21 พ.ค. – กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. จับกุมสาว อายุ 22 ปี ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ บิดเบือนหรือปลอม
พฤติการณ์สืบเนื่องจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความถูกแอบอ้างชื่อแพทย์และตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลในเครือ โดยคนร้ายหลอกลวงประชาชนผ่านบัญชีโซเชียลมีเดีย X อ้างสามารถออกใบรับรองแพทย์ได้โดยไม่ต้องพบหมอ แค่โอนเงินก็รอรับไฟล์ใบรับรองแพทย์ได้เลย ทำให้ได้รับความเสียหาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท.สืบสวนและแกะรอยทางออนไลน์อย่างใกล้ชิด พบว่าผู้ต้องหาใช้บัญชีโซเชียลมีเดีย X โพสต์ข้อความเชิญชวนอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนบภาพตัวอย่างใบรับรองแพทย์ปลอมที่จัดทำขึ้นเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและหลอกล่อให้ผู้ที่สนใจติดต่อเข้ามา เมื่อมีผู้หลงเชื่อติดต่อผ่านบัญชี X หรือแอปพลิเคชันไลน์ตามที่ระบุไว้ คนร้ายจะดำเนินการพูดคุย และเสนอใบรับรองแพทย์ในราคาตกลงกัน โดยไม่จำเป็นต้องพบแพทย์จริง จากนั้นจะให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่ระบุไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่าบัญชีไลน์และบัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนเงิน มีความเชื่อมโยงกับตัวผู้ต้องหาอย่างชัดเจน และยังพบหลักฐานการรับโอนเงินจากผู้เสียหายหลายราย
จากการตรวจค้นพบพยานหลักฐานสำคัญเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งผู้ต้องหาใช้เป็นเครื่องมือหลักในการจัดทำใบรับรองแพทย์ปลอม โดยมีการนำโลโก้ของโรงพยาบาลชื่อดัง และชื่อแพทย์จริงมาตัดต่อใส่ในเอกสาร ผ่านโปรแกรมตกแต่งไฟล์ในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือใบรับรองแพทย์ปลอมดังกล่าวถูกจัดทำในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ และส่งกลับให้ผู้ติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อใช้ในการอ้างสิทธิ์ต่างๆ เช่น การลางาน โดยไม่ต้องผ่านการตรวจร่างกายหรือพบแพทย์จริงแต่อย่างใด ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารอย่างแนบเนียน และสร้างความเสียหายทั้งต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นวงกว้าง เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนอย่าหลงเชื่อบัญชีโซเชียลมีเดียที่มีการโฆษณารับออกใบรับรองแพทย์ด่วน เนื่องจากใบรับรองเหล่านี้ ไม่ได้ออกโดยแพทย์จริงหรือโรงพยาบาลใดๆ ซึ่งไม่เพียงเสี่ยงต่อการถูกหลอกโอนเงินโดยไม่ได้รับเอกสาร แต่ยังอาจนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ติดต่อไปใช้ในทางมิชอบอีกด้วย ที่สำคัญ ผู้ที่นำใบรับรองปลอมไปใช้ เช่น การลางาน ลาพัก หรือยื่นต่อหน่วยงานต่างๆ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ฐานใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 ซึ่งมีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี และหากผู้ใช้บริการรู้ว่าผู้ให้บริการไม่ใช่แพทย์จริง หรือไม่มีสถานพยาบาลรองรับ ก็เข้าข่าย รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด.-416- สำนักข่าวไทย