3 ธ.ค. – บก.ปอท.ขยายผลเครือข่ายแก๊งหลอกลงทุน “ไฮโซน้ำแข็ง” และแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ 3 เครือข่าย รวมความเสียหายกว่า 149 ล้านบาท
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. เปิดปฏิบัติการ “Lockstar Season 2 ขยายผลจับมือขวาไฮโซน้ำแข็ง” สร้างแอปฯ ปลอมหลอกคนลงทุน ความเสียหายกว่า 23 ล้านบาท โดยตำรวจได้เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุด ในกรุงเทพฯ เชียงราย ระยอง ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหาได้ 13 คน โดยมีตัวการสำคัญคือนายหวัง สัญชาติจีน เป็นผู้สั่งการ ส่วนที่เหลือเป็นผู้ต้องหาชาวไทย เวียดนาม และสิงคโปร์ ทำหน้าที่ดูแลบัญชีม้าและกระเป๋าเงินดิจิทัล ยึดทรัพย์สินเป็นบ้านหรู โฉนดที่ดิน รถยนต์ และหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย รวมมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท
คดีนี้มีผู้เสียหายถูกกลุ่มมิจฉาชีพสร้างเว็บไซต์ลงทุนสกุลเงินดิจิทัลปลอม โพสต์ข้อความชักชวนลงทุน เสนอผลตอบแทนสูง จนผู้เสียหายโอนเงินไปลงทุนกับคนร้ายรวมกว่า 22.4 ล้านบาท แต่กลับพบว่าไม่มีการลงทุนจริง และจากข้อมูลรับแจ้งความจากศูนย์ AOC ก็พบว่ามีผู้เสียหายหลายคน ปัจจุบันเว็บปลอมดังกล่าวได้ปิดไปแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจได้เปิดปฏิบัติการ Lockstar ซีซั่น 1 จับกุมผู้ต้องหาที่เป็นกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์ ไฮบริดสแกมตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่าย ที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และคนดูแลเรื่องฟอกเงินเป็นชาวจีนและชาวไทยไว้แล้ว 6 คน หนึ่งในนั้นคือ “ไฮโซน้ำแข็ง” นักธุรกิจพันล้าน ก่อนจะขยายผลเข้าจับกุมขบวนการที่เกี่ยวข้องอีก 13 คนในครั้งนี้
เคสที่ื2 “ทลายแก๊ง หลอก รัก ลวง ลงทุน” ที่สร้างความเสียหายกว่า 46 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นรูปแบบที่เคยเห็นกัน คือสร้างโปรไฟล์คนหน้าตาดี น่าเชื่อถือ แกล้งทักผิดไปหาเฟซบุ๊กผู้เสียหาย ทำทีเป็นตีสนิท และใช้ AI สร้างวิดีโอคอลให้ผู้เสียหายหลงเชื่อคิดว่ามีตัวตนจริง ก่อนจะชักชวนผู้เสียหายลงทุนผ่านทางแอปฯ ปลอม มีการส่งแหวนเพชรและช่อดอกไม้ให้ผู้เสียหาย เพื่อสร้างความเชื่อใจ จนผู้เสียหายโอนเงินลงทุนไปกว่า 45.8 ล้านบาท ตำรวจจึงเข้าตรวจค้น 21 จุดใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 20 คน เป็นคนไทยทั้งหมด
หนึ่งในผู้ต้องหาที่จับกุมได้ คือนายยุทธชัย ที่ทำหน้าที่เป็นล่ามและผู้จัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับนายทุนชาวจีน มีรูปแบบการทำงานคล้ายบริษัทเอกชน และจะมีนายทุนและผู้จัดการชาวจีนคอยดูแลจัดการเรื่องต่างๆ ร่วมกับล่ามคนไทยและผู้จัดการชาวลาว ซึ่งแก๊งนี้ไม่ใช่แค่หลอกลงทุนอย่างเดียว แต่ยังเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ขู่กรรโชกทางเพศจากภาพโป๊เปลือยด้วย โดยนายยุทธชัยจะได้เงินเดือน 8,000 หยวน หรือประมาณ 40,000 บาท และรับค่าคอมมิชชั่นต่างหากตามจำนวนเหยื่อที่หลอกได้ ซึ่งมีทั้งเหยื่อคนไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม
เคสที่ 3 ปฏิบัติการ “Cyber Guardian” ทลายเครือข่ายหลอกลงทุนเทรดหุ้นออนไลน์ ความเสียหายกว่า 3.8 ล้านบาท ซึ่งตำรวจเข้าตรวจค้น 7 จุดในจังหวัดนครราชสีมา ตาก สงขลา และกรุงเทพฯ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน ยึดทรัพย์เป็นบ้านหรู คอนโดมิเนียมหรู โฉนดที่ดิน รถยนต์ ทองคำแท่ง ของแบรนด์เนม รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 80 ล้านบาท และจากการสืบสวนกระเป๋าเงินดิจิทัลของแก๊งนี้ก็พบว่าเกี่ยวข้องกับคดีที่ผู้เสียหายมาแจ้งความไว้หลายคดี และที่ผ่านมามีเหรียญเงินดิจิทัลถูกโอนเข้ายังกระเป๋าเงินดิจิทัลของแก๊งนี้รวมกว่า 2,000 ล้านบาท และเป็นกลุ่มคนร้ายเดียวกับที่ก่อเหตุในประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว.-416-สำนักข่าวไทย