่วนคือ ศึกษาธิการ การให้ความรู้ต้องปลูกฝังแต่ชั้นอนุบาลเหมือนญี่ปุ่น วันนี้อาจารย์ทำวิทยะฐานะอย่างเดียวไม่ได้สอน ต้องเปลี่ยน ส่วนกระทรวงสาธารณสุขต้องเน้นบำบัด อย่าไปคิดว่าเป็นโรคจิตบางทีไปคอกเทลับกัญชากัญชง วันนี้ ต้องให้การศึกษากับเด็ก

นอกจากนี้ต้องซีลชายแดนขอความ ร่วมมือทหาร ช่องทางธรรมชาติทั้งหลายต้องปิด สุภาษิตเข้าเกียร์ว่างได้ตังค์ใช้ อย่าไปใช้ ต้องนำเทคโนโลยี ทำแอปฯ ต่างๆ ที่จะใช้ควบคุมยาเสพติดมาใช้ ตอนนั้นตนทำสำเร็จเพราะปลุกทุกคน เห็นว่า เป็นอันตราย ทำทุกทาง ปลายทาง อย่าให้มีพ่อค้ายาฯ หลงเหลือจะอยู่ไหนก็ให้ไป ที่หนีไปอยู่เพื่อนบ้านก็ต้องออกหมายจับ ทุกหม่องถ้าใครยุ่งกับยาอย่าไปญาติดีด้วยเหมือนแสกมเมอร์ ตัดน้ำตัดไฟ ที่ว้า ตอนนี้แน่นอนมันรวยมากมีเครื่องมือ ซื้อมาจากจีน กับจีนจึงต้องคุยทางการทูตจริงจัง ถ้าค้ายาถือว่าเป็นศัตรู ต้องหาข่าว ถ้ามันใช้ไฟฟ้า สื่อสารของไทยก็ต้องตัด ใครไม่ลงมือถือว่าเป็นปฏิปักษ์ สมรู้ร่วมคิด

ส่วนปัญหาภาคใต้ก็ไม่ยาก บทจะพูดก็ต้องตรงไปตรงมา บทจะต้องทุบก็ต้องทำ วันนี้ถ้าเหยาะแหยะแก้ไม่ได้ ต้องทำให้ชัดเจน

ฝากรองนายกฯ อนุทิน พัฒนาฝึกอาชีพคนที่ผ่านการบำบัด และอำเภอไหนไม่มียาเสพติด ประกาศให้รางวัลเลย อำเภอนี้สีขาว มีรางวัลจูงใจ โปรโมชั่นต่างๆ ทุกคนทำงานอยากให้ผู้บังคับบัญชารับรู้ อย่าให้ประเพณีไม่ทำไม่ผิดฝังในระบบราชการ ส่วนสมัยตนแก้ยาเสพติดเน้นดีมาน ซัพพลาย ตัดความต้องการ เรื่องนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ วันนี้ติดคุก 2 แสนกว่าคน อยู่ข้างนอกอีก 4 แสนกว่า นี่คืออนาคตเด็กไทย ลำพังโตมาจะสู้เขาไม่ได้ ทั้งเรื่องการศึกษา เรื่องเศรษฐกิจ ที่ทำให้เรียนไม่ได้เต็มที่ เทคโนโลยีแต่แม้เราไม่แข่งเขาก็จับเราแข่งยาเสพติดจึงเป็นปัญหา มาช่วยกันเถอะ เอกซเรย์ทุกพื้นที่ เอาพวกค้ายาออกไป ความเก่งของข้าราชการไทย ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ใครทำไม่ได้ขอไม้แขวนเสื้อจาก กพ. สัก 10 ไม้ ใครไม่ทำ ทำไม่ได้ให้คนอื่นมาทำ ถ้าเขารู้ว่าเราจริงจัง ก็จะแก้ปัญหาได้ ตนว่างจะรับอาสานายกฯ ที่ไหนมียาเสพติดจะฟ้อง

นายทักษิณ ยังได้ตอบคำถาม รมว.ยุติธรรม กรณีปัญหากระท่อม กัญชา ที่ขณะนี้ เดือดร้อนมาก ขอว่าไม่ถึงกับกลับที่เดิม แต่จะแก้กฎหมายหรือทำอย่างไร โดยนายทักษิณ บอกว่า เราซ้ายไม่ดีก็ไปขวา เรื่องนี้ บางประเทศไม่เดือดร้อน เพราะเขาชัดเจน มีการควบคุม ไม่ต้องแก้กฎหมาย คุมได้ทำไปก่อน วันนี้นักท่องเที่ยวบอกว่าหาซื้อที่ไหน อาหารกัญชาบราวนี่ เด็กไปซื้อ แขกแต่งงานเมียหัวใจวายเพราะซื้อบราวนี่มา ถ้าที่อามเตอร์ดัม ร้านขายกัญชา รู้เลยถ้าไปเพราะคนตั้งใจไป วันนี้ไปซื้อคิดว่าดีความไม่รู้เยอะ คนไทยไม่ศึกษา มองสวยไม่มองความรู้อันนี้เป็นจุดอ่อนคนไทย ข้าราชการจึงต้องช่วยไกด์ โลภ โกรธหลงคือโง่ไม่ใช่ไอคิวต่ำนะ แต่โง่ความไม่รู้ เฟคนิวส์กำลังสอนคนให้โง่ ที่ปล่อยข่าวว่าหนีไปแล้ว วันนี้กลับมาหรือ แต่งนิยาย ผมอยากให้นักแต่งนิยายแฮรี่พอตเตอร์ที่นั่งกินกาแฟแก้วเดียว ทำเงินได้ ของเรานิยายน้ำเน่าเยอะ ช่อง 7 สีสอนมาดี จินตนาการเยอะหลอกไปมาเชื่อ บอกนายกอิงค์ไปรอ ผมจะหนีตามไป ผมหนีไปทำไม สังคมต้องตั้งหลักให้ดี เรายังไม่มีระบบตรวจสอบเลยต้องเสริมเขี้ยวเล็บใช้เอไอให้ถูกทาง

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เป็นคนเริ่ม เรื่องผู้เสพคือผู้ป่วย เอาไปเข้าค่ายทหารไปฝึก 3-4 เดือน ล้างความอยาก ต้องดูพฤติกรรมเป็นหลัก แต่แนวโน้มเดี๋ยวนี้เสพไปขายไปด้วย เลยขายให้ญาติเพื่อน ไม่ใช่นักค้าอาชีพ และแพร่ระบาดมากช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ การแก้ต้องดูในรายละเอียดลงไป

สำหรับการประชุมนี้จะมีการรายงานความคืบหน้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติด การพัฒนาระบบบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด การใช้ช้อมูลประวัติอาขญากรรมของผู้ต้องหา เพื่อวางมาตรการเชิงรุก รวมถึงการนำเสนอผลการดำเนินการตามแผนเฉพาะกิจในพื้นที่เสี่ยง

โดยวันนี้มี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรรม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนดดีพิเศษ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายแพทย์ วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.ต.ท.พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสานักงานกิจการยุติธรรม พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.เสฏฐวุฒิ จันทนะ เลขาธิการ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บริหาร ป.ป.ส. ร่วมประชุม พร้อมผู้ว่าฯ, ผู้การฯ และสาธารณสุขจังหวัดร่วมประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเร้นท์.-119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]